เครือข่ายผู้ใช้ไอคอสหนุน รมว DES ปลดล็อกไอคอส ชี้ อย สหรัฐอนุญาต ไอคอส เป็นผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงขายได้ 67 ประเทศ ไทยไม่ควรเสียโอกาส

เพจมนุษย์ควันหนุน “รมว DES” ปลดล็อกไอคอส ชี้งานวิจัยจากต่างประเทศระบุช่วยลดความเสี่ยงได้เมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ ติงรัฐบาลไม่ควรฟังแต่เหตุผลของกลุ่มรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ แต่ควรศึกษางานวิจัยและแนวทางการควบคุมจากต่างประเทศ ย้ำอยากเห็นผู้แทนในสภาลุกขึ้นสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างโอกาสด้านภาษี และสุขภาพให้กับประเทศไทย 

 

จากการนำเสนอข่าวประชุม ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ช่วงการเคาะโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ โดยระหว่างการพิจารณา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่า ควรพิจารณาใหผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน หรือ “ไอคอส” ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก ให้เป็นของถูกกฎหมาย และเก็บภาษีเข้ารัฐ เพราะในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปและหันไปนิยมบุหรี่รูปแบบใหม่มากขึ้น หากทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะช่วยสร้างโอกาสและลดการขาดทุนของการยาสูบแห่งประเทศไทยหากมีการตั้งโรงงาน ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ รัฐไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย และสามารถจัดเก็บรายได้ทางภาษีได้มากขึ้น พร้อมหยิบยกผลการวิจัยจำนวนมากที่ระบุว่า ไอคอสมีผลกระทบต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวน
 
นายสาริษฎ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊ก “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามประมาณเกือบ 30,000 คนเผยว่า “ผมว่าคนไทยดีใจและไม่แปลกใจที่ รมว ชัยวุฒิ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมานำเสนอ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ไอคอสจะยังผิดกฎหมายแต่ในประเทศไทยมีผู้ใช้ไอคอสจำนวนมาก ไม่น่าจะต่ำกว่า 1-2 แสนคน แถมยังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักการเมือง ทั้ง ส.ส. ในสภา และรัฐมนตรีเองก็เป็นผู้ใช้กันหลายคน แต่รัฐบาลกลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น” 


 
“ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์นี้ มีวางขายอย่างถูกกฎหมายเกือบ 70 ประเทศทั่วโลก ในญีปุ่นและเกาหลีก็หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-eleven และเมื่อเดือน ก.ค. 63 องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (US-FDA) ก็ได้อนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน สามารถสื่อสารในฐานะผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ลดการได้รับสารที่เป็นอันตราย จากการขออนุญาตผลิตภัณฑ์ยาสูบลดความเสี่ยงที่เรียกว่า MRTP ว่าไม่มีการเผาไหม้ ลดการเกิดสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างมีนัยยะสำคัญ และถ้าเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่แบบเดิมมาใช้ ก็จะสามารถลดการได้รับสารอันตรายลงได้อย่างมาก”
 
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทางสาธารณสุขและแพทย์ยังยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความอันตรายอยู่ ท่ามกลางข้อถกเถียงของสังคมในปัจจุบัน เพราะมีการออกมาเรียกร้องให้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เหล่านี้ถูกกฎหมาย และมีการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบอย่างจริงจัง เนื่องจากข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในประเทศไทยและข้อมูลที่ในต่างประเทศขาดความสอดคล้องกัน

“ถ้าไอคอสอันตรายขนาดนั้น ทำไมอีก 67 ประเทศทั่วโลกจึงอนุญาตให้ขายได้ถูกต้องตามกฎหมาย น่าผิดหวังที่รัฐบาลไทยและกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ยังหยิบยกเรื่องความอันตรายของผลิตภัณฑ์มาอ้างแบบผิดๆ ตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับผลการวิจัยของต่างประเทศ และแนวทางการควบคุมผลิตภัณฑ์นี้อย่างถูกกฎหมายของ หลายๆ ประเทศ เช่น อเมริกา นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีอาจยังไม่เคยได้เห็นข้อมูลการวิจัยเหล่านี้ หรือไม่เคยทราบว่าต่างประเทศมีความก้าวหน้าเรื่องนโยบายยาสูบแบบให้ความร้อนไปถึงไหนแล้วบ้าง ผมอยากเห็นรัฐมนตรีคนอื่นๆ และ สส ในสภา ที่เป็นผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า และไอคอส ลุกขึ้นมาผลักดันและสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเป็นการช่วยเหลือผู้สูบบุหรี่ และเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย ทั้งในด้านสุขภาพ ด้านภาษี และมิติอื่นๆ เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ เพราะปล่อยไว้แบบนี้ คนได้ประโยชน์มีแต่คนที่ค้าขายอยู่ใต้ดินและเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตรับสินบน แต่ประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย เดี๋ยวผมจะส่งการวิจัยต่างๆ ให้นายกลุงตู่อ่านด้วย จะได้เข้าใจถูกต้อง” นายสาริษฎ์กล่าวเสริม