กักตัว 14 วัน ทำไรดี ?

‘อยู่อย่างคนเหงาเหงา..อยู่กับความเดียวดาย..แม้ใครจะมองว่าทุกข์..แต่ฉันกลับสุขใจ’

ขอยกเพลง ‘อยู่อย่างเหงา ๆ’ ของ สิงโต นำโชค ให้เป็นบทเพลงที่แทนความในใจของเราได้ดีที่สุดในตอนนี้

ก่อนหน้านี้เราก็เคยอยู่อย่างคนเหงา ๆ ตามเนื้อเพลงจริง ๆ ในช่วงที่ไวรัสระบาดรอบสอง เดือนมกราคม 2564 เราไปเที่ยวเกาะกูดกับเพื่อน ๆ จังหวัดตราด ซึ่งตอนนั้นจังหวัดตราด ถือเป็นพื้นที่สีแดง พอเรากลับมาจากท่องเที่ยวเสร็จ ที่ทำงานของเราสั่งให้กักตัว 14 วัน นั่นเป็นการกักตัวครั้งแรกของเราเลย แต่เป็นการกักตัวที่ยังไม่ได้เตรียมความพร้อม เตรียมข้าวของ เตรียมใจ อะไรทั้งสิ้น อารมณ์แบบเที่ยววันนี้ พรุ่งนี้กักตัว

ตอนที่ทำงานประกาศให้ Work from home เพื่อกักตัว 14 วัน เรามีความคิดชั่ววูบนึง ว่ากักตัวก็ดีสิ ได้อยู่ห้อง อยู่บ้าน ไม่ต้องไปไหน ได้ใช้ชีวิตแบบ Slow Life ตามหนังที่เคยดู หรือตามมายาคติที่หลายๆ คนเคยบอก เราจะได้ลองทำมันในช่วงนี้แหละ

แต่ทำไมพอได้ลองกักตัวอยู่จริงถึงยิ่งเหงากันนะ ?

อย่างแรกเลย พอเราได้อยู่ห้อง และแน่ใจแล้วว่าจะต้องอยู่ห้องแน่ ๆ ไปอีก 14 วัน ไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องแต่งตัว ความขี้เกียจก็จะเข้ามาครอบงำเราทันที อย่างเรา ช่วงกักตัวคือเป็นคนที่ใช้เตียงนอนได้คุ้มค่ามาก เราสามารถอยู่บนเตียงนอนได้ทั้งวัน นั่ง นอน เล่นเกม คอลกับเพื่อน ลุกออกจากเตียงแค่ไปห้องครัว และเข้าห้องน้ำเท่านั้น

อย่างที่สอง เราใช้ชีวิตเดิม ๆ ตื่นมาในห้องเดิม เตียงเดิม หมอนเดิม กิจวัตรเหมือนเดิม ทุกอย่างมันเดิมไปหมด พอถึงจังหวะนี้ เริ่มก็คิดถึงข้างนอก ยิ่งนั่งดูรูปที่เพิ่งไปเที่ยวมา ก็ยิ่งอยากเผชิญโลกอีกครั้ง ร้านสะดวกซื้อในซอยก็ยังดี

และอย่างที่สามที่เราคิดออกในตอนนี้ มันเป็นเพราะว่าเราไม่ได้เลือกเองว่าเราจะอยู่ตรงนี้ มันเป็นสภาพความจำยอมที่ต้องอยู่ เพื่อไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น และให้คนอื่นมาแพร่เชื้อให้เรา เปรียบไปตอนเด็ก ๆ ที่เรารู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวเราต้องล้างจาน แต่พอแม่มากระตุ้นก่อนเวลาที่เราจะทำ เราจะไม่อยากทำเสียเฉย ๆ อารมณ์ประมาณว่า ถ้าอยากทำเดี๋ยวทำเอง ไม่ต้องบอก!

