จังหวัดขอนแก่นเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กแล้ววันนี้ พร้อมกับหลาย ๆ จังหวัดทั่วประเทศ ผู้ว่าขอนแก่น มั่นใจ เดือนพฤศจิกายนปีนี้ ถ้านักเรียนในจังหวัดฉีดครบทั้ง 2 เข็มแล้วเตรียมพิจารณาเปิดเทอมในภาคการเรียนที่ 2 ทันที

วันนี้ (4 ตุลาคม พ.ศ.2564) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ เขตการศึกษาพิเศษ เขต 9 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ร่วมเปิดกิจกรรม Kickoff สร้างเกราะด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม พร้อมกันกับสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ในการให้บริการวัคซีนให้กับเด็กและเยาวชนในกลุ่มอายุ 12 - 18 ปี เข็มที่ 1 ไฟเซอร์ โดยมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่เข้าเกณฑ์อายุตามที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกวันนี้ 78 คน

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า “การให้บริการวัคซีนในกลุ่มอายุ 12 - 18 ปี พร้อมกันทั้งประเทศวันนี้ทุกจุดฉีดวัคซีนมีการดำเนินการพร้อมกันโดยขอนแก่นนำร่องในกลุ่มเด็กพิเศษ ที่ทุกคนได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองและเข้ารับวัคซีนเข็มแรกวันนี้และจะทยอยการให้บริการวัคซีนครอบคลุมทุกพื้นที่อำเภอของจังหวัดตามการจัดสรรของกระทรวงสาธารณสุข 

“ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการพบว่ากลุ่มอายุดังกล่าวทั้งจังหวัดมีทั้งสิ้น 147,000 คน โดยมีการยินยอมให้ฉีดวัคซีนรวม 90,000 คน ซึ่งชุดแรกของการรับวัคซีนตามการจัดสรรนั้นจะต้องเข้ารับการฉีดเข็มแรกในรอบแรกประมาณ40,000 คน”

"ขอนแก่นมีเด็กนักเรียน 12 - 18 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย โดยจากการสำรวจทั้งหมดมีอยู่ 147,000 คน ที่จะต้องเข้ารับการฉีดและขณะนี้มีการยินยอมทั้งผู้ปกครองและนักเรียนอยู่ที่ประมาณ 90,000 คน เริ่มฉีดวันนี้จะเป็นที่โรงเรียนศรีสังวาลย์เป็นโรงเรียนเด็กพิเศษ และอีกหนึ่งที่เปิดให้บริการที่ศูนย์ประชุมไคซ์ เป็นความรับผิดชอบของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ที่จะมีการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนขอนแก่นวิทยายน ประมาณ 2,400 คน และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเป็นจุดฉีดของ รพ.ศรีนครินทร์ ที่ทำการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมานเช่นกัน ซึ่งวันนี้ขอนแก่นได้รับวัคซีนมาจากทางส่วนกลาง 47,580 โดส แล้วก็จะทยอยมาเป็นระยะ ๆ ภายใน 3 สัปดาห์เข็มที่ 1 จะต้องได้รับการฉีดทั้งหมด ประมาณ 85% ของกระทรวงศึกษาธิการได้วางแผนเอาไว้เพื่อให้โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนให้ได้ในเทอมที่2"

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ดังนั้นสัดส่วน เพราะ 85% ของจังหวัด กลุ่มอายุ 12-18 ปีที่จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนจะอยู่ที่ประมาณ 130,000 คน ดังนั้นคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจะต้องวางแผนฉีดเข็มแรกในช่วง 3 สัปดาห์แรกให้ดี เพื่อการจัดสรรวัคซีนอย่างมีคุณภาพต้องสดใหม่และเป็นไปตามมาตรฐานและวงรอบที่ 2 อีก 3 สัปดาห์ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่กำหนดคาดว่าไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายนก็จะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและก็จะมั่นใจได้ว่าลูกหลานเราจะได้เข้าสู่การเรียนตามปกติ”

ส่วน นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 กล่าวว่า “วันแรกของการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเด็กพิเศษ ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เด็ก ๆ เข้ารับวัคซีนตามการให้บริการของศูนย์อนามัยที่ 7 วันนี้อย่างพร้อมเพรียงซึ่งทุกคนต้องการที่จะกลับมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในภาคเรียนที่ 2 ตามแผนงานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด อีกทั้งโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนประจำที่นักเรียนกิน - นอน อยู่ที่โรงเรียน” 

“ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขซึ่งกรมอนามัย ได้เข้ามาให้ความรู้และดำเนินงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็นต้นแบบของการดำเนินงานได้อย่าวดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามศูนย์อนามัยที่ 7 สามารถให้บริการวัคซีนให้กับประชาชนได้วันละประมาณ 600 คน ดังนั้นการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเด็กนักเรียนจึงเป็นแผนงานที่สำคัญที่ต้องทำทันทีคู่ขนานกับการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายและประชาชนทั่วไปเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นอย่างครอบคลุมทั้งจังหวัดตามแผนงานที่รัฐบาลได้กำหนดไว้” นพ.ชาตรี กล่าว