Monday, 6 May 2024
WEEKEND NEWS

รวมน้ำใจคนไทย!! 'คนละไม้_คนละมือ'​ ช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส และบุคลากรการแพทย์ 'สู้ภัยโควิด19'

รวมน้ำใจคนไทย!! 'คนละไม้_คนละมือ'​ ช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส และบุคลากรการแพทย์ 'สู้ภัยโควิด19'

นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์​ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย 'คุณเมตตา มะตัน'​ (พี่ยะห์)  จิตอาสา นำน้ำสมุนไพรจำนวน 150 ขวด 'คุณยุภาพร เตสระน้อย'​ นำข้าวกล่อง จำนวน 100 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลแหลมฉบัง และ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ถึงแม้จะเจอสถานการเลวร้ายแต่เราคนไทยไม่ทิ้งกัน 

ต่อจากนั้นลงพื้นที่ หมู่ 8 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นำรถเข็น Wheelchair ขนาดใหญ่พร้อมด้วยข้าวสารอาหารแห้ง ไปมอบให้คนพิการยากไร้ โดยได้ให้การแนะนำเรื่อง สิทธิสวัสดิการของคนพิการในด้านต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอด ในการดำรงชีวิตได้อย่างเข้มแข็งสืบไป

#เราไม่ทิ้งกัน
#คนละไม้_คนละมือ

'เฉลิมชัย'​ เร่งปั้น 'โลว์คอสต์แอร์คาร์โก้สินค้าเกษตร'​ ผนึก 'ภาครัฐ-เอกชน'​ ช่วยเกษตรกรขยายตลาดส่งออกทั่วโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางอากาศ​ (Air cargo system) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่ประธานการประชุมและได้สั่งการให้เร่งดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ​ (Air Cargo System) สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร​ ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างและระบบ​ 3​ ส่วนสำคัญได้แก่ คาร์โก้เทอร์มินัล (Cargo Terminal), สายการบินคาร์โก้​ (Air Cargo Fleet) และศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหารแบบครบวงจรในคาร์โก้เทอร์มินัล

โดยร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ดำเนินการที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองและท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีความพร้อมเช่นเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ภูเก็ต เป็นต้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นการบริหารโอกาสของประเทศไทยภายใต้วิกฤติโควิด19

ทั้งนี้สถาบันอาหารประเมินว่าในปี 2564 การส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1.08-1.10 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2-12.2% เทียบกับปีที่ผ่านแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด 19 สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทย

สำหรับศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหาร ณ คาร์โกเทอร์มินัลซึ่งทำหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรและอาหารทั้งสินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ตามมาตรฐานสากลจะต้องบริการด่วน​ (Express Service) แบบวันสต็อปเซอร์วิสใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งนำเข้าและส่งออกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นฮับการผลิตและขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียน

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ดร.เฉลิมชัยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าได้หารือเบื้องต้นกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงการแอร์คาร์โก้สินค้าเกษตร และมอบที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรเร่งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนต่อไปโดยเร็ว 

“นอกจากนี้ผู้ประกอบการบินได้นำเสนอสถานการณ์ของธุรกิจการบินและแนวทางการพัฒนาสายการบินขนส่งสินค้าทางอากาศในลักษณะโลคอสต์แอร์คาร์โก้โดยมุ่งเป้าหมายตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันออกกลาง ยุโรปและอเมริกาด้วยอัตราค่าบริการถูกกว่าอัตราค่าขนส่งในปัจจุบันและเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีเกษตรฯ​ โดยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เนื่องจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต้องการความสะดวกรวดเร็วส่งถึงลูกค้าปลายทางทั่วโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากลซึ่งการขนส่งทางอากาศคือคำตอบ”

'ผบช.สตม.' นำทัพลงพื้นที่ตรวจเข้มชายแดน 3 จังหวัดชายแดนใต้ วางแผนสกัดคนหลบหนีเข้าเมือง ห่วงโควิดระบาด

