หลังจากตอนที่แล้ว คุณพ่อแฟรงค์ เล่าเรื่องการรับมือกับลูกวัยรุ่นในแบบของคุณพ่อ วันนี้จะมาแบ่งปันวิธีจัดการกับเวลาและงานอดิเรก รวมถึงการเตรียมพร้อมลูกให้เดินทางไปสู่ความฝันได้

“ความเชื่อทำให้เราไม่ได้ตรวจสอบอะไรทั้งสิ้น”

คำพูดของคุณพ่อแฟรงค์ทำให้ได้ฉุกคิด คุณพ่อแฟรงค์มีลูก 2 คน คนโตก้าวเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ในช่วงวัยรุ่นคุณพ่อผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก และพ่อแฟรงค์คือผู้ใหญ่ที่เตือนเราให้ไม่ลืมตรวจสอบความเชื่อของเราเอง

“ผมจะบอกกับลูกว่า ฟังพ่อนะลูก แต่อย่าเชื่อพ่อทั้งหมด มีอะไรที่พ่อไม่รู้ ให้บอกพ่อด้วย เด็กรุ่นนี้ถูกต่อว่าว่ารอไม่เป็น แต่มองอีกอย่าง เค้าเกิดมารองรับความรวดเร็วของเทคโนโลยีสมัยที่คนรุ่นเราเริ่มตามไม่ทัน ผมเคยคุยกับลูก เวลาเราเห็นคนนุ่งจีวร เราเห็นเค้าเป็นอะไร เห็นเป็นพระ ลองให้ลูกจินตนาการว่าให้คนเดิมที่นุ่งจีวรมาใส่ชุดแนวฮิปฮอป เราจะเห็นเค้าเป็นแบบไหน ผมกับลูกก็หัวเราะกัน บางทีรูปลักษณ์ภายนอกหรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ส่งผลต่อความเชื่อของเราที่มีต่อเค้าได้ ผมไม่ได้ให้ปฏิเสธความเชื่อ แต่ให้ตรวจสอบความเชื่อ”

ตอนที่แล้วคุณพ่อแฟรงค์พูดถึงการรับมือกับลูกวัยรุ่นในแบบของคุณพ่อ วันนี้เรามาต่อกันว่า คุณพ่อแฟรงใช้วิธีใดจัดการกับเวลาและงานอดิเรก รวมถึงการเตรียมพร้อมลูกให้เดินทางไปสู่ความฝันได้

จากที่พ่อแฟรงค์เล่า พ่อแฟรงค์ไม่ได้ทำอะไรแตกต่างไปจากพ่อแม่คนอื่น ๆ ส่งลูกไปเรียนดนตรี เล่นกีฬา หรือกิจกรรมที่เป็นที่นิยม แต่สิ่งที่พ่อแฟรงค์น่าจะทำได้ดีเป็นพิเศษกว่าพ่อแม่หลายคน คือคุณพ่อแฟรงค์เลือกที่จะใช้เวลากับลูกให้มากที่สุด

“ครั้งหนึ่งผมส่งลูกไปเรียนดนตรีเป็นปกติ แล้วหลังจากเค้าเรียนเสร็จ ก็ให้ลูกเดินเล่นในห้างรอพ่อไปรับ ผมรู้สึกว่าทำไมเราปล่อยให้เค้าเดินเรื่อยเปื่อยในห้างรอเราอยู่คนเดียว หลังจากนั้นผมตั้งใจว่าจะใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด แล้วพอเราใช้เวลากับเค้า เราจะรู้ว่าลูกชอบอะไร เก่งอะไร พิเศษเรื่องไหน เราก็จัดเวลา จัดลำดับความสำคัญให้ลูกได้ จัดลำดับความสำคัญของงานอดิเรก อันไหนหาเงินได้ หาได้เท่าไหร่ เราจะทำอันไหนก่อนหลัง จัดตารางแต่ละวัน เด็กสมัยนี้ทำงานอดิเรกได้หลายอย่างต่อวัน อันไหนเร่งด่วนและมีประโยชน์ก็ทำก่อน การบ้านยังถึงเวลาส่ง ก็ทำทีหลังได้ งานไหนได้ประโยชน์ ได้ความรู้ได้ทักษะ ก็แบ่งเวลาไปทำ และเมื่อเราทำแล้ว ก็ให้ทำงานอดิเรกนั้นให้ดี”

ความฝันมีให้เรารู้ว่าเราไปไหน แค่ระหว่างเดินทางไปเรามีความสุขก็เพียงพอแล้ว

“จะทำตามความฝัน ต้องเตรียมตัวเราให้เราไปสู่เป้าหมายได้ สุขภาพต้องพร้อมด้วย อาหารการกินสำคัญ ทานอาหารเช้า ออกกำลังกาย พยายามนอนช่วง 4 ทุ่มถึงตี 5 นอนเวลาอื่นยังไงก็ไม่เพียงพอเหมือนช่วงนี้ เพราะไม่ใช่ช่วงที่ Growth Hormones หลั่ง”

เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้ลูกหา skill ของเค้าเอง แล้วสนับสนุนเค้า

“เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนพูดได้ก่อน บางคนวิ่งได้ก่อน ให้ลูกหา skill ของเค้าเอง แล้วสนับสนุนเค้า ถ้าเรากดเค้าไว้ นอกจากสิ่งนั้นจะไม่เบิกบานแล้ว เราจะสูญเสียอัจฉริยะบุคคลแน่นอน ความฝันมีไว้ให้เรารู้ว่าเราเดินไปไหน เราก็เดินสบาย ๆ เดินของเราไปเรื่อย ๆ อย่างมีความสุข สำคัญคือ อย่าผลักลูกไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม”

น้องเฟียนที่นั่งอยู่เคียงข้างพ่อ ดูเป็นตัวของตัวเองเหมือนวัยรุ่นทั่วไป และเมื่อเค้าเดินไปจับเปียโน น้องเฟียนก็ฉายแสงของศิลปินออกมาทันที ความสัมพันธ์ที่ดีของลูกชายศิลปินวัยรุ่นกับพ่อที่ทุ่มเทเวลาให้กับลูกเปล่งประกายตลอดการสัมภาษณ์

เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกทุกคนค่ะ


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก

หัวข้อ รับมือกับลูกวัยรุ่น เพื่อไปต่อให้ถึงเป้าหมาย

Link https://www.facebook.com/299800753872915/videos/249307613299909

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์