“เสกสกล” ซัด  “หญิงหน่อย” จวก “บิ๊กตู่”เพราะอยากนั่งเก้าอี้นายกฯแทน หรือไม่ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตสูง เป็นลำดับต้นของโลก พร้อมจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 ตามที่พรรคเสนอพิมพ์เขียวไว้ 5 ข้อ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาลและทีมแพทย์ ทำงานไม่เคยหยุดเพื่อที่จะหามาตรการเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ส่วนข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย ทำอยู่แล้วทั้งตรวจเชิงรุก ทั้งจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit - ATKแจกจ่ายประชาชนทุกคน หากใครที่ผลเป็นบวกมีอาการสีเขียว ติดต่อสายด่วนสปสช. เพื่อขอรับยา และเข้ารับการรักษาที่บ้านหรือศูนย์พักคอยชุมชน ซึ่งดำเนินการมานานแล้ว ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีนก็ทำอย่างต่อเนื่อง และจะมีวัคซีน mRNA เข้ามาตั้งแต่ปลายปีนี้ ไปถึงต้นปีหน้า 

"คุณหญิงสุดารัตน์ เคยเป็นถึงอดีตรมว.สาธารณสุข น่าจะเข้าใจสถานการณ์ประเทศ และการทำงานของรัฐบาล แต่ทำเป็นหูหนวกตาบอด ไม่รู้เรื่องอะไร เพราะหาแต่ประเด็นโจมตีคนอื่นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง และเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าวันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นลำดับ 1 ของโลก แล้วมาแก้ไขข้อความว่าเป็นประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นลำดับต้นของโลก จึงขอให้ติดตามข้อมูลให้ดี ให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชน อย่าเอาข้อความเท็จมาใส่ร้ายประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ทำตัวเช่นนี้เหมาะสมกับการเป็นคุณหญิงหรือไม่”นายเสกสกล กล่าว 

นายเสกสกล กล่าวว่า ในสมองของคุณหญิงสุดารัตน์ มีอยู่สองเรื่อง คือ บีบให้นายกฯ ลาออกให้ได้ เพราะมีความหวังจะเป็นตัวเลือกแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่กับหวังให้มีการยุบสภาฯ เพราะพรรคไทยสร้างไทยเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่จะได้มีส.ส.เข้าสภาฯ ในการเลือกตั้งสมัยหน้าอย่างหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ จึงปั่นกระแสบิดเบือนด้อยค่ารัฐบาลทุกวัน หวังผลการเมืองส่วนตน ไม่สนใจลงมือช่วยกันแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน จะเป็นจะตายก็ช่าง ขอเพียงให้ตนเองได้มีอำนาจอย่างนั้นใช่หรือไม่ ขอฝากถึงประชาชนคนไทยว่า พรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนที่จงใจบิดเบือนปั่นกระแสทำลายบ้านเมือง เล่นการเมืองบนความทุกข์ยากของประชาชนในยามวิกฤต ไม่สมควรที่จะให้มีที่ยืนบนถนนการเมือง ต้องจดจำเขียนแปะติดฝาบ้านไว้ อย่าให้ได้ผุดได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือนักการเมืองหน้าไหนก็ตาม