สภาคองเกรสยืนยันชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของ โจ ไบเดน หลังได้รับเสียง Electoral Vote เหนือกว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 3 เสียงของรัฐเวอร์มอนต์ทำให้ ไบเดน ได้คะแนนเกิน 270 เสียง

ทั้งนี้ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธการคัดค้านไม่ยอมรับคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐจอร์เจียและเพนซิลเวเนีย ซึ่งไบเดนนำทรัมป์ พรรครีพับลิกันยังคัดค้านการรับรองคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐแอริโซนา เนวาดา และมิชิแกน

“การรับรองคะแนนเสียงของประธานวุฒิสภา จะถือเป็นการประกาศที่เพียงพอแล้วว่า บุคคลที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นใคร วาระจะเริ่มต้นในวันที่ 20 มกราคม 2021” ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวหลังจากการนับคะแนน Electoral Vote สิ้นสุดลง

การรับรองดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้สนับสนุนทรัมป์ก่อการจลาจลโดยบุกเข้าไปในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ผ่านมา โดยการประชุมของสภาคองเกรสในการรับรองคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการหยุดชะงักเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้ามา โดยขณะนั้นเพิ่งนับคะแนนไปได้เพียง 12 เสียงเท่านั้น

หลังเหตุการณ์คลี่คลายลง สภาคองเกรสได้ดำเนินการนับคะแนนต่อในเวลาประมาณ 20.00 น. และในที่สุดผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็สิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของไบเดน ที่คะแนน 306 ต่อ 232 เสียง นั่นหมายความว่า โจ ไบเดน กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ

ด้าน แดน สกาวิโน (Dan Scavino) ผู้ช่วยด้านโซเชียลมีเดียของทรัมป์ ได้เป็นตัวแทนทวีต “คำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” แทนเจ้าตัว เนื่องจากบัญชีทวิตเตอร์ถูกแบนชั่วคราว ความว่า

“แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ข้อเท็จจริงก็ทำให้ผมเข้าใจ อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งมอบตำแหน่งอย่างถูกระเบียบในวันที่ 20 มกราคม ผมพูดเสมอว่า เราจะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการนับเฉพาะคะแนนเสียงตามกฎหมายเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นการสิ้นสุดวาระแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดี แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง”


ที่มา: PPTV / CNN / The Guardian