4 กรกฎาคม 2564 ที่ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.), พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.​ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนใน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีช่องทางส่วนใหญ่เป็นช่องทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวและชาวไทยใช้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากชายแดนประเทศมาเลเซีย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เน้นย้ำกำชับให้กวดขันเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง โดยก่อนหน้านี้บริเวณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นช่องทางที่คนไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซียลักลอบหนีกลับเข้าประเทศ โดยไม่ผ่านช่องทางปกติ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะเพื่อนบ้านเรามีสถิติติดเชื้อค่อนข้างสูง

จากการประชุมและตรวจสอบ​ ร่วมกับ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ทราบว่าสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองลดน้อยลงเพราะตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะด้านพรหมแดนเปิดให้คนไทยข้ามแดนได้สามวันต่อสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และด่านผ่านแดนจุดต่างๆที่เชื่อมกับประเทศมาเลเซีย โดยมีการกำชับให้แต่ละพื้นที่เฝ้าระวังการหลบหนีเข้าแดนโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยกำชับให้ตำรวจ ตม. ปฏิบัติตามนโยบายปฏิบัติราชการ รวม 5 มาตรการ คือ...

1.ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายและสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายกลุ่มเสี่ยง บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่โรค ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่

2.การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายให้เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามจับกุมคนต่างด้าว ขยายผลอย่างต่อเนื่อง

3.กำชับให้เพิ่มความเข้มในการใช้กฎหมาย กรณีคนต่างด้าวสัญชาติจีน ให้ตรวจสอบก่อนและหลังอนุญาตว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่

4.การกักตัวคนต่างด้าวให้ดำเนินการตามมาตรการเมื่อรับตัวผู้ต้องกักต้องมีการคัดกรอง

และ 5.สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธ์ใหม่ ให้มีมาตรการมนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองบช.สตม./โฆษก สตม., พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่​www.immigration.go.th

'ผู้ช่วยฯ รอย' ต่อยอดนโยบาย ผบ.ตร. จัดโครงการ นัดหมาย พงส.แจ้งความผ่าน ออนใลน์ ล่วงหน้า 11 สถานีนำร่อง เริ่มใช้แล้ววันนี้

'ผู้ช่วยฯ​ รอย'​ ต่อยอด นโยบาย ผบ.ตร. จัดโครงการ นัดหมาย พงส.แจ้งความผ่าน ออนใลน์ ล่วงหน้า  11 สถานีนำร่อง เริ่มใช้แล้ววันนี้ 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.,และ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรค โควิด 19  เพื่อต้องช่วยหยุดการแพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรง และลดความแออัดบนโรงพักในการใช้บริการที่สถานีตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.2 รวมถึง จากแนวนโยบายและเจตนารมณ์ ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข 
ผบ.ตร.ที่ต้องการบริการให้ประชาชนให้ได้รับความสะดวก ในการแจ้งความ จึงได้จัดทำโครงการ นัดหมาย พนักงานสอบสวนล่วงหน้า ทาง Online ในบางคดีความผิด ขึ้น เช่น คดียักยอกทรัพย์ ,คดีฉ้อโกง,คดีหมิ่นประมาท, คดี พ.ร.บ.เช็คฯ ซึ่งไม่ได้เป็นคดีเร่งด่วน #เมื่อนัดหมายวันเวลาแล้วค่อยมาพบ พนักงานสอบสวน เพื่อความสะดวกของประชาชน

ด้าน พล.ต.ต.สุรจิต ชินวรรน์ รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ชื่อโครงการนัดหมาย พนักงานสอบสวนล่วงหน้า ผ่านระบบออนไลน์”เพื่อความสะดวกรวดเร็วกับพี่น้องประชาชน  นั้น เป็นวิสัยทัศน์แล้วก็นโยบายของ รรท.ผบช.ภ.2 โดยตำรวจภูธรภาค 2 ได้ใช้สถานีตำรวจ สภ.เมือง ทุก ภ.จว.และ เทศบาลเมืองพัทยา รวมเป็น 11 สภ.

