เร่งปรับกฎหมายค้ามนุษย์ มุ่งป้องการละเมิดทางเพศและอายัดทรัพย์ เพื่อเยียวยาเหยื่อผู้เสียหาย

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก ประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมกับคณะกรรมการประสานและกำกับติดตามการดำเนินงาน ทั้งสองคณะต่อเนื่องกัน  ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี รมว.ยุติธรรม รมว.แรงงาน และรมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมส่วนราชการต่างๆเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานที่สำคัญ ในการเร่งทบทวนแก้ไขและปรับปรุงกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ .2551  ที่ให้น้ำหนักความสำคัญกับการลดอุปสงค์การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก การบังคับใช้แรงงานหรือการบริการและการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบมากขึ้น  รวมทั้งการกำหนดให้มีแนวทางการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด เข้ากองทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน  พร้อมกับรับทราบความร่วมมือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กับออสเตรเลีย รวมทั้งรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ปี 63 ( Progress Report ) เพื่อประกอบการพิจารณาจัดระดับประเทศในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์

พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำถึงการค้ามนุษย์ เป็นความเสียหายทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ จึงถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและความมุ่งมั่นร่วมกัน ที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ร่วมขับเคลื่อนเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่มุ่งความยั่งยืน  จึงต้องพิจารณาให้รอบด้านและครอบคลุมในทุกมิติ  โดยเฉพาะการป้องกันการล่อลวงการละเมิดทางเพศต่อกลุ่มเปราะบาง เด็กและสตรีในสื่อออนไลน์ รวมทั้งการเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์มากขึ้น  จึงขอให้เร่งปรับปรุงกฎหมายที่ยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฉพาะการมอบหมายให้ สตม. ติดตามการลักลอบผู้โยกย้ายถิ่น และมอบสำนักงาน ป.ป.ง. ติดตามนำเงินที่ได้จากการยึดอายัดทรัพย์ไปเยียวยาผู้เสียหายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ การบริหารจัดการกองทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุน ต้องให้โปร่งใสและเป็นไปตามวัตถุประสงค์  ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์ของการจัดทำรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ปี 63 และให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศควบคู่กันไปโดยเฉพาะความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ และ ไทย - ออสเตรเลีย  ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาปรับแผนปฏิบัติการ ปี 64 รองรับสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์ทางสังคม เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคการปฏิบัติงาน พร้อมย้ำกับทุกส่วนราชการ เอาผิดเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง