"ทิพานัน" ซัด “พรรคการเมือง - ม็อบ” โหนกระแส ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ห่วง ชาวบางกลอย เป็นเหยื่อการเมือง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำกลุ่มราษฎรบางคน ระดมเงินและสิ่งของเพื่อสนับสนุนการชุมนุมของชาวบางกลอย ที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขข้อพิพาทชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า เป็นห่วงว่าชาวบางกลอย จะตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ทั้งที่มีเจตนารมณ์บริสุทธิ์ เพราะขณะนี้กลุ่มต่างๆพยายามยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยความปรารถนาดี หรือประสงค์ร้าย หรือต้องการโหนกระแส จะช่วยแก้ปัญหาแต่ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง จึงขอวิงวอนให้พรรคการเมือง กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าฉวยโอกาสเอาความทุกข์ของชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเพื่อเป้าหมายของตนเองอย่างไร้มนุษยธรรม แทรกแซงกระบวนการการแก้ไขปัญหาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังเจรจาหาทางออก

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า "ในระหว่างที่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาหาข้อสรุป บางพรรคการเมืองไม่ควรใช้เป็นประเด็นหาประโยชน์ให้พรรคตนเอง เหมือนหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ขอให้หยุดการแทรกแซงที่มีแต่จะชักใบให้เรือเสีย และตนเชื่อว่าทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯพยายามหาทางออกเรื่องนี้ ให้คนอยู่ได้และป่าอนุรักษ์ก็อยู่ได้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 43 (2) ที่ให้บุคคลและชุมชนมีสิทธิทั้งใช้ประโยชน์ และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมดุลและยั่งยืน และกลุ่มชาติพันธุ์ได้ทำหน้าที่ในการร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50(8)"

"เข้าใจว่าในสถานการณ์ที่แกนนำม็อบถูกจับกุมตัว แกนนำแถว 1-2-3 ทยอยถูกดำเนินคดี ทำให้ม็อบเริ่มฝ่อ แต่ฝ่ายการเมืองไม่ควรฉวยโอกาส ผลักดันประเด็นปัญหาของชาวบางกลอยขึ้นมาแทนที่ หวังเป็นอีแอบให้ชาวบ้านบางกลอยออกหน้าให้กับพรรคการเมืองอย่างใจดำอำมหิต" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า "ที่ผ่านมากลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านโป่งลึก - บางกลอยได้รับการจัดสรรที่ดินครอบครัวละ 7 ไร่ 3 งาน มีผู้ถือครองที่ดินจำนวน 260 ราย 337 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 1,890 ไร่ และจากการเชิญทูตจาก 10 ประเทศประจำประเทศไทย IUCN ผู้แทนรัฐภาคีสมาชิกในคณะกรรมการมรดกโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ก็ได้เห็นการจัดการของเจ้าหน้าที่ การทำงาน และความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ ทุกประเทศความพอใจการทำงานและชื่นชมในความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 59 คน ที่แสดงเจตจำนงที่จะทำไร่หมุนเวียนที่บริเวณบางกลอยบน ทั้งหมด 36 ครัวเรือนๆละ 15 ไร่ หมุนเวียนเป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่ซ้ำที่เดิม และสามารถเลือกทำบริเวณใดก็ได้ ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ต้องพิจารณา เพื่อสร้างสมดุลระหว่างสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์กับการคุ้มครองและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกอาเซียนตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยมรดกโลกด้วย"