ประกอบด้วย สภ.เมืองชลบุรี​สภ.พัทยา,​สภ.บางละมุง,​ สภ.แสนสุข สภ.เมืองปราจีนบุรี,​ สภ.เมืองระยอง,​ สภ.เมืองนครนายก,​ สภ.เมืองจันทบุรี,​ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา,​ สภ.เมืองตราด,​ สภ.เมืองสระแก้ว ในเวลา 10.00 น.ถึง 19.00.น. ในวันเวลาราชการใน 4 ข้อหาหลัก ก็คือคดียักยอก คดีฉ้อโกง คดีหมิ่นประมาทและคดี พ.ร.บ.เช็คฯ ต้องขอขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเร่งรัดโครงการต่างๆเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมสามารถบริการพี่น้องประชาชนให้พึงพอใจสูงสุด 

สำหรับขั้นตอนนั้น ให้โหลดแอปพลิเคชัน หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด ตามที่แจ้งให้ทราบ แล้วลงทะเบียน โดยกรอกข้อความรายละเอียด แล้วนัดหมาย กับพนักงานสอบสวน และมีการผ่านการตอบนัดหมาย จะมีการยืนยันระหัส โอทีพี​ (OTP) ถือว่าแล้วเสร็จการนัดหมาย สะดวก ปลอดภัย ลดความหนาแน่น โดยโครงการดังกล่าวนี้สามารถ ใช้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้ง 11 สถานี ซึ่งฝากว่าหากพบปัญหาหรือมีข้อเสนอแนะ ตำรวจภูธรภาค 2 น้อมรับและยินดีนำไปปรับปรุงระบบให้รองรับการบริการประชาชนให้ดีขึ้นต่อไป พร้อมทั้ง บช.ภ.2 ยังได้จัดทำคลิป แนะนำให้พี่น้องประชาชาชน เพื่อรณรงค์การใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวนี้ด้วย

'ธรรมนัส'​ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ รุดมอบเตียงสนามพร้อมอุปกรณ์โรงพยาบาลสนาม​ที่ฉะเชิงเทรา

ณ​ ศาลาประชาคมเฉลิมพระเกียรติ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมามอบเตียงสนาม พร้องชุดเครื่องนอน จำนวน 500 ชุด ให้กับจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับมอบเตียงสนามในครั้งนี้ ได้แก่ ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา, นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.ฉะเชิงเทราเขต 2, พันเอกเฉลิม เนียมช่วย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการรับมอบ

ทั้งนี้นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา ได้เร่งจัดหาสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน หลังเตียงที่มีอยู่แล้ว 2 แห่งคือ รพ.สนาม มรภ.ราชนครินทร์ อ.บางคล้า 120 เตียง และ รพ.สนามศูนย์พุทธโสธรประชารักษ์ กองพลทหารพัฒนา​ อ.พนมสารคาม 160 เตียง รวม 280 เตียง เริ่มไม่พอผู้กับป่วยที่เพิ่มขึ้น 

ดังนั้นจึงได้จับมือเอกชน เร่งสร้าง รพ.สนาม รองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีโรงงานเอกชน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ อนุญาตให้ใช้พื้นที่ประมาณ 12,000 ต.ร.ม. อยู่ห่างจากชุมชน สามารถตั้งเตียงสนาม รองรับผู้ป่วยได้ 500 - 1,000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เตรียมการด้านไฟฟ้า น้ำประปา ห้องน้ำ และระบบการสื่อสาร​ โดยเตียงสนามที่ได้รับมอบในวันนี้จะทำการแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลสนามต่างๆ​ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป

จับแก๊งต้มตุ๋น!! หลอกจองฉีดวัคซีน หลังแอบอ้างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ หลอกจองฉีด 'ซิโนฟาร์ม'​

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ​​​แจ้งยอดสุข​ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ ​​กิตติประภัสร์​รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ยรรยง ​​เวชโอสถ ​ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ​ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ​​ประชุม ​ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการในการดำเนินการ : บก.สส.ภ.4, กก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี​ ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังนี้... 

นายรนกร พุทธรักษา อายุ 31 ปี ที่อยู่ 86/8 ม.10 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ. 131/64 ลงวันที่ 2 ก.ค.64 ) ​ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน​ ​“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่หน้าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

พฤติการณ์​ ​จากกรณีเมื่อ วันที่ 30 มิ.ย 2564 ได้มีผู้เสียหาย ชื่อ นส.เพิ่มพูน แซ่ก๊วย ที่อยู่ 316/52 ต.หมาแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้มาแจ้งความกับ พงส. สภ.เมืองอุดรธานี ว่า...

วันที่ 22 มิ.ย.64 ได้ถูกคนร้ายหลอกลวงอ้างว่าเป็นนายแพทย์ รพ.ศิริราช ชื่อ นายแพทย์ สิทธิโชค ทวีประดิษฐ์ผล มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อ 'ซิโนฟาร์ม'​ เหลือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้สั่งชื้อจาก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หากต้องการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้ชำระเงินค่าวัคซีนรายละ 1,800 บาท (จำนวน 2 โดส) จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้เข้าไปในไลน์กลุ่ม 'Vaccine Sinopharm'​ 

เมื่อผู้เสียหายได้เข้าไปอยู่ในไลน์กลุ่มดังกล่าวแล้ว คนร้ายยิ่งให้ความเชื่อมั่นว่าเป็นกลุ่มที่แท้จริง โดยให้ผู้แจ้งเข้ากลุ่มอีกหนึ่งกลุ่ม ชื่อว่า 'ระบบ ไอที วัคซีนทางเลือก'​ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายหลงชื่อว่ามีอยู่จริง จึงได้ติดต่อและรวบรวมเงินจากบุคคลที่ผู้เสียหายรู้จัก ที่อยากมาร่วมฉีดวัคซีนได้จำนวน 20 คน รวมเป็นเงิน 36,000 บาท และได้โอนเงินเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 64 เข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่ 0331431532 ซึ่งปรากฏชื่อบัญชี นายวีระศักดิ์ สุขสำแดง

ต่อมาผู้เสียหายไปตรวจสอบรายชื่อในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดอุดรธานีกลับไม่มีรายชื่อที่แจ้งไว้ จึงเชื่อว่าได้ถูกหลอกลวงแล้วและได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่สภ.เมืองอุดรธานี และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ทราบชื่อว่านายรนกร พุทธรักษา และนายวีระศักดิ์ สุขสำแดง ตามหมายจับที่ 131/64 และ 130/64 เมื่อวันที่  2 ก.ค.64 ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันหลอกผู้เสียหายรวมทั้งสิ้นไปแล้วกว่า 200 ราย และมีมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 360,000 บาท 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ให้รอฟังติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะไม่ให้โดนหลอกคล้ายกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ และจากการตรวจสอบความเสียหายได้พบว่า ยังมีความเสียหายอีกในหลายพื้นที่อาทิเช่น สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น, สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ,​ สน.เตาปูน,​สภ.สมเด็จเจ้าพระยา และ ยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนหลายร้อยรายที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายท่านใดที่หลงเชื่อไปแล้ว ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจที่มีการโอนเงิน เนื่องจากเป็นการกระทำผิดหลายท้องที่

'รอง ผบ.ตร.'​ และ 'ผบช.สตม.'​ ร่วมต้อนรับคณะนายกฯ ร่วมพิธีเปิด Phuket Sandbox - ตม.ทอ.ภูเก็ต ตรวจผู้โดยสารวันแรก...ราบรื่น!!

