สรุปเนื้อหาจาก Webinar “เด็กโรงเรียนไทยจะฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้ปัง?” โดยครูหญิง (Applied Linguistics จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย) ครูเต้ (TESOL จากมหาวิทยาลัยยอร์ค) และติวเตอร์พริม (อักษร จุฬาฯ ภาคอินเตอร์) จาก Edsy

จากที่ครูหญิง ครูเต้ และพี่พริม ได้แชร์ผ่าน Zoom Webinar เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทีมงาน Edsy ขอสรุปใจความมาแบ่งปันดังนี้...

เราควรเริ่มจากการหาแรงบันดาลใจก่อน อะไรคือสิ่งที่เราชอบ? อะไรคือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข? เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกฝืน เช่น ถ้าเราชอบดูหนังหรือฟังเพลง ก็อาจจะเริ่มหัดเรียนภาษาอังกฤษ ฟังภาษาอังกฤษจากสิ่งเหล่านั้นก่อน พี่พริมแชร์ว่าเขาชอบฟังเพลงของ Taylor Swift จึงเริ่มดูและพยายามทำความเข้าใจกับเนื้อร้อง เป็นการฝึกอ่านทำความเข้าใจ (reading comprehension) ไปในตัว ด้วยการพยายามโยงหลักการใช้ภาษากับ context ต่างๆ ในเนื้อร้อง เมื่อเริ่มเข้าใจเนื้อเพลง พี่พริมก็เริ่มสนใจในตัวคำศัพท์ (vocabulary) มากขึ้น ทำให้เริ่มรู้คำศัพท์ที่หลากหลาย ทั้งคำที่คล้ายคลึง คำที่มีความหมายตรงกันข้าม คำขยายความ และในขณะเดียวกันก็เริ่มซึมซับหลักไวยากรณ์ไปทีละเล็กน้อย

เมื่อไปเรียนที่อักษร จุฬาฯ ภาคอินเตอร์ (BALAC – Bachelors of Art in Language and Culture) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่สอนภาษา 50% สอนวัฒนธรรมอีก 50% พี่พริมจึงได้แรงบันดาลใจและเข้าใจในตัวภาษามากยิ่งขึ้นอีก เช่น คำว่า “เกรงใจ” ไม่มีคำที่ตรงตัวเช่นเดียวกันในภาษาอังกฤษ เนื่องจากความเกรงใจเป็นวัฒนธรรมของคนไทยหรือคนเอเชียมากกว่า

ในขณะที่พี่พริมและครูหญิงเริ่มสนใจภาษาอังกฤษจากรายการเพลง รายการทีวี ครูเต้ได้รับแรงบันดาลใจจากอาจารย์เมื่อสมัยมัธยมต้นที่มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีมาก สื่อสารได้เหมือนชาวต่างชาติ กลายเป็นต้นแบบหรือ Role model ที่ครูเต้อยากดำเนินรอยตาม ครูเต้เชื่อว่าหากครูผู้สอนภาษาอังกฤษสามารถนำความรักชอบในภาษาและความสามารถ ทักษะที่มีออกมาถ่ายทอด สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน เด็กนักเรียนไทยจะมีความสนใจและโอกาสที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษมากขึ้น ด้วยการ “put oneself in the language”

ดังนั้น หากน้องๆนักเรียนโรงเรียนไทยรู้สึกไม่สนุก ไม่เอ็นจอยกับการเรียนเน้นหลักไวยากรณ์และท่องศัพท์ในห้องเรียน ก็ควรลองออกไปค้นหาดูว่ามีความชอบอะไรของเราที่เกี่ยวโยงกับภาษาอังกฤษบ้างมั้ย หรือมีใครที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้เลียนแบบ เพื่อที่จะได้ทำให้ตัวเอง immerse ไปกับภาษาและรู้สึกชอบหรือมีความสุขกับการเรียน การใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น

ในการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะการพูด คุณครูทั้งสามท่านย้ำว่าเราต้องมีทัศคติที่ถูกต้อง อย่าไปกลัวที่จะลองผิดลองถูก ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในห้องเรียน (หรือในที่อื่นๆ) บ่อยครั้งที่คนไทยกันเองมักจะจ้องจับผิดสำเนียงหรือความถูกต้องในการพูดของผู้พูด เราต้องจำไว้ว่าเราจะไม่สามารถพัฒนาได้ ถ้าเราไม่เริ่มมีความกล้าที่จะลอง “ยิ่งฝึกเยอะ ยิ่งผิดเยอะ ยิ่งเก่งนะ” ครูหญิงย้ำ

จากมุมมอง Applied Linguist ครูหญิงจะบอกผู้ปกครองและน้องๆ เสมอว่าเมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ “อย่าเริ่มจากแกรมม่าค่ะ วางมันไว้ข้างๆ ไว้ไกลๆก่อนเลยก็ได้” เราควรจะเริ่มจากการหากิจกรรมที่สนุก ที่จะสร้างทัศนคติและความรักชอบในตัวภาษาให้กับน้องๆ ก่อน “ปัจจุบันมีแนวคิดที่แพร่หลายในเรื่องการใช้กิจกรรม Integrated skills เพื่อสอดแทรกภาษาอังกฤษ เช่น ให้น้องๆ ไปปั้นดินน้ำมันแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษ ให้ทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่จะทำให้เด็กๆ เขาเชื่อมโยงว่า เมื่อใช้ภาษาอังกฤษ เขาจะได้ทำอะไรสนุกๆ เช่นนั้น” ควรสนใจทุกทักษะพูด ฟัง อ่าน เขียน อาจจะเริ่มจากการพูดก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเริ่มจากการสร้างทัศนคติที่ดี

ครูเต้เสริมว่าเด็กไทยถูกบังคับให้เรียนด้วยการเริ่มจำกฏเกณฑ์ (เช่น หลักไวยากรณ์) เร็วเกินไป ทำให้ขาดความสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ และไม่ได้เป็นการเรียนอย่างเป็นธรรมชาติ การสอนโดนเน้นหลักไวยากรณ์ คำศัพท์ เป็นรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก ซึ่งต้องการโอกาสที่จะได้สนุกสนานกับการเรียน ได้เริ่มพัฒนาความกล้าและความมั่นใจในการใช้ภาษา

โดยสรุปแล้ว ทั้งสามท่านแนะนำให้เริ่มจากสิ่งที่เราชอบก่อน “เริ่มจากสิ่งที่สามารถทำให้เราเปิดใจได้ แล้วทุกอย่างมันจะง่ายขึ้นเอง ทุกคนมีความกลัว แต่ทุกความผิดพลาดจะทำให้เราได้เรียนรู้จากมันและพัฒนากลายเป็นความชำนาญและความมั่นใจ”

ครูหญิงฝากไว้ว่า “มันเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเหนื่อย เมื่อตั้งใจแล้วแต่ยังไม่เห็นผลหรือถึงจุด plateau stage พี่หญิงจะบอกเสมอว่าให้พัก แล้วค่อยสู้ต่อ ทักษะภาษาอังกฤษเหมือนทักษะ ความสามารถอื่นๆ เราพักได้ แล้วค่อยเริ่มใหม่”

ดูคลิปวิดีโอเต็มได้ที่ https://fb.watch/4hoOLSGfOA/

อยากฝึกภาษาอังกฤษแต่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร...? หาแรงบันดาลใจจากที่ไหน...? ควร focus อะไรก่อน...? แล้วเมื่อไหร่จะเห็นผล...? ลงทะเบียนเพื่อทดลองเรียนฟรีวันนี้กับ Edsy! ที่ https://bit.ly/3q2kQyU


เขียนโดย : ทีมงาน Edsy สตาร์ทอัพด้านการศึกษา

Line ID : @edsy.th