กระทรวงการคลัง ได้ข้อสรุปเปิดลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตกแล้ว คาดดำเนินการได้ปลายเดือนมกราคม พร้อมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาวันนี้

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้สรุปการเปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตกแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนม.ค.นี้ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการก่อน ซึ่งในวันนี้ ( 12 ม.ค.) โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ว่ากระบวนการและขั้นตอนทั้งหมดเป็นอย่างไรบ้าง

โดยเบื้องต้น พบว่า ยังมีสิทธิคงเหลือให้เปิดลงทะเบียนอีกกว่า 1 ล้านสิทธิ ซึ่งมาจากโครงการคนละครึ่งเฟสแรก ที่มีสิทธิคงเหลือ 5 แสนสิทธิ และจากเฟส 2 ที่มีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์อีก 5 แสนสิทธิ อย่างไรก็ดี ยังต้องรอพิจารณาข้อมูลผู้ที่เข้าร่วมโครงการเฟส 2 แต่ไม่มีการใช้จ่ายภายใน 14 วันด้วย หลังจากนั้นจะนำตัวเลขทั้งหมดมาสรุปอีกครั้ง

ส่วนกระแสข่าวเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่จะขยายการเพิ่มวงเงินให้กับผู้ใช้สิทธิเดิม (เฟส 1- เฟส 2) จำนวน 15 ล้านคน อีกคนละ 1,500 บาท และขยายระยะเวลาโครงการที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.64 ไปจนถึงเดือน มิ.ย.64 นั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว

ส่วนข้อเสนอภาคเอกชนที่ให้กระทรวงการคลังแจกเงิน 4 พันบาทนั้น ไม่ทราบว่าเอกชนเสนอมาบนพื้นฐานอะไร แต่ไม่ใช่ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง แต่ในส่วนของรัฐบาลได้เตรียมการไว้แล้ว แต่จะยังไม่เสนอให้ ครม. พิจารณาในวันนี้ (12 ม.ค.) โดยขอไปศึกษาให้ดีก่อน

ด้านน.ส.กุลยา ตันติเตมิท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สศค. ขอให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งทั้งเฟสแรก และเฟส 2 รีบเปิดใช้สิทธิภายในวันที่ 14 ม.ค.64 โดยเบื้องต้น มีข้อมูลการใช้จ่ายล่าสุด 13.4 ล้านคน ยังเหลืออีก 1.6 ล้านคนที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งหากกลุ่มนี้ไม่มีการใช้จ่ายภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับ SMS ก็จะนำสิทธิมาเปิดลงทะเบียนในรอบเก็บตกอีกครั้ง

สำหรับตัวเลข 1.6 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟสแรก ที่คงเหลือสิทธิอยู่ 4.5 แสนคน ก็จะนำไปเสนอ ครม.ให้เห็นชอบ เพื่อมาเปิดลงทะเบียนอีกครั้ง และผู้ลงทะเบียนเฟส 2 อีกจำนวน 5 ล้านคน ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิไปแล้ว 3.8 ล้านคน ยังเหลืออีก 1.2 ล้านคน ดังนั้น สศค.ขอความร่วมมือให้เร่งใช้จ่ายให้ทันภายใต้เงื่อนไขโครงการ