สืบเนื่องจากวันที่ 1 ก.ค.64 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการฯ และให้การต้อนรับผู้โดยสารในโครงการ Phuket Sandbox โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ (มค), พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ร่วมพิธีและให้การต้อนรับคณะฯ

เหตุที่รัฐบาลเลือกนำร่องโครงการ Sandbox ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เล็ก สามารถจัดระบบควบคุมดูแลได้ง่าย นอกจากนั้น เศรษฐกิจร้อยละ 90 ของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมต่อไปยังภาคส่วนอื่น ๆ เช่น การผลิต ภาคการเกษตรโดยรวมของประเทศ หากสำเร็จก็สามารถขยายทำ Sandbox ต่อไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศได้

โดยการตรวจเที่ยวบิน ณ ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต ในโครงการ Phuket Sandbox เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 เป็นไปด้วยความราบรื่น มีเที่ยวบินขาเข้าทั้งหมด 5 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 339 คน

  -​ ALQ 24 คน
  - Sandbox 315 คน

ทางด้าน พล.ต.ต.อาชยน​ ไกรทอง รอง ผบช.สตม.ในฐานะโฆษก สตม. เเละ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะ รองโฆษก สตม.ร่วมกันเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่มี ตม.จว.อยู่ทุกจังหวัด คอยช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งในด้านการบริการและความมั่นคงของประเทศไทยแบบผสมผสานควบคู่กันไปให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และก่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยสูงสุด 

โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมทำงานให้กับประเทศไทยและประชาชนอย่างเต็มที่​ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุด ผบ.ตร. ทั้งนี้หากประชาชนสนใจต้องการรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ตม. สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.immigration.go.th. ได้ทันที

'เตือนภัย'​ ระวังโดนแอปพลิเคชันเงินกู้เรียกดอกเบี้ยสุดโหด แถมขู่ฆ่าหรือหลอกให้ถ่ายคลิปเปลือยแลกหนี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาด้านการเงิน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 อาจคิดใช้บริการแอปพลิเคชันเงินกู้ ที่พยายามเข้าถึงประชาชนในหลายช่องทาง ทั้งการส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมลิงก์ เพื่อชักชวนผ่านเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ในหลายแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าไม่ต้องมีคนค้ำประกัน กู้ง่าย ได้ไว ไม่เช็คเครดิตบูโร ไม่ต้องมีเอกสาร รับเงินสดทันที

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากจะเตือนพี่น้องประชาชนถึงภัยที่มากับแอปพลิเคชันเงินกู้เหล่านี้ โดยที่ปรากฎชัดเจนจะมีอยู่ 3 ลักษณะ ได้แก่... 

1. การขูดรีดดอกเบี้ยที่มากเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยจะหักเงินจากวงเงินที่ขอกู้ทันที เช่น หากตกลงกู้ 6,000 บาท จะโอนมาให้ผู้ขอกู้เพียง 3,600 บาท โดยอ้างว่าเงินที่หัก 2,400 บาท คือดอกเบี้ยต้องหักเงินทันที เมื่อผู้กู้เห็นว่าถูกเรียกดอกเบี้ยมากเกินไป จะขอยกเลิกการกู้เงิน ทางแอปพลิเคชันกู้เงินจะไม่ยอม อีกทั้งยังบอกให้ผู้กู้ใข้เงินต้นคืนให้ได้ภายใน 5 วัน 

2. หากผู้กู้ผิดสัญญาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเงินกู้ทันตามเวลาที่กำหนด จะมีการโทรข่มขู่ ผู้กู้ หรือ โทรไปทวงถามกับเพื่อนของผู้กู้ในลักษณะประจาน หรืออ้างว่าเพื่อนของผู้กู้ไปค้ำประกันเงินกู้ให้ผู้กู้ ทั้งๆ ที่เพื่อนผู้กู้ไม่ทราบเรื่องราวแต่อย่างใด แต่เหตุที่แอปพลิเคชันสามารถทราบหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนผู้กู้ได้เป็นเพราะ เมื่อผู้กู้สมัครกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน

โดยแอปพลิเคชันเงินกู้จะสามารถเข้าถึงรายการบัญชีผู้ติดต่อ (Contact) ในโทรศัพท์ของผู้กู้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่แอปพลิเคชันเงินกู้จะสุ่มโทรศัพท์หรือส่งข้อความสั้นทวงเงินในลักษณะประจานไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนผู้กู้

