‘เดลตา’ มหาโหด!! วัคซีนเอาไม่อยู่ ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ = ‘ยิ่งเป็นไปไม่ได้’ | Knowledge Times EP.15

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
 ????‘เดลตา’ มหาโหด!! วัคซีนเอาไม่อยู่ ‘ภูมิคุ้มกันหมู่’ = ‘ยิ่งเป็นไปไม่ได้’

นักจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยฮ่องกง ชี้! วัคซีนโควิด-19 ที่มีในปัจจุบันท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ทำให้เราไม่สามารถสร้าง “ภูมิคุ้มกันหมู่" (Herd Immunity) ได้อีกต่อไป

“หยวนกั๋วหย่ง” นักจุลชีววิทยาและทีมวิจัยมหาวิทยาลัยฮ่องกง ระบุบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า (Ming Pao) ว่า เกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสายพันธุ์เดลตายังสามารถทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้อยู่ ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 อยู่ ซึ่งพวกเขากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ภูมิคุ้มกันหมู่สามารถสร้างขึ้นได้หาก 70% ของประชากรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ แต่จากการคำนวณล่าสุด ทีมวิจัยพบว่า เกณฑ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 97.4% แล้ว เมื่อเจอกับสายพันธุ์เดลตา

นั่นหมายความว่า ประเทศที่ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ท่ามกลางสายพันธุ์เดลตาด้วยวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ จะต้องฉีดวัคซีนให้ประชากรถึง 97.4% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งตัวเลขนี้ คิดจากกรณีประสิทธิภาพป้องกันต่อสายพันธุ์เดลตาของไฟเซอร์อยู่ที่ 88% แต่ในบางประเทศก็รายงานประสิทธิภาพไฟเซอร์ลดลงเมื่อเจอเดลตา ซึ่งอาจหมายความว่า “ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีในปัจจุบันให้ประชากรกี่คน ก็อาจไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อสายพันธุ์เดลตาให้เกิดขึ้นได้”

ขณะเดียวกัน เมื่อคำนวณประสิทธิภาพการใช้วัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค ซึ่งมีอัตราประสิทธิภาพประมาณ 60% พบว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่จำเป็นสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 142.9% ของจำนวนประชากร ซึ่งเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้” !! 

เมื่อการฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่า 100% เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่กลับกันไวรัสยังคงกลายพันธุ์และแพร่เชื้อได้มากขึ้น จนทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จึงเหมือนการพยายามสร้างปราสาทบนท้องฟ้า และสะท้อนให้เห็นว่าวัคซีนรุ่นแรกไม่ดีพออีกต่อไป 

ฉะนั้น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการจัดการกับระยะต่าง ๆ ของการระบาด โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเป็น 0 และผลักดันให้เกิดการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัส โดยทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีน จากนั้นค่อยมาหารือถึงแนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสต่อไป

แต่หากอัตราการฉีดวัคซีนยังต่ำ ก็เป็นเรื่องยากที่จะพูดถึงมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดที่ควรนำมาใช้ในระยะต่อไป

ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้โพสต์ข้อความถึงการศึกษาดังกล่าวว่า “นี่เป็นการคำนวณของทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง เพื่อหาค่าเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ได้รับวัคซีนแต่ละชนิด เพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันหมู่ต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งภูมิคุ้มกันหมู่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากวัคซีนและไวรัสที่มีอยู่ในปัจจุบัน...วัคซีนช่วยให้เราไม่ป่วยหนัก ส่วนเรื่องการป้องกันการติดเชื้อเราต้องช่วยวัคซีนทำงานด้วยการป้องกันตัวเอง

“หลักการของภูมิคุ้มกันหมู่ คือ ไวรัสจะถูกตัดตอนเมื่อเชื้อเข้าไปสู่คนที่มีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน เพราะไม่สามารถแพร่กระจายต่อให้คนอื่นได้สำหรับเดลตาและวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้ คนฉีดวัคซีนติดเชื้อได้และมีปริมาณไวรัสพร้อมส่งต่อให้คนอื่น ๆ ไม่น้อยกว่าไปกว่าคนที่ไม่ได้รับวัคซีน ภูมิคุ้มกันหมู่ในนิยามนี้คงไม่เกิดขึ้น วัคซีนช่วยให้เราต่อสู้กับโควิด-19 ที่รุนแรงได้ แต่คงไม่ช่วยให้เราปลอดจากโควิด-19 ได้”

ดังนั้นต้องเร่งฉีดวัคซีนแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและการเสียชีวิต 

แม้วัคซีนสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ แต่ไม่สามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสได้ ไม่ว่าจะมีอัตราการฉีดวัคซีนกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9