การกักตัวสำหรับเรา พอเข้าวันที่ 5 - 6 มันรู้สึกเฉื่อยมาก เวลาแต่ละวันกว่าจะผ่านไปคือนานมาก นอกจากทำงานที่ได้มอบหมายจากที่ทำงาน ในแต่ละวันเราไม่ได้อะไรเลย เราแค่ทำตัวเดิม ๆ อยู่กับกิจวัตรเดิม ๆ

จนมีวันนึง ที่เรานอนอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ เราไม่มีอะไรทำเลย ไม่มีอารมณ์อยากเล่นโทรศัพท์ เล่นเกม ดูซีรีส์เลยแม้แต่นิด สิ่งที่เรานอกจากนอนมองเพดานห้อง แล้วเราก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วทำไมเราถึงต้องใช้ชีวิตให้มันไม่สนุกด้วย

เราอยากใช้ชีวิตให้มันสนุกแล้วล่ะ

สิ่งแรกที่เราทำ คือทำความสะอาด และจัดห้องใหม่ ยกโต๊ะ ตู้ เตียง ย้ายที่ตามที่ใจเราอยาก ล้างแอร์ รวมไปถึงเปลี่ยนสีหลอดไฟ ทีแรกคิดว่าแค่หาอะไรทำฆ่าเวลา แต่พอจัดเสร็จมันกลายเป็นว่าเราได้เปลี่ยนบรรยากาศ เราได้ใช้พื้นที่ห้องในทุกมุมแล้ว จากปกติเราทำทุกอย่างอยู่บนเตียงนอน เราก็ได้โอกาสออกจากเตียงมานั่งโซฟา ดูโทรทัศน์ ออกไประเบียงรดน้ำต้นไม้ เลี้ยงปลาหน้าห้อง เรียกได้ว่าได้คราวใช้พื้นที่ห้องอย่างคุ้มค่าเสียที

พอจัดห้องเสร็จ สงสัยวิญญาณแม่บ้านเข้าสิง เราอยากทำอาหาร! เราเริ่มจากสั่งวัตถุดิบออนไลน์มาส่งที่คอนโด คิดว่าถึงคราวแล้วที่เราจะได้โชว์สกิลแม่ศรีเรือน พอทำจริง ๆ อาหารของเรากลายเป็นเมนูลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว เพราะเราทำอะไรไม่อร่อยเลย นอกจากเมนูไข่ สุกี้ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ไม่รู้ทำไมเราก็ยังคงทำอาหารทานเองอยู่ทุกมื้อ อาจจะเพราะเราสนุก อ๋อ โอเค งั้นเอาสนุกก่อนแล้วกัน ความอร่อยค่อยพัฒนาตามมา

อีกอย่างที่เราทำเป็นประจำ คือ ร้องเพลง มีดนตรีในหัวใจ เราร้องหมดทุกแนว สากล ไทยสากล ลูกทุ่ง เพื่อชีวิต เราอินได้กับทุกเพลง เพลงไหนเศร้ามาก เรานั่งร้องไห้ เพลงไหนสนุกหน่อย เราเต้นเหมือนโคโยตี้เลย ร้องด้วยเสียงเพี้ยน ๆ ของเราเนี่ยแหละ โครตจะมีความสุข

อย่างเรา เราเป็นคนที่มีความสุขได้ง่ายมาก สถานการณ์โรคระบาดจึงมีผลกับเราน้อย เราไม่ชอบให้ตัวเองไม่มีความสุขด้วย เราเป็นคนที่มีความเชื่อว่าความทุกข์จะต้องอยู่กับเราไม่นาน หรือมีท่าทีว่าจะนาน ก็เป็นเราเนี่ยแหละที่จะทำให้มันหายไปเอง กักตัวเราก็จะสู้ เราจะอยู่รอด อย่างน้อยก็รอดจากความเครียด

ช่วงกักตัวถือเป็นโอกาสสำหรับเราที่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง เราได้พูดคุยกับตัวเองมากขึ้น เรารู้ว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร เรามีเป้าหมายในชีวิตใหม่ ได้รู้วิธีทำให้ตัวอย่างมีความสุข เราได้ทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราเคยอยากทำแต่พลัดวันไปเรื่อย ๆ จนหมด

เราแชร์วิธีการกักตัวให้มีความสุขฉบับของเรา มาเล่าให้ผู้อ่านฟังนะคะ เผื่อผู้อ่านจะลองนำวิธีของเราไปใช้ดู จริงอยู่ที่เราได้ทำหลาย ๆ อย่างในช่วงกักตัว แต่ให้เลือกได้ เราก็อยากทำทุกอย่างเองแบบอิสระ ไม่ต้องมีสถานการณ์โรคระบาดมาเป็นข้อกำหนดอยู่ดีแหละเนอะ แล้วผู้อ่านคิดว่ายังไงคะ ?


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32