ผู้ลี้ภัยสงครามหลบหนีเข้าไทยกว่า 2,000 คน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ด้านกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศรอบที่ 2 ทหารกะเหรี่ยงตาย 1 เจ็บ 2 ราย ด้านจังหวัดรอคำสั่งจากรัฐฯให้เข้าไปช่วยเหลืออย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหน่วยข่าวความมั่นคงของไทย ได้รายงานว่ามีชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยงในเขตรับผิดชอบของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ (เคเอ็นยู) ได้อพยพหลบหนีภัยสงคราม จากรัฐกะเหรี่ยง จำนวน 1,900 คน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ฐานออเลาะ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 300 คน , มาจากห้วยอูแวโกร พื้นที่พักพิงของเมียนมา เข้ามาอาศัยในไทย ที่บ้านแม่ดึ หมู่ 5 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 300 คน , มาจากห้วยอีทูโกร เขตเมียนมา เข้ามาอาศัยในไทยที่ฐานแม่สะเกิบ บ้านห้วยกองแป หมู่ 3 ต.แม่คง จำนวน 1,300 คน รวมได้มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในไทย ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ปัจจุบัน จำนวน 2,194 คน

ต่อมากองทัพอากาศของเมียนมา ได้ส่งเครื่องบิน แบบ JF 17 ที่ผลิตในประเทศจีน จำนวน 4 ลำ จากฐานบินเมืองตองอู เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ ฐานชิกอท่า ที่ตั้งกองบัญชาการหน่วยรบพิเศษ กองพลน้อยที่ 5 ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ทหารกะเหรี่ยง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์เกี่ยวกับผู้อพยพว่า สถานการณ์ในประเทศเมียนมา ได้เริ่มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้อพยพหลบหนีเข้ามาอาศัยในไทย ล่าสุด จำนวน 2,194 คน และคาดว่าน่าจะมีการหลบหนีเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดจะต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลในเรื่องการเข้าไปดูแลผู้ลี้ภัยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้มีการวางแผนเตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว ที่ อ.ขุนยวม แต่เป็นพื้นที่คนละจุดกัน ซึ่งตอนนี้ผู้อพยพดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง จัดกำลังเข้าไปควบคุมดูแลในเบื้องต้นแล้ว

โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า ตอนนี้ทางฝ่ายปกครองยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับผู้อพยพที่ชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตรับผิดชอบของทหารและมีการห้ามหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลผู้อพยพเหล่านั้น