Monday, 20 May 2024
NEWS FEED

‘รัดเกล้า’ เผย!! ครม.ไฟเขียวขยายเวลา 2 โครงการใหญ่ชลประทาน เหตุเพราะปัญหาและอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด19

(11 พ.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ สาเหตุเนื่องจากปัญหาและอุปสรรคจากสถานการณ์ Covid - 19 ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางให้อยู่ในวงจำกัด ส่งผลให้ผู้รับจ้างประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุก่อสร้างเครื่องจักร เครื่องมือไม่เพียงพอ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสถานที่ก่อสร้างได้ นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงฯ ยังมีสาเหตุมาจากสภาพภูมิประเทศ และการใช้ประโยชน์ที่ดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงมีความจำเป็นที่ต้องแก้ไขแบบก่อสร้างเพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน และลดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับในขั้นตอนการจัดหาที่ดินมีเจ้าของทรัพย์สินบางส่วนไม่ยอมรับราคาค่าทดแทนทรัพย์สินที่ภาครัฐกำหนดและไม่ยินยอมให้เข้าใช้พื้นที่ รวมถึงที่ดินบางแปลงติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งจากปัญหาอุปสรรคดังกล่าว กษ. โดยกรมชลประทานจึงได้อนุมัติให้มีการขยายอายุสัญญาและอนุมัติงดค่าปรับจากการแก้ไขแบบแก้ไขสัญญา และให้ได้รับสิทธิ์กำหนดอัตราค่าปรับร้อยละ 0 ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงแพร่ระบาดโรค Covid - 19 ของทั้ง 2 โครงการด้วยแล้ว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงและสภาพปัญหาดังกล่าว กษ. (กรมชลประทาน) จึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ภายใต้กรอบวงเงินโครงการเดิมจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จังหวัดชลบุรี เสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาจากเดิม 14 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553–2566) เป็น 17 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553–2569) และโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง จากเดิม 19 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548–2566) เป็น 22 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548–2569) 

“โครงการชลประทานขนาดใหญ่เป็นไปเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำ ทั้งสำหรับพื้นที่เพาะปลูก การอุปโภค บริโภค การอุตสาหกรรม ปศุสัตว์ รักษาสมดุลของระบบนิเวศ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้ในอนาคตอีกด้วย” รองโฆษกฯ กล่าว

ใครกินข้าวสารเก็บ10 ปี เสี่ยงติดโรคเชื้อรา-ที่ปอดแบบรุกราน

ผลงานการวิจัยของนักวิชาการ 4 ท่าน ที่เผยแพร่โดยกรมวิชาการเกษตร เมื่อปี 2528 เรื่อง การใช้สารรมฟอสฟีนเพื่อเก็บรักษาข้าวสารในระยะยาว ที่ทำการศึกษาโดย คุณชูวิทย์ ศุขปราการ (ปัจจุบันได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นบุคคลดีเด่นด้านอารักขาพืชสาขากีฏและสัตววิทยา ประจำปี2562) คุณกัญจนา พุทธสมัย คุณเครือวัลย์ อัตตะวิริยะสุข และคุณละม้ายมาศ ขาวไชยมหา 

ได้ข้อสรุปว่า การใช้สารรมฟอสฟีน30วันและ60วัน ปรากฎว่าไม่มีการทำลายของแมลง ไม่พบแมลงที่มีชีวิต และไม่พบสารแอลฟลาท็อกซิล 

แต่ พบว่ามีเชื้อราบางชนิดที่มีมากกว่าก่อนเก็บข้าวสาร คือเชื้อราชื่อ Aspergillus sp. จากการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม มีบทความของชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ที่เขียนโดย นพ.มั่นจิตต์ ณ สงขลา บุตรชายนายแพทย์มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า การติดเชื้อรา Aspergillus แบบรุกรานมักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำโดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำนานมากกว่า 2 สัปดาห์ เป็นผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูกที่มีภาวะ GVHD หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันหลายขนาน 

การติดเชื้อแบบรุกรานนี้สามารถพบได้หลายอวัยวะจึงมีอาการทางคลินิกได้หลากหลาย แต่ส่วนมากมักพบเป็นการติดเชื้อที่ปอดสูงถึงประมาณร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบบรุกรานทั้งหมด เรียกว่าโรคติดเชื้อรา Aspergillus ที่ปอดแบบรุกราน (Invasive pulmonary aspergillosis: IPA)  

ดังนั้น ข้าวสารเก็บไว้10ปี จะมีเชื้อรา Aspergillus มากเพียงใด และจะเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อรา-ปอดแบบรุกราน หรือไม่ ผู้ที่กินข้าวสารเก็บ10 ปี ท่านกำลังอยู่ในความเสี่ยง นะครับเจ้านาย

‘กระทรวงศึกษาฯ’ จัดโครงการ ‘อาชีวะล้างแอร์’ ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ประหยัดค่าไฟ ลดภาระค่าใช้จ่ายของ ปชช.