3. มีการโทรศัพท์ขู่ฆ่าผู้กู้ หรือ มีบางรายหลอกให้ผู้กู้ที่เป็นผู้หญิงเปลื้องผ้าผ่านกล้องโทรศัพท์เพื่อแลกกับการยกหนี้ให้ ซึ่งนอกจากเสี่ยงถูกเอาไปส่งต่อในโลกออนไลน์แล้วอาจจะถูกนำไปแบล็คเมล์ภายหลังได้ 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ว่าควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อการถูกเอารัดเอาเปรียบขูดรีดดอกเบี้ย หรือถูกทวงหนี้ในลักษณะประจาน ตลอดจนการหลอกลวงให้ถ่ายคลิปอนาจารเพื่อต่อรองกับการยกหนี้ด้วย ซึ่งการปราบปรามแอปพลิเคชันเงินกู้ผิดกฎหมายดังกล่าว​ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้นิ่งนอนใจ สั่งเข้มงวด รวมทั้งออกมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้วในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม การป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ให้กับประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ (ศปน.ตร.) ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่หลงไปเป็นเหยื่อ และเพื่อช่วยทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้มีอิทธิพล ผู้ปล่อยเงินกู้ที่มีลักษณะเรียกอัตราดอกเบี้ยเกิดกฎหมายกำหนด รวมถึงการทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นการผิดกฎหมาย 

หากมีข้อมูลเบาะแสสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 3 อาคาร 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 หรือแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ครบรอบ​ 100​ ปี​ พรรคคอมมิวนิสต์จีน และ​ 46 ปี​ สัมพันธ์​ 'ไทย-จีน'​

เนื่องจากในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะตรงกับวันครบรอบ '100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและ 46 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน'​ ทางศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน, ศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน, สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน, สมาคมส่งเสริมวิสาหกิจเอเชียน-จีน, สมาคมมิตรภาพไทย-จีน, คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ และ The Leader Asia ร่วมจัดสัมมนาหัวข้อ '100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ 46 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน'​

วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในงานสัมมนา ประกอบด้วย​ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายกร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ประธานศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสายไทย-จีน  สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล นายกสมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน และนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ '75 ปีพรรคการเมืองไทยท่ามกลางพลวัตเศรษฐกิจการเมืองโลก'​ โดยมีเนื้อหาสรุปคือ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนถือว่ายาวนานมาก หากทบทวนประวัติศาสตร์ โลกใบนี้นับตั้งแต่ผ่านสงครามโลก ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ และโรคระบาด ท่ามกลางปัญหาต่างๆ​ จนผ่านมาถึงวันนี้ โลกมีการพัฒนาการไปมาก และ 100 ปี ของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน อาจกล่าวว่าเป็นความสำเร็จ เป็นแบบอย่างที่มั่นคง ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองประเทศไหนเดินตามรอยได้

ที่สำคัญ 100 ปีแห่งความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีนผ่านเรื่องราวที่โลกจะต้องจดจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้ง ความยากจน และไม่นานจีนจะยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันบทบาทของจีนต่อโลกใบนี้กำลังถูกจับตามองจากเวทีโลกว่ามีศักยภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว นั่นคือความสำเร็จที่น่าชื่นชมในวันนี้และอนาคต

นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความคิดเห็นถึง ประเด็นหัวข้อ 75 ปีพรรคการเมืองไทยว่า พรรคการเมืองไทยมีจำนวนมาก มีเกิดใหม่ มีล้มเลิกไป เพราะสังคมไทยมีการวิจารณ์ที่รุนแรง แต่บทบาทการเมืองไทยก็มีไม่น้อยเลยในการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญการมีระบบตัวแทนประชาชนยิ่ง หลังการปกครอง พ.ศ. 2475 นักการเมืองมีบทบาทสำคัญยิ่ง ยุคนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการถ่วงดุลในฐานะเป็นฝ่ายค้าน

