ออโรร่า วิสดอม ดึงนักลงทุนต่างชาติ ร่วมลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตถุงมือยางเพื่อส่งออก เผยอีก 3 ปี เตรียมลงทุนเพิ่มกว่า 15,000 ล้านบาท

ศ.ดร.นพ. วิปร วิประกษิต ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ออโรร่า วิสดอม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับนักลงทุนต่างชาติจากจีน และมาเลเซีย ด้วยสัดส่วนนักลงทุนในประเทศไทย 51% และต่างชาติ 49% ในการเปิดตัวโรงงานผลิตถุงมือยางเพื่อการส่งออกด้วยผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง 2 ประเภท 2 แบรนด์ ที่แตกต่างกันตามการใช้งานและประเภทของวัตถุดิบหลัก

ได้แก่ แบรนด์ออโรร่า (AURORA) เป็นผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่ใช้ทั่วไป (Non-medical gloves) และแบรนด์ด็อกเตอร์วีไอพี (DOCTOR VIP) เป็นผลิตภัณฑ์ ถุงมือทางการแพทย์ ซึ่งเป็นถุงมือไนไตร (Nitrile gloves) ด้วยมาตรฐานที่ใช้ในโรงพยาบาลและสถานบริการด้านสุขภาพ

ในระยะเริ่มต้น บริษัทฯจะลงทุนที่ 8 สายการผลิต งบประมาณรวมทั้งค่าที่ดิน และค่าก่อสร้างที่ 3,000 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 111 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่โรงงานผลิตถุงมือยางในไตร และพื้นที่สนับสนุน 70% เป็นพื้นที่โรงไฟฟ้าชีวมวล 20% และเป็นพื้นที่จัดเก็บน้ำขนาด 16 ไร่คิดเป็น 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และจะทยอยขยายสายการผลิตจนครบ 80 สายการผลิต ใช้เงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท

ซึ่งในระยะแรกบริษัทฯ มีกำลังการผลิตในประเทศไทย และกำลังการผลิตจากโรงงานในประเทศจีนที่รองรับความต้องการได้ที่ 3 ล้านกล่องต่อเดือน และจะทยอยเติบโตไปสูงสุดที่ 80 ล้านกล่องต่อเดือน ภายในระยะเวลา 3 ปี

“ปัจจุบัน บริษัทฯมีสาขาอยู่ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน คือ บริษัท ออโรร่าวิสดอม ไชน่า และมีสาขาในทวีปยุโรป ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก คือ บริษัท ออโรร่า วิสดอม เดนมาร์ก และกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาจัดตั้งตัวแทนใน ฮ่องกง กัมพูชา และลาวตาม ลำดับ พร้อมทั้งยังพิจารณาที่จะนำสินค้าไปจำหน่ายผ่าน Marketing Platform อื่นๆ ต่อไปอีกด้วย”

สำหรับ โรงงานของบริษัท ออโรร่า วิสดอม ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโรงงานแห่งแรกที่เปิดสายการผลิตถุงมือ ร่วมกับโรงไฟฟ้าแบบชีวมวลขนาด 8 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ทั้งหมด 111 ไร่ ควบคู่กันไป เพื่อเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มีการใช้ทรัพยากรแบบหมุนเวียน และมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ตามแบบโรงงานสีเขียว

มีการหมุนเวียนทรัพยากรน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตและการนำวัตถุดิบที่เหลือจากเกษตรกรในท้องถิ่นมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งผลผลิตทั้งจากโรงงานถุงมือและโรงไฟฟ้าชีวมวล จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนขยายการผลิตถุงมือทางการแพทย์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ เช่น ถุงมือทางการแพทย์สำหรับแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศัลยแพทย์กระดูก สูติแพทย์ ถุงมือสำหรับการผ่าตัดส่องกล้อง และการจัดตั้งสายการผลิตถุงมือทางการแพทย์แบบปลอดเชื้อ (sterile gloves) เป็นต้น