รองนายกรัฐมนตรี ‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ ยันเศรษฐกิจไทยไม่เจอผลกระทบมาก จากการระบาดโควิดรอบใหม่ มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 64 โตกว่า 4% หลังจากมีพัฒนาการวัคซีนโควิด

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีการระบาดรอบใหม่ครั้งนี้ จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไม่มากนัก เพราะสถานการณ์ยังอยู่ในวงจำกัดและรัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ได้และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวันเท่านั้น

แม้จะมีการประเมินว่าการล็อคดาวน์จังหวัดสมุทรสาครจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยมีการประเมินว่าจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจประมาณ 4 - 5 หมื่นล้านบาทนั้น ยังถือว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดประมาณ 12.6 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวเท่าเดิมคืออยู่ที่ประมาณลบ 6% ตามการประเมินของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ส่วนในปี 64 มองว่าเศรษฐกิจอาจจะขยายตัวได้เกินกว่า 4% เนื่องจากเมื่อมีวัคซีนโควิด-19 เข้ามาแล้วจะทำให้สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ และในตอนนี้มีหลายประเทศที่ต้องการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย

ส่วนการทำงานยังต้องปรับแผนการขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจอย่างไรหรือไม่นั้น ยืนยันว่า รัฐบาลยังคงเน้นในเรื่องของการลงทุนและการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยในเรื่องของงบประมาณมีวงเงินอยู่กว่า 3.2 ล้านล้านบาทก็จะช่วยในการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการลงทุนจะเน้นเรื่องความร่วมมือให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ (พีพีพี) มากขึ้น

โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆที่จะมีความต่อเนื่องไปถึงปี 65 ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง “แนวโน้มน่าจะดีกว่าคาด เดี๋ยวมีวัคซีนแล้วคนก็เดินทางได้ ต่างชาติที่เข้ามาก็ถือหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนมายืนยัน ครึ่งปีแรกแค่ประคับประคองไว้ ครึ่งปีหลังฟื้นแน่นอน”