ทัพบกแจง!! เยียวยาเหยื่อเหตุกราดยิงโคราช แล้ว 88 ราย รวมถอดยศ-คาดโทษ ผู้ก่อเหตุและมีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมรื้อระบบสวัสดิการทัพบกใหม่ รวมถึงปิดสนามมวย-รื้อสนามม้าตามความเหมาะสม
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แถลงสรุปครบ1 ปี เหตุการณ์กราดยิงโคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 หลังจากที่กองทัพบกมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และฟื้นฟูเยียวยา รวมถึงพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปจากฝ่ายเสนาธิการ โดยจะเยียวยาใน 2 ลักษณะ ให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 31 ราย และบาดเจ็บ 57 คน รวมทั้งสิ้น 88 ราย โดยบรรจุราชการทหาร 31 คน ในสังกัดกองทัพบก 26 คน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4 คน และพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ 1 คน
ในส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการเยียวยามีทั้งหมด มี 4 คน คือ ผู้ก่อเหตุ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุ, พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์, นางอนงค์ มิตรจันทร์ และ นายพิทยา แก้วพรหม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนปลดประจำการถอดยศ ทั้ง จ.ส.อ.จักรพันธ์ และ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับสิทธิตามระเบียบบำเหน็จตกทอด
ขณะที่ผู้บังคับบัญชาประจำหน่วยกองทัพภาค โดนคาดโทษ รวมไปถึงผู้บัญชาการช่วยรบที่ 2 ถูกปรับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำกองทัพบก (ยศไม่ขึ้น) นอกจากนี้ กองทัพบกยังปรับปรุงระเบียบการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และปรับปรุงระบบสวัสดิการกองทัพให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งสวัสดิการภายในและนอกเหนือ
นอกจากนี้ พล.ท.สันติพงษ์ ยังชี้แจงถึงแผนสวัสดิการทั้งหมดของกองทัพ โดยพื้นที่สนามกอล์ฟทั้งหมด 36 แห่ง นำไปจัดทำเป็นพื้นที่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 1 แห่ง คือ สวนสนประดิพัทธ์ และอีก 2 แห่งที่ รามอินทรา จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ และ ลานนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร โดยจะคงเหลือพื้นที่ 33 แห่งเป็นสวัสดิการภายใน
ส่วนสนามมวย 3 แห่ง ปิดถาวรไปแล้ว 2 แห่ง คือ ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี และ ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่สนามมวยลุมพินี ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจหรือสนามกีฬาที่อาจไม่มีการจัดการแข่งขันแล้ว
ด้านสนามม้า จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันไม่ได้เปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งตั้งคณะกรรมการศึกษาสำหรับการใช้พื้นที่ว่าจะรื้อสนามม้ามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยว หรือสวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกาย
ส่วนสถานที่พักฟื้นพักผ่อน 5 แห่ง จะเข้าสู่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 2 แห่ง คือ ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงราย และสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนลานนา มทบ.33 จังหวัดเชียงใหม่ กำลังดำเนินการ ขณะที่อีก 2 แห่งคือ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ และหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี ยังคงเป็นสวัสดิการภายใน