ต่อมาในยุคของ ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พรรคการเมืองก็มีเสถียรภาพในการพัฒนาประเทศมาก โดยนำเอาปัญหาของประชาชนในการคลี่คลายปัญหา มีนโยบายหลายเรื่องที่แก้ปัญหาและพัฒนาสู่เป้าหมายที่ตั้งที่ไว้หลายเรื่องจนสำเร็จในช่วงสั้นๆ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมองอนาคตของพรรคการเมืองในอีก 100 ปีจะเป็นช่วงท้าทายมากไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ จะเผชิญความท้าทายอีกมากมาย ดังนั้นโครงสร้างของพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นระบบไหนก็แล้วแต่จึงต้องมองทุกมิติ เพราะปัจจุบันมีการแก้ไขปัญหาแบบไร้พรมแดน ที่มุ่งการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าด้วยกันทั้งนั้นไม่แตกต่าง

หลังจากนั้น นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ '100 ปีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและแผนการพัฒนาจีนตามแนวคิดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง'​ โดยมีเนื้อหาพอสรุปประเด็นสำคัญ กล่าวคือ พรรคคอมมิวนิสต์เริ่มต้นก่อตั้งพรรค มีสมาชิกเพียง 50 คน วันนี้มีสมาชิกมากถึง 90 ล้านคน และมีภาคีเครือข่าย 464,000 องค์กร ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตจนก้าวขึ้นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา  

ปัจจุบัน ประเทศจีนมีการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการสำรองเงินตรามากสุดในโลก มีเทคโนโลยี ไฮเทค มากที่สุดในโลก มีรถไฟความเร็วสูงรวมระยะทางยาวที่สุดในโลก มีสถานีอวกาศที่ขึ้นไปแล้ว และความสำเร็จที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรื่องมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2012-2020 โดยเป้าหมายสำคัญคือการแก้ไขปัญหาความยากจน ส่งผลให้คนจีน 98 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน อีก 950 ล้านคนกำลังจะพ้นจากความยากจน และอำเภอยากจน 832 แห่งหลุดพ้นจากความยากจนทั้งหมด พร้อมกับขจัดความยากจนเชิงสมบูรณ์และความยากจนแบบเชื่อมติดเป็นผืนรวมในระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสร้างสังคม กินดี อยู่ดี ถ้วนหน้าพร้อมๆไปกับสร้างสังคมนิยมสมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 2 (ปี ค.ศ.​2020-2035) ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะสร้างประเทศให้ทันสมัยให้เข้มแข็ง ที่สำคัญพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นพรรคเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของโลก สร้างนโยบายการต่างประเทศที่เป็นสันติภาพ

อุปทูตจีนกล่าวว่าอีก 100 ปีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน กับแนวคิดการพัฒนาใหม่ ประกอบด้วย 1.นวัตกรรม สมดุล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดกว้างและการแบ่งปัน 2.เน้นการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง 3.สร้างประเทศให้มีความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ส่วนรูปแบบการพัฒนาใหม่คือ อาศัยการหมุนเวียนภายในประเทศเป็นแกนหลักและการหมุนเวียนภายในและภายนอกประเทศเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันยังมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของโลก โดยเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก ผู้สนับสนุนการพัฒนาของโลก และผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศ

นายหยาง ซิน กล่าวว่าความสัมพันธ์ของประเทศไทยและประเทศจีน วันนี้ครบรอบ 46 ปีอย่างเป็นทางการแล้ว รู้สึกยินดียิ่ง ที่ผ่านมาไม่ว่าการเชื่อมสัมพันธ์ทางจิตใจ การค้า การลงทุน ในบริบทด้านเศรษฐกิจ ทั้งไทยและจีนแนบแน่นด้วยดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ ปี 2563 มูลค่าการค้าจีน-ไทย 98,630 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% คำขอรับการส่งเสริมลงทุนจากจีนมีจำนวน 164 โครงการเงินลงทุน 31,500 ล้านบาท จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทย และไทยเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 3 ของจีนในอาเซียน ที่สำคัญจีนยินดีที่จะร่วมพัฒนาด้านการลงทุนกับประเทศไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการร่วมลงทุนกับไทยในโครงการ EEC

