"กรณ์" ลงพื้นที่สวนทุเรียนชุมพร หารือเกษตรกร - นักธุรกิจพื้นที่ ย้ำศักยภาพสู้ประเทศคู่แข่งได้ แนะรัฐกำกับดูและตรงไปตรงมา ระบบข้อทูลเปิด สร้างกลไกตลาดตามจริง

29 มีนาคม 2564  นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยได้ พูดคุยกับกลุ่ม Young Smart Farmers กลุ่มนักธุรกิจจากสภาหอการค้า และกลุ่มนักธุรกิจหอการค้ารุ่นใหม่ (YEC) รวมไปถึงผู้ประกอบการค้าโดยเฉพาะเรื่อง "ผลไม้" ซึ่งชุมพรโดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งคือ "ทุเรียน" 

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนเองและ พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ ผู้กล้าชุมพร วิเคราะห์กับผู้รู้ในพื้นที่จริง โดยเฉพาะตัวเลขที่เกริ่นไว้ว่า จะดีแค่ไหนหากเกษตรกรไทยมีรายได้ไร่ละ 1 แสนต่อปีจากการทำการเกษตร ซึ่งไทยปลูกทุเรียนรวมแล้วกว่า 1 ล้านไร่ กระจายหลักๆ ในจันทบุรี และชุมพร สูสีกัน จังหวัดอื่น ๆ ได้แก่ ระยอง ยะลา นครศรีฯ และสุราษฎร์ ทั้งหมดนี้สร้างผลผลิตให้ประเทศไทยกว่า 1.3  ล้านตัน ส่งออกเป็นหลัก และแปรรูปกับบริโภคภายในอีกบางส่วน เฉลี่ยราคาขาย คิดแบบขั้นต่ำสุด ก็สร้างรายได้ที่ประมาณ ไร่ละ 1 แสนบาท แต่หากควบคุมคุณภาพของทุเรียนได้เข้มข้นมากขึ้นกว่านี้ รายได้ต่อไร่ของเกษตรกรสูงกว่านี้แน่นอน 

นายกรณ์ กล่าวว่า หากดูข้อมูลกลุ่มลูกค้าหลักของไทยคือจีน ซึ่งปัจจุบันบริโภคทุเรียนไทยปัจจุบันปีละ 250 ล้านลูก เทียบประชากรพันกว่าล้านคน หากเราเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัว ในแง่กำลังซื้อในตลาดถือว่ายังเหลือเฟือส่วนคู่แข่งอย่างเวียดนามมีกระแสข่าวว่าจีนกว้านซื้อที่ปลูกเอง ดูเหมือนน่ากลัว แต่เทียบโดยพื้นที่แล้วห่างชั้นกับไทยมากเพียง 25,000 ไร่ เทียบกับไทยที่ปลูกอยู่เป็นล้านไร่ และยังไม่นับเรื่องรสชาติ 

นายกรณ์ กล่าวว่า เมื่อมีเป้าหมายขยายโอกาสให้ชาวสวนแล้ว ประเด็นสำคัญของพรรคการเมือง และภาครัฐที่ต้องดูแลอย่างตรงไปตรงมาคือการเป็นผู้กำกับดูแล "ตลาดกลาง" ทางการค้า ให้มีความเป็นข้อมูลเปิด โดยเฉพาะเรื่องราคาตามคุณภาพ รวมไปถึงการสร้างกลไกตลาดที่เป็นความจริง รัฐไม่ควรควบคุมจนเข้มเกินไป และรัฐมีหน้าที่เอื้อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสไร้มาเฟีย 

"เชื่อเถอะครับว่าไม่มี "ทุเรียน" ที่ไหนอร่อยเท่าบ้านเรา แต่โจทย์ของบ้านเราคือ จะทำอย่างไรให้ทั้ง เกษตรกรไทย ผู้ค้า และผู้ส่งออก มีการแบ่งปันรายได้ที่เป็นธรรม" หัวหน้าพรรคกล้ากล่าว