‘เพื่อไทย’ เปิดตัวโครงการ ‘The Change Maker’ เฟ้นหาคนรุ่นใหม่ หาทางออก-สร้างความหวังประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของประเทศไทย
พรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการ “The Change Maker : นวัตกรรมทางการเมืองที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” (people-centric) ผ่านกิจกรรม “แฮกกาธอน” (Hackathon) หรือการสร้างนวัตกรรมแบบเร่งด่วน มาใช้ในการพัฒนาทางการเมืองจัดการเรียนรู้ผ่าน Interactive workshops หรือการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ แก้โจทย์ทางการเมือง โดยการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ 100 คน เข้าร่วมกระบวนการออกแบบนโยบายร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมลงพื้นที่จริงกับ ส.ส.ในพื้นที่ ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจริงตั้งแต่เริ่มเสนอปัญหา ไปสู่โปรเจคทดลอง (Pilot Project) เพื่อแก้ปัญหาระดับชาติได้จริงในอนาคต
นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โครงการ The Change Maker เป็นอีกก้าวหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยจะ Disrupt ตัวเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานของพรรคอีกครั้ง นับตั้งแต่ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เชื่อว่าโครงการนี้จะได้บุคคลและนโยบายใหม่ ๆ มาพัฒนาประเทศ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคยังคงแข็งแกร่ง และยังคงยึดมั่นในจุดยืนเดิมที่เป็นสมองของประเทศ ด้วยบุคลากรทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ และผู้มากประสบการณ์ ที่จะร่วมกันนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤตและพัฒนาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ได้
นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย และโครงการ The Change maker กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นการปลุกความหวังของคนในสังคมไทยให้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านแพลตฟอร์มทางการเมืองครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีคนรุ่นใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เข้ามาร่วมผนึกกำลังกับทางพรรคที่มี ส.ส. นักการเมืองที่มากประสบการณ์ และ Ecosystem ที่พร้อมสำหรับสถาบันทางการเมือง เพื่อสรรหานโยบายที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาของยุคสมัยได้
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ที่ปรึกษาและ Mentor ของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเผชิญกับมหาวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวม 5 ด้านและเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ได้แก่ 1.วิกฤติการเมือง รัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งแบ่งข้างในสังคม 2.วิกฤติเศรษฐกิจที่หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเพราะกระทบทุกคนในสังคม 3.วิกฤติทางสังคม ความเหลื่อมล้ำมากขึ้นทุกที การศึกษาที่อ่อนด้อย 4.วิกฤติโรคระบาดซึ่งกระทบทั้งโลก สร้างความเสียหายยิ่งกว่าสงครามโลก และ 5.วิกฤติการดิสรัปต์ของเทคโนโลยี ทำให้เกิดภาวะชนชั้นไร้ประโยชน์ การตกงานอย่างกว้างขวาง ซึ่งมหาวิกฤติในครั้งนี้ ผู้รับผิดชอบไม่มีการเตรียมการรองรับแรงกระแทกอย่างเพียงพอและจริงจัง จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยเหลือพวกเรากันเอง ซึ่งโครงการ The Change Maker จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันคิดหาทางออกจากวิกฤติ และเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยให้แข็งแรงขึ้น มีภูมิต้านทานในการรับมือกับทุกเรื่องที่เข้ามาได้
ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาด้านหลักสูตรของโครงการ The Change Maker กล่าวว่า สถาบันการเมืองเปรียบเสมือนที่พึ่งที่หวังของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พรรคเพื่อไทยซึ่งมีเบ้าหลอมมาจากพรรคไทยรักไทย ถือเป็นพรรคการเมืองสามารถครองใจประชาชนมาตลอด 20 ปี โดยมี “เคล็ดลับครองใจประชาชน” 3 ชุด ได้แก่ 1.คน คิด เคลื่อน โดยพรรคไทยรักไทยสามารถรวบรวมบุคคลที่มีความสามารถ มุ่งมั่น ร่วมกันคิดเสนอนโยบาย แนวทางแก้ปัญหาที่ทำได้จริง เพราะคิดแนวทางการปฏิบัติไว้ถูกต้อง 2. ICE : โดย I (Inclusive) ระดมความเป็นเจ้าของและการมีส่วนร่วม ส่วน C (Collaborative) ร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ประสานประโยชน์อย่างเหมาะสม และ E (Empower) ทำให้ประชาชนมีอำนาจ มีสิทธิ์ มีศักดิ์ศรี ผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเท่าเทียม เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และการปรับทัศนคติว่าข้าราชการไม่ใช่ “นาย” แต่เป็น “ผู้ให้บริการ” เป็นต้น
นพ.พรหมินทร์ กล่าวต่อว่า เคล็ดลับข้อที่ 3.คือ 3C ซึ่งเป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ โดย C ตัวแรกคือ Creative คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ คนรุ่นใหม่ พลังสร้างสรรค์สูงกว่า ผู้ใหญ่ต้องรับฟังและเลือกเป็น Communication เลือกสาระ เข้าใจเจตนาร่วม จึงจะบริหารประเทศ สำเร็จ และ Contest การแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้เกิดพลังที่สร้างสรรค์และท้าทาย เชื่อว่าหากนำเคล็ดลับนี้นำไปสร้างสรรค์โครงการ เพื่อระดมคน ความคิด และความร่วมมือ จะช่วยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้
โครงการ The Change Maker เปิดรับบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ช่องทาง Google Form ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดของการรับสมัครเพิ่มเติมและความคืบหน้าของโครงการได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ Telegram “THINKPHEUTHAI”