ครม.เคาะงบกลาง 2.7 หมื่นล.ใส่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 27,005.66 ล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งการขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา พร้อมกับสนับสนุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การเพิ่มเบี้ยความพิการ และดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ 

ทั้งนี้ในวงเงินนี้ได้แยกเป็น 4 เรื่อง คือ 1.ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ/ค่าไฟ วงเงิน 2,018 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 – ก.ย. 2565 แยกเป็น กรณีใช้ไฟฟ้าครอบคลุม ผู้มีบัตรฯ 1.9 ล้านครัวเรือน ส่วนกรณีสนับสนุนค่าน้ำประปา ครอบคลุมผู้มีบัตรฯประมาณ 186,625 ครัวเรือน 2. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ ให้ผู้มีบัตร 13.65 ล้านคน วงเงิน 18,815 ล้านบาท 

ส่วนแรก เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ โดยผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้ ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55บาท/คน/3 เดือน ส่วนที่ 2 คือ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก. ระบบอี-ทิคเก็ต/รถไฟฟ้า บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน และส่วนที่ 3 คือเบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน

3. ดำเนินโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ วงเงิน 1,642 ล้านบาท เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ และ 4. จัดสรรสวัสดิการให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท คาดว่า จะมีผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงมากขึ้น และครอบคุลมกลุ่มผู้ตกหล่นด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาและหลักเกณฑ์ของการเปิดลงทะเบียน