ต่อจากนั้นเป็นช่วงของการสัมมนาหัวข้อ '46ปีความร่วมมือไทย-จีนกับแนวคิดประชาคมแห่งผลประโยชน์ร่วม'​ วิทยากรประกอบ ด้วย นายกร ทัพพะรังสี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล ดำเนินรายการโดยนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ โดยสรุปประเด็นคือไทยและจีนเปรียบเหมือนเป็นพี่น้องกัน ความสัมพันธ์แนบแน่นตลอดเวลา และหากประเทศไทยจะพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นต้องไม่ลืมเศรษฐกิจสีเขียวที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนโลกและนักลงทุนจากประเทศจีน

อย่างไรก็ตามในบางเรื่องที่จีนประสบความสำเร็จที่ภาพเห็นชัด นั่นคือ 'การระเบิดจากภายใน'​ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจและอื่นๆ ทุกกระดานเศรษฐกิจจีนทำสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งหากเศรษฐกิจไทยจะพัฒนาและผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศไทยดีขึ้น ต้องใช้วงเงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท ถึงจะดึงให้ GDP ขยับขึ้นมาได้ นอกจากจีนแล้ว ไม่มีประเทศไหนทำได้ในเวลานี้ ควรมองจีนให้เป็นโอกาส

นายกร​ กล่าวถึง​ ความร่วมมือในอนาคตระหว่างไทยจีน หลังสถานการณ์โควิด -19 และความสำคัญของการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย-จีนว่า  หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ควรจะเน้นไปในสามด้าน คือ 1.เรื่องของการท่องเที่ยวที่ไทยมีความพร้อมอยู่แล้วและมีศักยภาพในด้านต่างๆ 2.การนำเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น จีนอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนก็พร้อมที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และ 3.ทิศทางของการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะเน้นไปที่เรื่องของการส่งเสริมสุขภาพและสาธารณสุข

พิธีมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ ประจำปี พ.ศ.2564'​ สุดยิ่งใหญ่ ยุค 'New Normal'​

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 ณ หอประชุมคุรุสภา กทม. 'พลตรีหม่อมราชวงศ์วัยวัฒน์ จักรพันธุ์'​ (โอรสใน พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าดรุณวัยวัฒน์ ปนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมีกรมจักรพรรดิพงษ์) ประธานในพิธีมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ'​ ถวายแด่พระมหาเถระและผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนา ในสาขาต่างๆ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา, ข้าราชการดีเด่น จิตอาสาดีเด่น, เยาวชนหัวใจรักพุทธศาสนา, ผู้บริหารองค์กรดีเด่น, ผู้อนุรักษ์ส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา ถวายแด่พระมหาเถระพระธรรมสุธี พระเทพวชิรโมลี พระกิตติวงศ์วิเทศ, พระมหาสมปอง ตาลปุตโต 'นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย'​ เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ 'นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการ'​ หัวหน้าสำนักงานและผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ประธานชมรมคนไทยรักชาติรักแผ่นดินเกิดในพระอุปถัมภ์ หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ประธานจัดงานมอบรางวัลนาคธรรมจักรปี 64

ในการนี้ 'นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร'​ ผู้อำนวยการข่าว (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) จังหวัดสมุทรปราการได้รับเกียรติ เข้าร่วมพิธีรับมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ ประจำปี พ.ศ.2564'​ สาขา ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม นี้ด้วย 

ทั้งนี้จากการปฏิบัติงานด้านสร้างคุณงามความดี คุณประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม บ้านเมือง และประเทศชาติ พร้อมทั้งยังทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อย่างเป็นนิจมาโดยตลอด จัดโดย 'องค์กรสภาส่งเสริมคุณธรรมความดีแห่งประเทศไทยสภาองค์กรเยาวชนสร้างชาติชมรมคนไทยรักชาติแผ่นดินบ้านเกิด'​


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top