สิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ คือการเว้นพื้นที่ว่างตรงกลางให้แก่กัน เคารพในพื้นที่ส่วนตัว และไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของกันและกัน ความรักจะมั่นคงได้ เพราะมีที่ว่างอย่างเหมาะสม

จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน

จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน

จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง

แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว

ดังเช่นสายพิณนั้นต่างอยู่โดดเดี่ยว

แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน

-- คาลิล ยิบราน (Kahlil Gibran) --

บทกวีข้างต้นมาจากหนังสือ ปรัชญาชีวิต (The Prophet) ของคาลิล ยิบราน เขาเป็นทั้งกวี นักเขียน และศิลปิน บทประพันธ์ของเขาทุกชิ้น ล้วนงดงาม สะเทือนอารมณ์ ลึกซึ้ง ไพเราะ แต่เข้าใจง่าย

ไม่แปลกใจเลยที่บทกวีข้างต้นถูกจัดอยู่ในบทว่าด้วยการแต่งงาน เพราะนับเป็นสิ่งสำคัญที่ชีวิตคู่ควรจะมี หรืออีกนัยคือจำเป็นต้องมีเพื่อชีวิตรักที่ยืนยาว แต่ในบริบทนี้อาจไม่ต้องมองไปถึงขั้นแต่งงานก็ได้ ความรักในแต่ละวัยย่อมแตกต่างไปในแต่ละช่วงอายุ เมื่อก่อนในช่วงวัยรุ่น เราเริ่มตกหลุมรัก หลงใหล ได้ใช้เวลาศึกษาดูใจ กินข้าว ดูหนัง เดินเล่น โทรคุยกันก่อนนอน แบ่งปันเรื่องราว รายงานชีวิตประจำวัน ไปไหนทำอะไร เท่านั้นก็คงเพียงพอ แต่เมื่อก้าวขึ้นมาอีกวัยหนึ่งที่โตขึ้น นอกจากความรักและเวลา พื้นที่ส่วนตัวก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญของความสัมพันธ์

บทกวีดังกล่าวหากมองให้ลึกลงไป ความหมายนั้นก็ชัดเจนและสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ความรักเกิดขึ้นโดยคนสองคนที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเรื่องราวและเส้นทางชีวิตเข้าด้วยกัน การหลงใหล ตกหลุมรักในช่วงแรกอาจเป็นความลุ่มหลัง คะนึงหาเพียงชั่วครู่ แต่สิ่งที่บทกวีนนี้กำลังจะบอกคือ การประคับประคองความรักนั้น ต้องรู้จักความเกื้อกูล การมีพื้นที่ว่างตรงกลางให้แก่กัน เคารพพื้นที่ส่วนตัว และอย่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของกันและกัน

เมื่อความรักเป็นสิ่งที่สร้างความสุขในความสัมพันธ์ แต่บางครั้งในชีวิตของคนเราย่อมต้องการพื้นที่ที่จะมีแค่ตัวเรา มีพื้นที่ในการคิดทบทวน ทำในสิ่งที่ชอบ ได้ใช้เวลาเพื่อตัวเอง เราอาจต้องการเวลาที่จะได้อ่านหนังสือที่ชอบ ดูซีรีย์เรื่องโปรด นอนฟังเพลง นั่งทำงาน เดินห้างช้อปปิ้งคนเดียว เพราะฉะนั้น ในความสัมพันธ์คนสองคนอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือรับรู้เรื่องราวในชีวิตกันและกันทุกเรื่อง ไม่ต้องพยายามมีบทบาทและตัวตนในชีวิตของอีกฝ่าย ไม่ต้องดิ้นรนครอบครอง

การเปรียบเทียบของ คาลิล ยิบราน ที่กล่าวว่า สายพิณนั้นต่างอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่สั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน หมายความได้ว่า สายพิณไม่ได้แตะกัน หรือต้องยึดโยงเกี่ยวพันกัน เพียงเรียงเส้นทีละสายอย่างมั่นคง แต่เมื่อมีผู้เริ่มบรรเลง ทุกสายต่างบรรเลงตัวโน้ตของตัวเอง สอดประสานออกมาเป็นบทเพลงที่แสนไพเราะ เปรียบได้กับความรัก คู่รักอาจไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงชีวิตหรือเหนี่ยวรั้งกันไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา อาจมีบางเวลาที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวด้วยตัวเอง แต่ชีวิตที่ดำเนินไปจะรับรู้ได้ว่ามีความรักนั้นประคับประคองไปในทิศทางเดียวกันเสมอ สิ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอคือ ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตใคร ความรักจะมั่นคงได้ เพราะมีพื้นที่ว่างอย่างเหมาะสม

‘จงรักกัน แต่อย่าสร้างพันธะแห่งรัก’


เขียนโดย เพลิน ภารวี สุภามาลา Content Editor THE STUDY TIMES