‘อนุทิน’ วอน ฝ่ายการเมือง ให้คิดถึงบ้านเมือง ปมวิจารณ์วัคซีนโควิด อย่าเพียงจ้องเอาชนะคะคาน หวั่น วิจารณ์วัคซีนด้านลบจนสร้างอุปสรรคในการควบคุมโรค และทำให้การจัดหาวัคซีนยากลำบากขึ้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ทางผู้ผลิตจากประเทศจีน รับรองแล้วว่าจะส่งวัคซีนในวันที่ 24 แน่นอน และยังแสดงความยินดี ที่ได้ช่วยเหลือภารกิจด้านสุขภาพของไทย นับว่าแผนการของไทย ยังไม่สะดุด จากนี้ ไทยจะได้วัคซีนต่อเนื่องตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะฉีดใคร พื้นที่ไหนบ้าง ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการที่รับผิดชอบ ซึ่งตนไม่แทรกแซง ทั้งตน และพลเอกประยุทธ์ จะได้รับการฉีดตอนไหน ก็เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการ

ทั้งนี้ เมื่อวัคซีนมาถึง ทาง อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต้องไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ก่อนปักลงบนแขนของคนไทย การได้วัคซีนมาแต่ละโดสนั้น ต้องแข่งขันกันสูงมาก แต่ทีมประเทศไทย ได้ทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องน่าชื่นชม

สิ่งที่ต้องการสื่อสารคือ หลายครั้งที่ฝ่ายการเมือง ทำให้เรื่องวัคซีน กลายเป็นความยากลำบากขึ้นไปอีก เพราะทางผู้ผลิต ก็ไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้น การให้ข่าวว่าวัคซีนที่ไทยนำเข้ามา มีประสิทธิภาพต่ำ มีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งที่ ข้อเท็จจริงคือ การฉีดวัคซีนนั้น ช่วยป้องกันอาการป่วยหนัก แทนที่จะสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ชาติปลอดภัย กลับเอาแต่นำเสนอด้านลบ จนสังคมเกิดความไม่มั่นใจ กลายเป็นอุปสรรคในการควบคุมโรค ตนต้องการให้ฝ่ายการเมือง นำเสนอเพื่อให้ชาติเดินหน้า ดีกว่ามุ่งทำทุกทางเพื่อเอาชนะคะคานกัน

ในประเด็นเรื่องการจัดหาวัคซีนซึ่งบางฝ่ายกล่าวว่ารัฐผูกขาด ล็อกสเป็ก ขอย้ำว่า ไทยพร้อมคุยกับผู้ผลิตทุกราย พร้อมขึ้นทะเบียน หากเป็นไปตามเงื่อนไข และพร้อมจัดหามาแน่นอน แต่ประเด็นคือ ผู้ผลิตหลายราย เสนอมอบวัคซีนในช่วงกลางปี ถึงปลายปี ซึ่งทับซ้อนกับช่วงที่ไทยจะได้วัคซีนจากผู้ผลิตฝั่งยุโรป

วัคซีน มีอายุขัยไม่นานนัก การเก็บไว้หลายเดือน จึงไม่เหมาะสม ดังนั้น ไทยจึงไม่ได้นำวัคซีนมาจนค้างสต็อก อีกอย่างคือ ไทยสามารถผลิตได้เองด้วย นับว่าไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางสุขภาพอย่างยิ่ง