'ก้าวไกล' ยืนยันดันร่างพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ให้ทันสมัยประชุมนี้ พร้อมร่วมรับข้อเสนอ เครือข่ายญาติผู้เสียหายจากการซ้อมทรมานและอุ้มหาย

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนกลุ่มชาติพันธุ์ พรรคก้าวไกล ร่วมรับหนังสือจากเครือข่ายญาติผู้เสียหายจากการซ้อมทรมานและอุ้มหาย ที่จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร เร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหาย ที่รัฐสภา โดยมี นายธนัท ธนกิจอำนวย (ลูกนัท) พร้อมด้วย สิตานันท์ สัตยศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ถูกทำให้สูญหาย ณ ประเทศกัมพูชา ร่วมเรียกร้องต่อประเด็นดังกล่าว

รังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตนเองก็มีกลุ่มเพื่อนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกกระทำให้สูญหาย ซึ่งตนเคยรับประทานอาหารร่วมกับนายวันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ถูกทำให้สูญหาย ณ ประเทศกัมพูชาในสมัยที่ตนเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตนรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้ง ที่วันหนึ่งคนที่มีความตั้งใจอยากจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสังคมที่ดีงาม ไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้ได้ และสุดท้ายต้องถูกบังคับสูญหาย ถือเป็นความเจ็บปวดทุกครั้ง ที่เราไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ เขายังมีลมหายใจหรือเปล่า เราได้แต่รอ เราได้เเต่ฝัน เราได้แต่พยายามคิดในแง่บวกว่าเขาอาจจะอยู่ในที่ที่ดีกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ตนคิดว่ามันเป็นความเจ็บปวดเเละความทุกข์ทรมานของครอบครัว ของเพื่อนที่ต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายเเละป่าเถื่อนของสังคมที่เรากำลังอยู่ ที่คนต้องการเห็นสังคมเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถมีชีวิตได้อย่างปกติ

“ผมคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป เเละการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะมีการเรียกร้องให้มีร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองต่อการอุ้มหายเเละซ้อมทรมาน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเเปลงให้สังคมนี้เป็นประชาธิปไตยขึ้น เพื่อไม่ให้ใครต้องหวาดกลัวอีกต่อไป ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เเละเป็นสิ่งที่จะต้องทำ"

รังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหายและซ้อมทรมาน ถูกมองว่าไม่ใช่กฎหมายที่ทุกคนจะได้ใช้ประโยชน์ เป็นเรื่องไกลตัว แต่เราต้องไม่ลืมว่ากฎหมายนี้ เป็นการสร้างหลักประกันให้สังคมของเราไม่เป็นสังคมที่ป่าเถื่อนอีกต่อไป เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ในสังคมนี้ได้โดยปราศจากความหวาดกลัว หรือถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาได้รับผลกระทบ เราจะมั่นใจได้ว่า จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามหาความจริง เป็นเพื่อนที่เคียงข้างให้กับครอบครัวที่สูญเสีย ตนขอเเสดงความนับถือกับครอบครัวผู้สูญเสียที่พยายามไม่อยู่เฉย ตนยังจำได้ในวันแรก ๆ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ สังคมของเราหวาดกลัวขนาดไหน เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเป็นรายต่อไปเมื่อไหร่ ซึ่งตนคิดว่าการรวมกลุ่มเเละการไม่อยู่เฉย การพยายามพูดออกมา ไม่ใช่แค่การทำให้บุคคลที่ถูกอุ้มหายเเละซ้อมทรมานได้มีตัวตนเท่านั้น เเต่มันคือการประจานความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา เเต่การผลักดันที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือ การให้มีร่างกฎหมายที่จะคุ้มครองเรื่องนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระยะยาวต่อไปในอนาคต

รังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอเเจ้งข่าวดีต่อครอบครัวผู้สูญหาย เเละผู้เรียกร้องต่อกรณีนี้ว่า เมื่อวาน ( 7 ก.ย. 64) ทางวิปฝ่ายค้านได้หารือว่าจะเลื่อนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา ต่อจากร่างพรบ.ปฏิรูปการศึกษา ซึ่งที่ประชุมฝ่ายค้านเห็นด้วย โดยในช่วงเช้าตนได้หารือกับทางวิปรัฐบาลให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา โดยทางวิปรัฐบาลก็ได้ระบุว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งหมายความว่า โอกาสที่รัฐสภาจะได้พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านวาระที่ 1 ในสมัยประชุมนี้ ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น 

ในปัจจุบันเรามีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกัน 3-4 ฉบับ ของคณะรัฐมนตรี 1 ฉบับ ของสภาผู้เเทนราษฎร 3 ฉบับ ซึ่ง 1 ใน 3 ฉบับ คือ ฉบับที่คณะกรรมาธิการการฎหมาย การยุติธรรม เเละสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมพัฒนากับพี่น้องประชาชนยื่นเข้ามา ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เเละพรรคร่วมรัฐบาล ตนค่อนข้างมีความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรที่ทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ตกไปได้

“สิ่งที่ครอบครัวผู้สูญหาย พยายามพูดมาโดยตลอด วันนี้ไม่ได้ทำให้บุคคลที่ถูกทำให้สูญหายเเละซ้อมทรมานได้มีตัวตนต่อในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่วันนี้กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว และมันกำลังเกิดขึ้น กงล้อของการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้น กำลังหมุนไปเเล้ว ทุกคนอย่าเพิ่งท้อถอย ในที่สุดเเล้วเราจะสามารถคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้สูญเสียทุกคนได้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ อย่าหยุดพูด การไม่หยุดตรงนี้ วันหนึ่งเราจะได้ความเป็นธรรมกลับคืนมา ยังอยากให้ทุกคนมีหวังต่อไปในการที่สังคมจะเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ดีขึ้น" รังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่ มานพ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 64 ) พรรคก้าวไกล ในที่ประชุมส.ส.ของพรรคได้มีการหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยพรรคก้าวไกลมีมติที่จะเสนอต่อรัฐสภาให้เลื่อนญัตติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามบุคคลสูญหาย ฉบับที่ พ.ศ…. ขึ้นมาพิจารณาให้ทันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายการเมือง เเละฝ่ายนิติบัญญัติควรให้ความสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน คือ การประชุมเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน ณ นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส 

ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศไทยทำตามข้อตกลงที่ลงนามกับนานาอารยประเทศหรือไม่ ส่วนในประเทศไทย ตนเห็นในหลายกรณี อย่างล่าสุด กรณี พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผู้กำกับโจ้) ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย ซึ่งเกิดขึ้นจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำต่อประชาชน

นอกจากนี้ ตนในฐานะตัวแทนของกลุ่มชนชาติพันธุ์ ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชัยภูมิ ป่าแส ที่โดนเจ้าหน้าที่ทหารกระทำจนถึงแก่ชีวิต เเละพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ที่โดนกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการตรวจสอบความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการคุ้มครองอย่างยุติธรรมเเละเท่าเทียม