#เก็บตกยูโร2020

ถามว่า ผู้ชายคนไหนในโลก ที่ทำลายสถิติไม่หยุดไม่หย่อน หนึ่งในนั้นคงต้องมีชื่อ ‘เฮียโด้’ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ด้วยแน่นอน เมื่อคืนหลังพาทีมชาติโปรตุเกสเอาชนะทีมชาติฮังการีไปได้ 3-0 ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนซัดประตูไปถึง 2 ลูก ก็ทำให้เฮียโด้ก้าวขึ้นไปเป็น ‘ดาวซัลโวตลอดกาล’ ในศึกฟุตบอลยุโรป ด้วยจำนวนลูกยิง 11 ประตูด้วยกัน

นี่ยังไม่นับสถิติอีกมากมายที่เจ้าตัวรอทำลาย อาทิ จำนวนการลงเล่นในศึกฟุตบอลยูโรมากที่สุด (นับรวมตั้งแต่รอบคัดเลือก) ซึ่งตอนนี้เป็นรอง จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลีอยู่แค่ 1 นัด หรือพูดง่ายๆ ว่า หากเฮียโด้ลงเล่นครบในรอบแรกยูโรหนนี้ พี่แกก็จะขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ลงเล่นในศึกฟุตบอลยูโรมากที่สุด รวมทั้งยังเป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย มากที่สุดถึง 5 สมัยด้วยกัน (นับตั้งแต่ยูโร 2004 ถึงยูโร 2020)

ขออนุญาตใช้คำหยาบคายสักนิดว่า ‘คนบ้าอะไร จะเก่งได้ขนาดนี้’ ปีนี้โรนัลโด้อายุปาเข้าไป 36 ปีแล้ว แต่ยังทำผลงานในระดับเมเจอร์ได้แจ่มแจ๋วไม่ต่างจากตอนสมัยหนุ่มๆ ซึ่งถ้าสังเกตกันให้ดีๆ สิ่งที่โรนัลโด้เปลี่ยนไปตามวัยและวันเวลาก็คือ ‘เล่นง่าย โวยวายน้อยลง และยืนตำแหน่งดี’

ขออนุญาตเรียกว่าเป็นสูตรส่วนตัวแล้วกัน ปัจจุบันโรนัลโด้เล่นบอลง่ายขึ้น ดูอย่างลูกยิงลูกที่สามของเมื่อคืนดูสิ เขาทำสิ่งสั้นๆ ง่ายๆ กับนักเตะรุ่นน้อง ก่อนจะรับบอลสุดท้ายแล้วหลบผู้รักษาประตูเข้าไปยิง ดูง่าย และดูเนียนตาที่สุด

ประการต่อมาคือ เฮียโด้โวยวายน้อยลง เมื่อก่อนจะหัวฟัดหัวเหวี่ยง เวลาที่รุ่นน้องไม่ส่งบอล หรือเล่นไม่ได้อย่างใจ แต่เดี๋ยวนี้พี่แกจะยิ้มแย้มแจ่มใส เสียไม่เป็นไร เอาใหม่น้อง (แต่อย่าบ่อยนะ)

และประการสำคัญสุดท้าย เมื่ออายุมากขึ้น โรนัลโด้วิ่งน้อยลง แต่อาศัยการยืนตำแหน่งที่ดี ทำให้มักจะพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ได้รับบอลง่ายๆ เขาจะใช้แรงก็ต่อเมื่อถึงพื้นที่สำคัญ นั่นคือ การพังประตูคู่แข่ง

ทั้งหมดคือเหตุผลว่า ทำไม CR7 ถึงยืนระยะในเกมระดับเมเจอร์มาได้นานขนาดนี้ และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป โรนัลโด้ก็ยังเล่นได้อีกสบ๊ายยย!! อ๊อ! เกือบลืม อีกหนึ่งกุญแจแห่งความแข็งแกร่ง คือ เฮียโด้ดื่มแต่น้ำเปล่านะจ๊ะ

คาดว่า โคคาโคล่า ไม่พอใจสิ่งนี้ (อิอิ)

---

โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9