“อนุทิน ชาญวีรกูล” ฟิต ร่วมประชุมครม.นัดแรกหลังกักตัว 14 วัน ยืนยันไม่มีขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข ไม่ขัด หากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น-โรงพยาบาลเอกชน ซื้อวัคซีนฉีดเอง แต่ต้องขึ้นทะเบียนจากอย.ก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลประชาชน ในการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ว่าสธ.ยืนยันความพร้อม ทั้งเรื่องการแพทย์ เวชภัณฑ์ การพยาบาล และการดูแลสถานการณ์เรามีความพร้อม และขอให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้มีการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่จะให้มีคนกลับจากบ่อนการพนันต่างประเทศ และนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วยนั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง รวมไปถึงโทษนั้น มีความชัดเจนอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปดูในพ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยเฉพาะมาตรา 40,41,42 รวมทั้งดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ประกอบด้วย ซึ่งเราต้องทำทุกอย่างตามกฎหมาย แต่เรื่องการที่บอกว่าจะไม่รักษานั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องให้การรักษา แต่ต้องดูข้อกฎหมายว่ากำหนดไว้อย่างไร

เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรื่องวัคซีน ว่า ในกรณีที่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยินดีซื้อมาเพื่อฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดของตัวเอง แล้วทางสธ.มีความเห็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการที่จะนำวัคซีนมาบริการกับประชาชนโดยทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าท้องถิ่นมีงบประมาณและต้องการดูแลประชาชน สิ่งที่ใช้ก็ต้องเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียน โดยผ่านการอนุมัติจากสธ. ถือว่าเป็นเรื่องดีหากท้องถิ่นมีความจำนง ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาล โดยงบประมาณรัฐบาล ต้องนำรายชื่อมาตรวจคัดกรองกัน เพราะฉีดซ้ำไม่ได้อยู่แล้วเป็นการช่วยกันคนละไม้ละมือ อย่างไรก็ตามเป็นการพูดถึงหลักการทั่วไปก่อนยังไม่ได้ลงรายละเอียด ถือว่าเป็นเรื่องร่วมกันทำงาน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน อยู่ที่ว่าจะเอามาจากกระเป๋าใบไหนเท่านั้น ทั้งนี้สธ.พิจารณาแล้วเห็นว่า วัคซีนต่างประเทศทุกยี่ห้อไม่มีปัญหา และสามารถมาขอขึ้นทะเบียนจากทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สธ.ของไทยได้ และโดยหลักการเราเปิดกว้างเพียงขอให้ปลอดภัย หากบริษัทจะมาขึ้นทะเบียนกับอย.ไว้ก่อน เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถนำมาฉีดให้กับคนที่มีฐานะหรือฉีดได้

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แล้วหรือยังในกรณี แถลงข่าวออกมาโดยเหมือนยังไม่ได้หารือกันภายในก่อน แทนที่จะมาคุยผ่านโซเชียล ทำให้ดูเหมือนมีปัญหาภายในศบค. นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหาและนายแพทย์ทวีศิลป์ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนโดยตรง เวลาเขาทำหน้าที่ เขาก็แถลงตามตัวอักษรของกฎหมาย แต่เมื่อมีกระแสออกมาอีกทางหนึ่งก็ต้องรีบบอกกันว่า ไม่ควรใช้กฎเกณฑ์แบบนั้น เราต้องเอาความสบายใจของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เมื่อวันที่ 11 มกราคม ก็ยังนั่งพูดคุยกัน ต่างคนต่างให้กำลังใจกัน

นายอนุทินกล่าวถึงการกักตัว 14 วันที่ผ่านมาของตนเองด้วยว่า รู้สึกฟิตน้ำหนักลงไป 3 กิโลกรัม อยู่บ้านก็ทำงานได้และทำงานหนักกว่าเสียอีกเพราะไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องรับแขกใช้วิธีการประชุมทางไกล ซึ่งก็ประชุมทั้งวัน และยังกินน้อยลงไปด้วย