‘นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์’ ซัดปมคำถามบริษัทสยาม-ไบโอไซน์ ผูกขาดการผลิตวัคซีนโควิด เป็นเจตนาดิสเครดิตรัฐบาล ของคนบางกลุ่ม ระบุหากมีข้อสงสัย สามารถเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงได้อยู่แล้ว

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ (Jetn Sirathranont)’ ระบุว่า นักการเมืองบางคนและบางพรรคซึ่งตั้งตัวเป็นศัตรู กับนายกฯ กำลังออกมา discreditรัฐบาล โดยการพุ่งเป้าไปที่บริษัทสยาม-ไบโอซายน์ ถามถึงความเหมาะสม การผูกขาดในการผลิตวัคซีน คุณภาพวัคซีน รวมถึงราคาที่จ่าย โดยไม่พยายามศึกษาหาข้อมูล ทั้งที่ตัวเองมีอำนาจเรียกหน่วยงานต่างๆมาชี้แจงได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัท, สถาบันวัคซีนแห่งชาติ หรือกรมควบคุมโรค

บริษัทสยาม-ไบโอซายน์ เป็นของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่ถือหุ้น100%เงินลงทุน 5,000 ลบ.จัดตั้งขึ้นด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของรัชกาลที่9 ที่ทรงเล็งเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีความมั่นคงทางยาและชีววัตถุ ตั้งขึ้นมาตั้งแต่พ.ศ.2552 ไม่ได้มีจุดประสงค์แสวงหากำไร มีผลงานผลิตยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง(Erythropoietin)ที่ประเทศไทยต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลนำเข้ายาจากต่างประเทศมาใช้ในผู้ป่วยที่ฟอกไตเช่นเดียวกับยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว(Peg-Filgrastim),ยารักษามะเร็ง,Covid test kit,น้ำยาRT-PCR,FentanylหรือMidazolam

บริษัท Oxford-Astra Zeneca ติดต่อมาแม้จะไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน แต่เนื่องจากบริษัทได้มาตรฐานการผลิตยาระดับGMO PIC/S(หลักเกณฑ์และข้อกำหนดอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรปPharmaceutical Inspection Co-Operation Scheme)มาตรฐานสากลที่AstraZenecaใช้ยึดถือในการก่อสร้างโรงงานผลิต และควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอน

จึงเห็นด้วยที่จะให้บริษัทสยาม-ไบโอซายน์ปรับสายการผลิตมาผลิตวัคซีนดังกล่าว ซึ่งเมื่อปรับปรุงเรียบร้อย จะสามารถผลิตวัคซีน Oxford-Astra Zeneca ได้ปีละ 200 ล้านโดส โดยการเลี้ยงตัว cell จนได้วัตถุดิบในเวลา120วัน ซึ่งบริษัทได้ปรับปรุงจนเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ 16ธ.ค.ที่ผ่านมา ข้อดีคือสามารถจำหน่ายส่วนที่ผลิตเกิน ให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และเป็นรากฐานความมั่นคงวัคซีนของประเทศต่อไปรวมทั้งช่วยเพิ่มศักยภาพบริษัทนอกเหนือจากความสามารถในการผลิตยาและชีววัตถุอื่นๆได้ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำอยู่แล้วข้อสำคัญสามารถดึงนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิกลับจากตปท.มาทำงานในกระเทศได้ โดยเฉพาะผู้ที่รับทุนปริญญาโท ปริญญาเอกมากมายที่เรียนจบไม่ยอมกลับมาเพราะหางานทำที่เหมาะสมในประเทศไม่ได้


ที่มา : เพจ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ (Jetn Sirathranont)