เปิดใจ ‘ครูเสริฐ’ แม้เกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่เพราะพลังรักจากแม่ ถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นครู นำไปสู่การส่งต่อพลังที่ดี ให้กับเด็กนักเรียน

“ต้องขอบคุณที่พ่อเดินจากผมกับแม่ไปตั้งแต่ผม 2 ขวบ”

คำพูดของลูกผู้ชายที่ประสบกับจุดแตกหักของครอบครัวในแบบที่สังคมตีความว่าคือความแตกแยก แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ เรื่องมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น มันกลับเป็นจุดตัดของชีวิตที่ขยายพลังความรักและความปรารถนาดีของแม่ให้เห็นชัดและยิ่งใหญ่จนโอบกอดและห่อหุ้มหัวใจของลูกชายเอาไว้ได้ทั้งดวง

ครูเสริฐ คุณครูสอนเด็กชั้นประถมโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีความตั้งใจจะทำอาชีพครูตั้งแต่เด็ก ครูเสริฐทำทุกอย่างให้ตัวเองได้เป็นครูที่ดีพร้อม ถึงแม้จะไม่ได้เรียนครูมาโดยตรง เพราะได้รับทุนเต็มให้ไปเรียนในสาขาวิชาอื่น แต่ในแผนการของครูเสริฐนั้น ทุกวิชา ทุกกิจกรรม ทุกงานคือส่วนหนึ่งของเส้นทางสู่การสร้างตน เพื่อกลายเป็นครูที่ดี แล้วอะไรทำให้ผู้ชายคนนี้ถึงรักการเป็นครูนัก

ครูเสริฐสอนนักเรียนชั้นไหน?

ผมมาลงที่สอนชั้น ป.1 ครับ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ

ทำไมเลือกสอนเด็ก ป.1?

การสอนเด็กเล็กน่าจะเป็นทางของผม แต่ให้ไปสอนอนุบาลเลยผมก็กลัวว่าจะไปทับเด็ก (หัวเราะ) คือผมสูง 182 ซม. เด็กอนุบาลตัวเล็กไปสำหรับผม ป. 1 สูงประมาณเอวผมก็พอได้ ผมชอบสอนเด็กเล็กเพราะเค้าใสซื่อ ปากกับใจตรงกันจริง ๆ ไม่มีมารยา ไม่มีอะไร

อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครูเสริฐรักการเป็นครู?

น่าจะเป็นคุณครูที่เราเรียนด้วยเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากเป็นครูเหมือนอย่างท่าน

ครูเสริฐเคยเจอครูที่ไม่ชอบบ้างมั้ย?

(คิดนานก่อนจะตอบ) น้อยมาก เคยมีนะ จำได้ว่ามีครูที่ตีเพื่อนเรา เราก็แบบว่าเค้าตีเพื่อนเราทำไม แต่ผมก็ไม่ได้อะไรนะ

วิธีการสอนในชั้นเรียนของครูเป็นแบบไหน?

ผมเคยตอบคำถามในการอบรมครูครั้งหนึ่ง วิทยาการถามว่า ครูที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร ผมตอบไปว่า ครูที่ดีที่สุด คือครูที่สามารถเข้าไปนั่งในหัวใจเด็กได้ ผมไม่ใช่คนเก่งนะ ผมตอบไปตามที่ผมรู้สึก ถ้าครูสามารถเข้าไปนั่งในใจเด็ก ๆ ได้ เด็กเค้าจะเชื่อฟัง เค้าจะทำตามที่เราบอกทุกอย่าง

ในชั้นเรียนผม ผมจะสอนไม่ยากนะ เน้นให้เด็กมีความสุข แล้วเค้าจะรักการเรียนเอง อย่างช่วงที่ผ่านมาเรียนออนไลน์ ผู้ปกครองชอบมาก พอถึงเวลาเริ่มเรียนผมก็เอาเครื่องดนตรีมาเล่นให้เด็ก ๆ ได้ร้องเพลงผ่านการเรียนแบบออนไลน์ เด็กได้เต้นได้ร้องเพลง เค้าก็สนุกกับการเรียนและจำบทเรียนได้

ซึ่งผมได้ไปอบรมเกี่ยวกับจิตวิทยาสมัยใหม่มา อธิบายความแตกต่างระหว่างจิตวิทยาสมัยใหม่และสมัยเก่าคร่าว ๆ คือเค้าพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ positive psychology ให้มองโลกในแง่บวก บวกไว้เลย เด็กจะมีความสุข ให้กำลังใจเค้า บอกเค้าว่า หนูทำได้นะ หนูเก่ง อย่างตอนที่เด็กฟันหลุด ผมก็บอกเค้าว่า หนูฟันหลุดเพราะว่าหนูโตแล้วนะลูก เราให้กำลังใจเค้า

ในวัยที่ครูเสริฐอายุเท่านักเรียนของครู ครูมีเรื่องให้ต้องไม่มีความสุขบ้างมั้ย?

