“เลขาประธานรัฐสภา” เผย ร่างพ.ร.บตำรวจฯ อยู่ในชั้นกมธ. วิสามัญ  มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ สตช.ให้สอดคล้องภารกิจตำรวจ

นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้เสนอ ว่า ขณะนี้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งเป็นร่างที่ ครม.ได้เสนอต่อรัฐสภา โดยร่างพ.ร.บ.ตำรวจฯมีทั้งหมด 172 มาตรา  มีสาระสำคัญที่น่าสนใจคือมีการกำหนดหน้าที่และอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และเพื่อให้สอดคล้องกับการปฎิบัติภารกิจของตำรวจก็ได้มีการกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อโอนภารกิจที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของ สตช.เช่นกองกำกับการตำรวจรถไฟ ภาระกิจงานจราจร ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีการโอนไปให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีภารกิจนั้นโดยตรงรับไปดำเนินการ การจัดระเบียบราชการในสตช.กำหนดแบ่งส่วนราชการอย่างน้อยต้องมีกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค ให้มีกองบังคับการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรจังหวัด และปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน มีการแบ่งข้าราชการตำรวจออกเป็นสองประเภทคือข้าราชการตำรวจที่มียศและข้าราชการตำรวจที่ไม่มียศ กำหนดให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์มากยิ่งขึ้น และบทบาทของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจในร่างพ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ จะมีการปรับปรุงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์และเรื่องคุ้มครองระบบคุณธรรมต่างๆด้วย

นายราเมศกล่าวต่อว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีประเด็นที่น่าสนใจ คือการกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจมีหน้าที่และอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชนจากการกระทำของข้าราชการตำรวจที่กระทำการอันมิชอบ ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำรวจ กระทำผิดวินัย ก็จะเป็นกลไกที่สำคัญในการที่จะมาปลดเปลื้องทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากข้าราชการตำรวจและการกำหนดให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการบริหารงานจัดให้มีกองทุนเพื่อการสืบสวนสอบสวนและกาดป้องกันการปราบปรามกระทำความผิด รวมถึงการปรับบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง