‘อนุทิน’ แจงเหตุชะลอฉีดวัคซีนแอสตราฯ ย้ำ รอฟังผลสอบสวน ก่อนพิจารณาแผนให้บริการ ลั่นคนไทยต้องปลอดภัย

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวถึงสาเหตุการชะลอการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ว่า มันมีข่าวซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัย ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน

ซึ่งท่านนายกฯ ก็เป็นประชาชน เราก็ต้องดูแลท่านด้วย จึงได้เรียกประชุมแต่เช้า เพื่อพิจารณาทุกอย่างให้รอบคอบ ได้ข้อสรุปร่วมกันกับคณะแพทย์ว่าจะต้องชะลอการให้บริการวัคซีนออกไปก่อน ให้ได้ทราบข้อเท็จจริง แล้วค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ประเทศไทย ไม่ได้มีการระบาดที่รุนแรง ยังมีเวลาในการตัดสินใจที่จะทำเรื่องต่างๆอย่างรอบคอบ ระหว่างนี้ จะรอดูผลการสอบสวนจากยุโรป

นายอนุทิน เปิดเผยด้วยว่า ได้หารือกับคณะแพทย์แล้ว ได้ข้อสรุปว่า ไม่ได้เป็นการเสียหาย ที่ไทยจะเลื่อนการรับวัคซีนออกไป เป็นการแสดงให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ไม่ดื้อแพ่ง ไม่ใช่หน่วยกล้าตาย เราเคารพ ยืนหยัดบนหลักวิชาการ เราคำนึงความปลอดภัยของประชาชนให้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก "อนุทิน ชาญวีรกูล" ข้อความว่า

ความปลอดภัยของประชาชน ต้องมาก่อน

การเลื่อนฉีดวัคซีนแอซตราเซเนกา ให้แก่นายกรัฐมนตรี วันนี้ เป็นไปตามการวินิจฉัยของคณะแพทย์ เนื่องจากมีการรายงานผลข้างเคียง หรือ อาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับการฉีดวัคซีน มาก่อน และมีการชะลอการฉีดวัคซีนแอซตราเซนเนกา ในบางประเทศ

เพื่อรอผลการสอบสวน และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลนี้เพิ่งได้รับรายงานเมื่อค่ำวานนี้ และคณะแพทย์ได้พิจารณากันอย่างจริงจัง ตามข้อมูลที่ได้รับจากต่างประเทศ จนได้ข้อสรุป ว่า จะชะลอการฉีดวัคซีนแอซตราเซนเนกา ไว้ระยะหนึ่ง เพื่อรอผลการสอบสวนอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น อย่างละเอียด ก่อน

คณะแพทย์ ยืนยันว่าวัคซีนแอซตราเซนเนกา เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และได้รับมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก ฉีดไปแล้วมากกว่า 30 ล้านโดส และมีการสั่งซื้อมากกว่า 3,000 ล้านโดส

คณะแพทย์ยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนที่จะได้รับวัคซีน สูงสุด จึงให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าวัคซีนที่ใช้ในยุโรป กับ วัคซีนที่ส่งมาประเทศไทย เป็นคนละล็อต และมาจากคนละโรงงาน แต่เมื่อมีรายงานอาการที่ไม่พึงประสงค์ แม้จะยังไม่ยืนยันว่าเป็นผลจากวัคซีน โดยตรงก็ตาม

การชะลอ หรือ หยุดฉีดวัคซีน ชั่วคราว เพื่อสอบสวนหาข้อมูลเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนใหม่ และ การฉีดวัคซีนในวงกว้างระดับประเทศ และระดับโลก ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด อื่นๆ ในบางประเทศ ก็เคยหยุด หรือ ชะลอ เพื่อรอผลการสอบสวนมาแล้ว ก่อนจะกลับมาฉีด เมื่อมีความมั่นใจในผลการสอบสวนว่า ไม่ใช่ผลจากวัคซีน

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของการใช้วัคซีนแบบสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะไม่ชัดเจนว่ามาจากวัคซีนหรือไม่ คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีน ของรัฐบาล จะมีคำสั่งให้หยุดการฉีดวัคซีน ไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

นายกรัฐมนตรี ในฐานะประชาชน ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการฯ เช่นเดียวกัน

วันนี้ จึงยังไม่มีการฉีดวัคซีนแอซตราเซนเนกา ในประเทศไทย จนกว่าจะมีผลการสอบสวนชัดเจนว่า มีความปลอดภัย หรือ หากมีผลข้างเคียง จะมีแนวทางแก้ไข ป้องกัน อย่างไร จึงปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชน

คาดว่าการสอบสวนในยุโรป จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานให้ประชาชน ทราบต่อไป

ในช่วงนี้ ยังมีการฉีดวัคซีน sinovac ตามแผนเดิม ครับ

#คนไทยต้องปลอดภัย


ที่มา : https://www.facebook.com/2091153520919518/posts/4200972563270926/