ฉันอยากผอม…ฉันเลย (คลั่ง) ผอม

“ถ้าเธอผอม เธอจะน่ารัก/สวยกว่านี้นะ”

“เสียดาย ทำไมอ้วน ไม่น่าปล่อยตัวแบบนี้เลย”

“ไปทำไรมา…ทำไมอ้วนขึ้นแบบนี้ล่ะ”

ไม่แน่ใจว่าหลาย ๆ คน จะเคยได้ยินคำพูดเหล่านี้จากคนใกล้ ๆ ตัว กันบ้างไหมคะ ? ว่าถ้าสมมุติเราผอม หรือ เราลดน้ำหนักได้สัก 5 – 6 กิโล เราคงจะมีความสุขนะ แล้วเราก็จะดูดีมากๆ

ขอบอกว่า ผู้เขียนเอง ก็เคยมีประสบการณ์ ยอมหันมาลดน้ำหนักจากเสียงเอื้อนเอ่ยของชาวบ้านเขาเล่ามา แล้วเราก็ว่าตามไปได้ดีมาแชร์กันค่ะ ซึ่งกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ มันไม่ง่ายเลย…

ในช่วงสมัยมัธยมปลาย แต่ก่อนหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ด้วยความที่ตัวเองนั้นสูงเพียงแค่ 170 ก็เลยจะดูอวบนิด ๆ (หรือประมาณว่าจ้ำม่ำค่ะ ????) ในช่วงเวลานั้นเรามีความรู้สึกแค่ว่าหิว ก็ทาน ชอบทานพวกของทอด ของมัน หมูกระทะต้องสามชั้น เบคอนเท่านั้น ผักไม่ค่อยแตะค่ะ เพราะรู้สึกว่าไม่อร่อย แต่ก็ทานบ้างนะคะ

เพื่อน ๆ พอเจอเราเข้าไปก็ตกใจว่าทำไมดูอ้วนขึ้น มีแก้ม มีพุง ขนาดนี้ ตัวผู้เขียนก็แค่ตอบไปว่า ก็เรากิน ไม่ได้ดม… เพื่อน ๆ ก็ต่างพากันหัวเราะชอบใจ แต่ในใจเราก็เจ็บเหมือนกันนะคะ เราก็อยากให้เพื่อนทักว่า ดูดีขึ้น

แต่สภาพตอนนั้นไอ้เราก็คงไม่อยากไปบังคับให้เพื่อนพูดโกหก เพื่อเอาใจหรอกค่ะ ว่าแล้วก็เลยเริ่มหาวิธีลดน้ำหนัก แต่ไม่ว่าจะออกกำลังกาย ทานผัก ผลไม้ (รู้สึกตัวเบาลงนะคะ) แต่น้ำหนักก็ยังคงเท่าเดิม ก็เลยเริ่มหาวิธีลัดเพื่อที่อยากจะดูผอม ดูดีในสายตาเพื่อน ๆ (กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วด้วย อยากดูเป็นเฟรชชี่เด็กปี 1 น่ารัก ๆ)

ตอนนั้นก็เลยเริ่มวิธีเบสิคง่าย ๆ ก่อนเลยคือ ไม่ว่าเราจะทานอะไรเข้าไปจนอิ่มแล้ว … เราจะไปล้วงคอ!!

ใช่ค่ะ!! การล้วงคอจะทำให้เราอาเจียนสิ่งที่เราทานไปทั้งหมดให้ออกมา ซึ่งในตอนนั้นเราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากเลยค่ะ รู้สึกท้องเบาหวิว

( เครดิตภาพ : pobpad )

ใช่ค่ะ!! การล้วงคอจะทำให้เราอาเจียนสิ่งที่เราทานไปทั้งหมดให้ออกมา ซึ่งในตอนนั้นเราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากเลยค่ะ รู้สึกท้องเบาหวิว

ยังๆๆ พอเราทำไปได้ระยะหนึ่ง เริ่มรู้สึกว่า ตัวเองยังผอมไม่พอ ทีนี้เลยตัดสินใจอดอาหารเพิ่มค่ะ กินวันล่ะมื้อ ถ้าหิวก็ดื่มน้ำเปล่า ตอนนั้นเราผอมมากเลยค่ะจากน้ำหนัก 70 กว่าเราเหลือประมาณ 60 กิโลในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน

แต่ชีวิตช่วงนั้น มันก็จะแปลกๆ นิด ตรง ‘นิสัย’ และความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปค่ะ เริ่มรู้สึกหงุดหงิด โวยวายง่าย ทำให้คนรอบข้างเรา เพื่อนของเราแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากจะคุยกับเราเลยค่ะ

เรากลายเป็นคนล่ะคนไปเลย เราเสียใจมากเลยค่ะ พอคิดแบบนั้น ก็เลยลองหาข้อมูลดูว่าตัวเรามีอาการอะไรกันแน่ แล้วก็ได้ไปเจอกับโรคหนึ่งที่ชื่อว่า ‘โรคคลั่งผอม’ หรือ ‘Anorexia Nervosa’ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่หลาย ๆ คนเป็น โดยเฉพาะคนที่อยากผอม หรือ ต้องการที่จะผอมมากกว่านี้

