“สนธิญา” ร้อง กกต.ยุบเพื่อไทย กรณีให้ข้อมูลเท็จ  สร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิดไม่ถูกต้อง ผิด ม.45 กม.พรรคการเมือง  

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสนธิญา  สวัสดี เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย จากการกระทำการที่ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560  มาตรา 45  ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 3 คน ที่กระทำผิดมาตรา 45  และเป็นไปตามบทกำหนดโทษ ในมาตรา 92  (3) และ(4)  โดยขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางด้านการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทั้งหมด  

นายสนธิญา กล่าวว่า การแถลงข่าวของ 3 คน  ประกอบด้วยการแถลงข่าวของ  น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  ที่ระบุถึงวัคซีนแอสต้าเซเนก้าว่าขยะเขาคือสมบัติของเราในการแถลงข่าว ว่าวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า ต่างประเทศเขาไม่ใช้แล้ว เป็นขยะที่เขาไม่รับ  แต่ทั้งที่วัคซีนแอสต้าเซนเนก้ายังเป็นวัคซีนหลักของประเทศเรา ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนไปแจ้ง ปอท.แล้ว  ซึ่งในเรื่องนี้ทางกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระบุว่าวัคซีนแอสต้าเซเนก้า  มีคนจองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมากว่า 3 พัน 9 ล้านโดส   การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลง ถือเป็นการใช้ความเท็จ ขัดต่อ  พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรง  ทำให้ประชาชนเกิดความกลัวในการที่จะไปฉีดวัคซีน

การแถลงของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานะหนี้ของประเทศ 9 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนร้อยละ 60  แต่จาการแถลงของกระทรวงการคลังระบุว่าหนีสาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ 8.8 ล้านล้านบาท และหนี้ครัวเรือนร้อยละ 8.1 การที่นายพิชัยพูด ที่พบว่าหนี้อีกกว่า 1 ล้านล้านบาท  เอามาจากไหน  เพราะอย่าลืมว่า 1 ล้านล้านบาทเท่ากับ ร้อยละ 40 ของรายจ่ายประเทศไทยทั้งประเทศ 1 ปี  การแถลงไม่ตรงกับความเป็นจริง ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้จึงถือว่าเป็นการก่อกวน ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในประเทศ  

และการที่นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด  แถลงว่ารัฐบาลชุดนี้จะปราบโกง  แต่พบพวกตัวเองโกงมากกว่าอีก  จึงขอถามกลับไปที่นายอนุสรณ์ว่าที่เคยแถลงมาเคยไปฟ้อง ไปร้อง ป.ป.ช หรือหน่วยงานไหนหรือไม่   หากพบทุจริตจะต้องไปร้องกับหน่วยงานต่างๆ ทุกแห่งอย่างที่ตนทำ  ไปร้องจนนายกฯอยู่ประเทศไทยไม่ได้เหมือนนายกฯทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์  แต่เรื่องที่แถลงไม่เคยเห็นนำไปสู่การแจ้งความหรือดำเนินคดี  รวมทั้งข้อมูลการอภิปรายในสภาฯ ก็ไม่สามารถนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลได้ 
เพราะฉะนั้นการแถลงไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ซึ่งการแถลงของทั้ง 3 คน ที่แถลงในนามนักการเมืองและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา  45   และบทลงโทษตาม มาตรา 92  กกต.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค   และในเรื่องลักษณะเช่นนี้จะใช้ตรวจสอบพรรคก้าวไกลต่อไปที่ให้ข้อมูลเท็จ   

นายสนธิญา  ยังเรียกร้องทุกพรรค ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การจะให้ข้อมูลไปสู่ประชาชนน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์  และเมื่อ 2 วันที่แล้วตนยังไปฉีดแอสต้าเซนเนก้า สิ่งเล่านี้อยากให้การแถลงข่าวเป็นประโยชน์ประชาชน อย่าก่อกวน แต่อ้างรัฐธรรมนูญให้สิทธิ 

“วันนี้การกระทำนั้นเป็นการก่อกวน แล้วทำให้ประชาชนคนไทย ไม่สงบเรียบร้อย และบางส่วนจึงเป็นที่มาของการไม่เข้าไปฉีดวัคซีน และเรียกร้องวัคซีนใหม่ แต่วัคซีนทุกๆตัวก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และผ่าน อย. และกรมการแพทย์ เพื่อให้เป็นวัคซีนที่เป็นประโยชน์กับประชาชน  ซึ่งผมก็ฉีดมาแล้ว ไม่มีผลกระทบ หรือฟี๊ดแบ๊คใดๆ”  นายสนธิญา กล่าว