รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ลอนดอนแถลงวันนี้ (30 ธ.ค) ว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซฟอร์ดได้รับการอนุมัติให้ สร้างความเชื่อมั่นกับสาธารณะด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย เตรียมใช้วัคซีนแอสตาเซเนกาคุ้มกันประชาชนวันที่ 4 ม.ค นี้

รอยเตอร์รายงานว่า อังกฤษกลายเป็นชาติแรกของโลกอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซฟอร์ด โดยกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า รัฐบาลอังกฤษได้ยอมรับคำแนะนำจากสำนักงานกำกับผลิตภัณฑ์ยาและการดูแลสุขภาพอังกฤษ MHRA (Medicines and Healthcare products Regulatory Agency) ให้อนุมัติวัคซีนโควิด-19ของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด/แอสตราเซเนกาในการใช้งาน

ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ แมท แฮนด์ค็อก (Matt Hancock) กล่าวว่า การอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกาของรัฐบาลลอนดอน จะนำไปสู่การนำอังกฤษออกจากวิกฤตโรคระบาดได้ทันภายในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึง ซึ่งจะทำให้ประชาชนจำนวนหลายล้านคนที่อยู่ในความเสี่ยงได้รับการปกป้อง

เขายังกล่าวอีกว่า มีคำแนะนำให้การแจกวัคซีนโดสแรกและโดสที่ 2ห่างกัน 12 สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยได้มาก เพราะมันจะทำให้มีคนเพิ่มมากขึ้นได้รับภูมิคุ้มกันจากเข็มแรกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันระดับสูงในตัวของมันเอง

เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางรัฐบาลอังกฤษมีกำหนดที่จะเริ่มแจกวัคซีนแอสตราเซเนกาให้กับสาธารณะในวันที่ 4 ม.ค 2021โดย แฮนด์ค็อก กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการสิ้นสุดปี 2020 ด้วยช่วงเวลาแห่งความหวังเช่นนี้”

ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ถึงการอนุมัติวัคซีนโควิด-19ตัวที่ 2 อีกว่า “หลังจากผ่านการทดสอบด้านคลินิกวิทยาอย่างเคร่งขัดและการวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญประจำ MHRA ซึ่งสรุปว่า วัคซีนผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดด้านความปลอดภัย คุณภาพ และความมีประสิทธิภาพ”

ด้าน ปาสคาล โซเรียต (Pascal Soriot) ประธานบริษัทแอสตราเซเนกา ได้ออกมาสร้างความมั่นใจต่อประชาคมโลกด้วยว่า “วัคซีนของเขาสามารถให้ภูมิคุ้มกัน 100% ต่อโรคโควิด-19 ร้ายแรงที่ต้องการรักษาพยาบาล” พร้อมทั้งคาดการณ์ถึงการทดสอบจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทของเขาประสบความสำเร็จในการได้ประสิทธิภาพวัคซีนเทียบเท่าของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคที่ 95% และของไบโอนาที่ 94.5%

อย่างไรก็ตามในผลการทดสอบก่อนหน้าที่ทางแอสตราเซเนกาได้เปิดเผยต่อสาธารณะแสดงผลประสิทธิภาพวัคซีนที่แตกต่างกัน โดยผลประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70% แต่ทว่าประสิทธิภาพสามารถเพิ่มไปที่ 90% ขึ้นอยู่กับขนาดโดสที่ใช้ และก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยก็ได้มีมติอนุมัติงบกว่า 6 พันล้านบาท สั่งจองซื้อวัคซีนโควิด-19 จากแอสตราเซเนกา จำนวน 26 ล้านโดส ซึ่งสามารถครอบคลุมการรักษาคนไทยร้อยละ 20 ของประชากรหรือ 13 ล้านคน

สำหรับบริษัทแอสตาเซเนกาได้ทำการทดสอบกับมนุษย์ซึ่งเป็นอาสาสมัครจำนวนมากใน ‘อังกฤษ’ และ ‘บราซิล’ พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 62% สำหรับกลุ่มผู้ที่ได้รับ 2 โดส ขณะที่อาสาสมัครผู้ได้รับครึ่งโดสในครั้งแรกและอีก 1 โดสเต็มอีก 1 เดือนหลังจากนั้นพบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนเพิ่มมาถึง 90%

รอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน แสดงความยินดีเป็นอย่างมากต่อการที่วัคซีนแอสตราเซเนกาได้รับการอนุมัติให้ใช้นั้นถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์อังกฤษ

“มันเป็นข่าวดีอย่างแท้จริง และชัยชนะต่อวิทยาศาสตร์อังกฤษที่@วัคซีนมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด-แอสตราเซเนกาได้รับการอนุมัติให้ใช้” รายงานจากทวิตเตอร์ของจอห์นสัน