จริงๆ แล้ว โรคคลั่งผอมนั้น เพื่อนๆ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินจากการที่ศิลปินหรือพวกนางแบบเป็นกัน อย่าง อดีตสมาชิก OH MY GIRL อย่าง ‘จินอี’ ที่ในวงเธอผอมที่สุด แต่กลายเป็นว่าที่เธอต้องออกจากวง เพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนมากในตอนขึ้นเวที จึงพยายามลดน้ำหนักจนกลายเป็นโรคคลั่งผอม

( เครดิตภาพ : WM Entertainment )

ขออ่านต่อไปอีกนิด เริ่มหลอนละ เพราะโรคนี้เป็นอาการที่เกิดจากภาวะจิตใจที่กระทบไปสู่ร่างกาย ยังไงน่ะหรือ ภาวะจิตใจในที่นี้คือเจอแรงกดดันจากคนใกล้ตัว ที่คิดว่าทำไมตัวเองถึงโดนคนอื่นบอกว่าอ้วน หุ่นไม่ดี คนที่เป็นโรคนี้จะมีสภาพจิตใจที่ค่อนข้างแย่เลยทีเดียวค่ะ จะต้องการลดน้ำหนัก พอลดได้ก็จะดีใจจนลดต่อไปเรื่อย ๆ แต่ผู้ป่วยจะไม่มีทางพอใจในรูปร่างของตนเอง ไม่อยากทานอะไรเพราะจะกลัวกลับไปอ้วน ทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงาน อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย

ที่น่ากลัว คือ ผู้ป่วยโรคนี้มีสิทธิ์ที่จะเสียชีวิตได้เลยนะคะ ฉะนั้นใครที่เข้าข่าย ควรไปพบแพทย์เพื่อให้หมอตรวจดูอาการ และรักษาอย่างถูกวิธี พอเสร็จจากการรักษา ก็ต้องยอมรับตัวเอง และ คอยประคับประคองจิตใจไม่ให้กลับไปคลั่งผอมอีก

เชื่อไหมว่า พอผู้เขียนได้อ่านบทความนี้โดยละเอียด ก็แอบกลัวที่จะลุกลามจนต้องไปหาหมอรักษา เลยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ทานอาหารเหมือนเดิม พอทานข้าว ทานขนมได้ ทีนี้ไม่หยุดเลยค่ะ จนทำให้น้ำหนักเราดีดขึ้นเกือบ 10 กิโลกรัม หรือหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักที่เรียกว่า โยโย่เอฟเฟกต์ ( YoYo Effect ) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการที่ร่างกายอดอาหารและ พอกลับไปทานอาหารร่างกายปรับตัวไม่ทันจึงเกิดภาวะน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตอนนั้นบอกได้เลยว่าท้อใจ และหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตเลยค่ะ แต่พอได้เข้ามหาวิทยาลัยเพื่อน ๆ เจอเราสภาพนี้ตอนแรกก็กลัวนะคะว่าเพื่อน ๆ จะรับไม่ได้ ไม่อยากคุยกับเรา…

แต่กลายเป็นว่าเพื่อน ๆ ในมหาลัยต่างรักและเอ็นดูเรา ไม่ใช่เพราะเราอ้วนดูน่าแกล้งนะคะ แต่เป็นเพราะเราจริงใจ และ เป็นมิตร เพื่อน ๆ ต่างมีความสุขเวลาอยู่กับเรา เราเป็นคนสนุก เฮฮาด้วย

จากวันที่เรากำลังเข้าใกล้สภาวะ ‘โรคคลั่งผอม’ และหลุดออกมาได้จนถึงวันนี้ ทำให้เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า มนุษย์เราไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน อ้วน ผอม ดูดี หุ่นไม่ดีหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าเรามีจิตใจที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส อะไร ๆ ก็จะดีขึ้นเองค่ะ

แต่ยังไงซะ ส่วนตัวก็ยังไม่ยอมท้อในการลดน้ำหนักนะคะ ยังคงพยายามลดน้ำหนักอยู่ เช่น ปรับพฤติกรรมการกิน ทานผักผลไม้ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะ ๆ ใส่กำลังใจดีๆ เข้ามาในกาย และใช้ชีวิตให้มีความสุข ลดด้วยความที่อยากให้สุขภาพดี ไม่ต้องภาพลักษณ์ดี คิดแบบนี้กันดีกว่าค่ะ

อ้อ!! แล้วก็ไม่ต้องให้ เค้าหรือใครคนนั้น มาตัดสินเราด้วยล่ะ Have a good day ค่ะ ????

ว่าแล้ว ช่วงนี้ เหงาจัง ร้านบุฟเฟ่ต์ปิด!!


อ้างอิง:

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคคลั่งผอม เป็นโรคหรือแค่วิตกกังวล

https://www.lovefitt.com/tips-tricks/เทคนิคหยุดโยโย่ เอฟเฟกต์