เรื่องเล่าของคุณพ่อแฟรงค์ คุณพ่อที่มีลูกก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จะมาแบ่งปันมีวิธีการ พ่อแม่จะพาลูกก้าวข้ามช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ไปกับลูกได้อย่างไร Part 1

“ถ้าเรากดเค้าไว้ นอกจากสิ่งนั้นจะไม่เบิกบานแล้ว เราจะสูญเสียอัจฉริยะบุคคลแน่นอน”

คำพูดของคุณพ่อน้องเฟียน หรือคุณพ่อแฟรงค์ เปิดนำก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้น้องเฟียนโชว์ฝีมือการบรรเลงเปียโนให้ฟัง บทเพลงที่น้องเฟียนเล่นเป็นเพลงแนวคลาสสิค และที่น่าประทับใจไปกว่านั้น น้องเฟียนแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเอง ตอนนี้หนุ่มน้อยนักดนตรีคลาสสิคคนนี้ได้ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว พ่อแฟรงค์จึงมาแบ่งปันมีวิธีการว่าเราจะพาลูกก้าวข้ามช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปกับลูกได้อย่างไร

คุณพ่อแฟรงค์เปรียบวัยรุ่นเป็นเหมือนกับผีเสื้อ

“ผมเปรียบวัยรุ่นเป็นผีเสื้อตอนที่กำลังเปลี่ยนจากดักแด้เป็นผีเสื้อ ช่วงที่เค้ากำลังออกมาจากตัวดักแด้มันเร็วมากแล้วเค้าจะกลายเป็นผีเสื้อเลย พ่อแม่จะทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นลูกเปลี่ยนไป จะกลัวและเครียด พ่อแม่ต้องเข้าใจว่า ถึงเมื่อวานเค้ายังเป็นเด็กอยู่ก็จริง แต่วันนี้เค้ากำลังจะไปเป็นผู้ใหญ่แล้ว ลูกเค้าเปลี่ยนไปแล้ว เค้าไม่ใช่คนเดิมแล้ว มีแต่เรานั่นแหละที่ยังเหมือนเดิม เราต้องเข้าใจการเติบโตของลูก”

คุณพ่อแฟรงค์ไม่ห้ามลูก และสนันสนุนให้ลูกได้ลองทำ

“เวลาจะห้ามลูก ให้นึกถึงตอนเราอายุเท่ากันกับเค้า ตอนเราอายุ 15 - 16 ปีเท่าเค้าเรารู้สึกยังไง เราก็เป็นแบบเค้าเหมือนกัน ผมจะคุยกับลูกว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือการซ้อมในการใช้ชีวิตจริง ลูกซ้อมไว้เลย ทำให้ดี แล้วเรียนรู้ว่าอยากจะมีชีวิตแบบไหน วัยรุ่นเป็นช่วงที่เค้ากำลังสร้างตัวตน ปล่อยให้ลูกสร้างตัวตน เค้าจะได้เป็นเค้าที่แข็งแรง ไปห้ามเค้า เค้าจะสร้างตัวตนไม่สำเร็จ อย่าเป็นศัตรูกับลูก การห้าม เป็นการผลักให้ลูกไปอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วเมื่อไหร่ที่เค้าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา เค้าจะอยู่กับเราเพราะเค้ามาขอเงินเราเท่านั้น เมื่อเค้าไปได้เค้าจะไปทันที ตอนเด็กเค้ายอมเราได้ แต่ตอนเค้าเป็นวัยรุ่น เค้าไม่ยอมเราแล้ว ฉะนั้นให้เค้าได้ลองและสนับสนุนเค้า”

ให้ลูกได้เห็นชีวิตจริง น้องเฟียนเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าพ่อเคยพาไปดูเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิต เฟียนจึงรู้ว่ากว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดเพื่อแลกกับเงินไม่มากนั้นยากเย็นขนาดไหน

“ผมให้ลูกเห็นว่า มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีการรอคอย มีงาน มีหน้าที่ ความรู้เป็นเรื่องที่หาได้ทั่วไปแล้ว แต่การกระทำ การรู้จักหาวิธีสร้างรายได้สำคัญกว่า ผมเห็นตอนนี้มี AI ที่แปลภาษาได้หลายภาษาแล้ว ฉะนั้น AI จะเข้ามาทำงานแทนที่ทักษะด้านนี้ เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง เทรนด์มันมาแล้ว ถ้าปรับตัวได้ก่อน ก็ไปได้ก่อน”

ตอนต่อไปเราจะมาต่อเรื่องวิธีการจัดเวลาให้กับงานอดิเรกที่ไม่อดิเรก และวิธีจัดการกับความเชื่อของคนยุคเก่าที่คุณพ่อแฟรงค์ใช้กันค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกทุกคนค่ะ


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก

หัวข้อ รับมือกับลูกวัยรุ่น เพื่อไปต่อให้ถึงเป้าหมาย

Link : https://www.facebook.com/299800753872915/videos/249307613299909

เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์