(ครูเสริฐคิดอยู่เสี้ยววินาที) ไม่ค่อยมีนะ จริง ๆ ต้องขอบคุณคุณแม่ผมนะ คุณแม่ผมจบแค่ ป. 4 เป็นแม่ค้า แต่เลี้ยงลูกแบบจิตวิทยาสมัยใหม่ตรงกับที่ผมไปอบรมมาเลย คือพ่อแม่ผมแยกทางกัน เป็นบ้านอื่นเค้าจะพูดถึงกันไม่ดีให้ลูกฟัง แต่มาม้าไม่เคยพูดลบถึงพ่อให้ผมฟังเลย ต้องขอบคุณคุณพ่อที่จากผมไปตั้งแต่ผม 2 ขวบ ผมไม่เคยโกรธพ่อผมเลยนะ คุณแม่ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น จริง ๆ ผมต้องบอกว่าคุณแม่คือครูคนแรกที่สำคัญของผม แม่ทำให้ผมอยากส่งต่อพลังที่ดีให้กับเด็ก

ครูเสริฐอยากให้ลูกศิษย์ได้อะไรติดตัวไปจากครู อยากเห็นลูกศิษย์ครูโตไปเป็นยังไง?

อยากให้เค้าเข้าใจความเป็นคน เหรียญมีสองด้าน ให้เราพิจารณาทุกคน อะไรทำให้เค้าเป็นแบบนี้ อะไรทำให้เค้าทำแบบนี้ มันมีอะไรที่นำพาเค้ามาให้เค้าเป็นแบบนี้ อยากให้เค้าเข้าใจว่าความเก่งไม่เก่งไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีของประเทศ รู้จักเอาตัวรอด นำประโยชน์ที่ได้ไปใช้ เมื่อได้ดีแล้ว อย่าลืมตอบแทนบุญคุณ เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ในเวลาเดียวกัน ผมเป็นครูผมก็รู้นะ เด็กบางคนเก่ง เด็กบางคนไม่เก่ง แต่เด็กทุกคนเป็นคนดีได้

อยากฝากอะไรให้กับคนที่ผ่านเข้ามาอ่าน?

อยากให้เข้าใจคน อย่างที่บอกเหรียญมีสองด้าน เรื่องนี้พูดแล้วก็ขนลุกนะ เด็ก ๆ ทุกคนทำได้ เค้าแค่ขาดโอกาส ผมเคยคัดเด็กเป็นนางรำแล้วผมคัดเด็กอ้วนดำมารำ ครูคนอื่นเค้าก็ถามว่าทำไมคัดเด็กอ้วนดำมารำล่ะคะครูเสริฐ สำหรับผม ถึงเค้าจะอ้วนดำ แต่พอจับแต่งตัวแต่งหน้าออกมาสวยเลย และพอเค้าได้โอกาสที่เค้าคิดว่าเค้าไม่น่าจะได้รับ เค้าก็ตั้งใจกับมันมาก ผมให้เด็กคนนั้นอยู่ข้างหน้า หนูอยู่ข้างหน้าทำให้ดีนะลูก แล้วเค้าก็ทำออกมาได้ดีเลย เด็กทุกคนต้องการแค่โอกาส กำลังใจที่เป็นพลังบวก ความเชื่อมั่นที่เรามีต่อเด็กสามารถทำให้เด็กเรียนไม่เก่งกลายเป็นเรียนเก่ง ไม่สวยกลายเป็นสวย แค่กำลังใจอย่างเดียวก็เพียงพอ เด็กเค้าจะพยายามเอง

ขอฝากถึงพ่อแม่ด้วย ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนกลับบ้านมาคุณต้องมอบความสุขให้กับลูก รับฟังลูก กอดลูก การกอดคือสัมผัสที่ทรงพลังมากกว่าคำพูด กอดของพ่อแม่คือเกาะกำบังของลูก อย่าส่งลูกออกไปนอกบ้าน อย่าไล่ลูกไปอยู่ในที่ที่อันตราย บ้านคือสวรรค์ของลูก

ครูเสริฐเป็นตัวอย่างชิ้นดีชิ้นหนึ่งที่ทำให้รู้ว่า ถึงแม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ครบสมบูรณ์แบบ แต่ความใส่ใจของผู้เป็นแม่หรือสมาชิกที่เหลือในครอบครัวก็สามารถเติมเต็มความสุขให้ลูกจนเอ่อล้นได้ ครูเสริฐได้ส่งต่อพลังความห่วงใยและความหวังดีนั้นไปยังนักเรียนในชั้นของครู พลังบวกของแม่ครูเสริฐนั้นได้แผ่ขยายออกไปเรื่อย ๆ

จากจุดเริ่มต้นที่แตกหัก ในแบบที่สังคมตีความว่าคือความแตกแยก กลับกลายเป็นจุดตัดขยายอนุภาพแห่งความรักจากแม่สู่ลูก สู่หัวใจที่เต็มอิ่มไปด้วยรักของลูก สู่จิตวิญญาณของความเป็นครูที่รักและหวังดีต่อเด็ก พลังรักของคุณแม่ครูเสริฐสัมฤทธิ์ผลแล้ว นั่นคือตัวครูเสริฐเอง

ครูเสริฐ คุณครูสอนชั้นประถมที่อยากทำให้เด็กทุกคนเป็นคนดีและมีความสุข


ขอขอบคุณ ครูประเสริฐ ปานเพชร ครูเอกชน สอนประจำ ณ  โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์  เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร สอนวิชา ภาษาอังกฤษ  ในระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น

สัมภาษณ์และเรียบเรียงเรื่องโดย: พิมพ์นารา สุวรรณไตรย์