ส่องธุรกิจสุด ‘ซี้ด’ 64 ‘อิ่ม – ป่วย’ ช่วยดันยอด หลังทั่วโลกยังกอดโควิดแน่น

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) พฤติกรรมบางอย่างเริ่มหายไป อย่างใครชอบช็อปปิ้งสินค้าฟุ่มเฟือย ก็เริ่มเบาๆ ลง และเก็บเงินมาให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นความจำเป็นและความมั่นคงต่อชีวิตมากขึ้น

ปีหน้า (พ.ศ.2564) ใครประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าในกลุ่มอุปโภคและบริโภค จึงถูกมองว่ามีโอกาสเติบโตต่อได้ไม่ยากจากผลการศึกษาของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประเมินถึงกลุ่มธุรกิจสุดซี้ดในปี 2564 ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่มเกี่ยวเนื่องที่จะเติบโตต่อได้ดีในยุคที่หลายประเทศยังกอดโควิดไว้แน่น

โดยคาดว่า อุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ (ยา) และ อุตสาหกรรมอาหาร ของไทยจะเป็นเรือธงไว้ฝ่าคลื่นโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่อง หลังตลอดทั้งปีพ.ศ.2563 นั้น มีการขยายตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 เมื่อเทียบจากปีก่อน

ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมถุงมือยางปีพ.ศ.2563 ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.2 เมื่อเทียบจากปีก่อน จากความต้องการใช้งานทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา / สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น 

ส่วนอุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) คาดว่าทั้งปีพ.ศ.2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการสำรองสินค้าทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่จะได้รับผลบวกจากทั้ง 2 กลุ่มที่เติบโตได้ดี เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดที่ใช้ในครัวเรือน ที่คาดว่าในปีพ.ศ.2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบจากปีก่อน เช่น...

ความต้องการใช้สินค้าประเภทตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟและกระติกน้ำร้อน เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความต้องการสำรองอาหารสดไว้ที่บ้านเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการมีการลดราคาสินค้า ส่วนเครื่องซักผ้ามีการส่งออกไปตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้อุตสาหกรรมหลัก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อ อุตสาหกรรมปิโตรเลียมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าก็เริ่มฟื้นตัวตามปัจจัยการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชนหรือครัวเรือน บวกกับแรงส่งของการจ้างงานที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะใกล้เคียงปกติแล้ว ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เริ่มกลับมาดีขึ้น รวมถึงมาตรการภาครัฐที่มีโครงการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 

.

ที่มา: สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)

ที่มาภาพ: www.dmc.tv