(11 พ.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินโครงการอาชีวะล้างแอร์ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินกิจกรรมล้างแอร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฤดูร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และประหยัดพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

นายคารม กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มีนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ออกให้บริการในพื้นที่สาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ต่าง ๆ ที่ประชาชนขอรับบริการ พร้อมให้ข้อมูลความรู้พื้นฐาน แนะนำการดูแล บำรุงรักษา 

“ขอเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใช้บริการล้างแอร์ ในกิจกรรมอาชีวะคลายร้อนทั่วไทย ร่วมใจล้างแอร์ฟรี สามารถลงทะเบียนล้างแอร์ฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา www.vec.go.th หรือทางFacebook ประชาสัมพันธ์สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา” นายคารม กล่าว

รวบ! 'สมาชิกเครือข่ายวิตตอง' แหกโค้งหลบหนีการจับกุม ยึดของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้าน บาทผบช.ปส. ลั่น! อย่าหาว่าไม่เตือน!

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 เวลา13.30น. ณกองกับการ2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด2 อาคาร ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้วอ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แถลงจับกุมสมาชิก“เครือข่ายวิตตอง”ภายใต้การทำงานของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อำนวยการโดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส. บก.ปส.2 บช.ปส. อำนวยการโดย พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.พัฒนะ บูรณกลัศ รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.อุทิศ จันทะศรี รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.พชร โคตะ รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส.,พ.ต.อ.ภวินทร์ ภานุมาส รอง ผบก.ปส.2.บช.ปส. ,พ.ต.อ.อัคควิทย์ กำแพงนิล ผกก.๒ บก.ปส.2, พ.ต.อ.ไพโรจน์ เขียวนรภัย ผกก.1 บก.ปส.2 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ก้องสกล ภูธร สว.กก.2 บก.ปส.2 , พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ประสิทธิ์ สว.กก.2 บก.ปส.2

สืบเนื่องก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ปราบปรามยาเสพติดได้มีการจับกุม เครือข่ายผู้ลำเลียงยาเสพติดทางภาคอีสาน ที่พยายามลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในบริเวณกรุงเทพชั้นในซึ่งเป็นเครือข่ายวิตตองได้แล้วจำนวน6ครั้งด้วยกัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยการสกัดจับกุมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งจากการขยายผลและติดตามเป้าหมายมาโดยตลอดจนกระทั้งได้รับข้อมูลว่าเป้าหมายเดินทางขึ้นไปบริเวณริมแม่น้ำโขง โดยรถยนต์จำนวน2คัน มีลักษณะการลำเลียงรูปแบบขับรถยนต์เป็นขบวนมีรถยนต์ขับนำทางและต่อท้ายขบวน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลก็ดำเนินการสะกดรอยตามเส้นทาง จนพบรถเป้าหมายที่ลำเลียงยาเสพติดเป็นรถยนต์ เก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Yaris สีบรอนด์เทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5กฬ 6401 กรุงเทพมหานคร (ป้ายทะเบียนรถคันอื่น) ขับเข้า ปั้มน้ำมันปตท.คำปิง ถนนสุระนารายณ์ ทล.205 กม.151 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จว.ชัยภูมิ จึงเข้าสกัดรถดังกล่าวและขอตรวจค้น พบ 1. น.ส.ณัฐภัคฯ อายุ 36 ปี  ที่อยู่ หมู่ 3 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี (เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกยาเสพติด)2. นายณัฐพลฯ อายุ 26 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง จว.สระบุรี (เป็นผู้โดยสารนั่งข้างคนขับรถบรรทุกยาเสพติด) ตรวจค้นในรถพบ ยาเคตามีน 50 ถุง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมยาไอซ์ 50 ถุง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม แต่ในระหว่างการเข้าจับกุมรถยนต์ต้องสงสัยกลุ่มเป้าหมายได้มีการโทรประชุมสายส่งสัญญาณ ทำให้รถยนต์นำทาง ยี่ห้อมิตซูปาเจโร สีขาว ที่เจ้าหน้าที่อีกชุดกำลังติดตามอยู่รู้ตัว รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้เพิ่มความเร็วที่200กิโลเมตร/ชม. แต่เนื่องจากถนนมีเส้นทางเป็นที่ลาดชันเชิงเขาและมีลักษณะโค้ง จึงทำให้รถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักหลุดโค้ง และจับกุมได้ในเวลาต่อมาบริเวณริมทางหลวงถนนสุรนารายณ์ ทล.205 กม.123+800 ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จว.ชัยภูมิทราบชื่อนายฐิติธรรม ฯ อายุ 37 ปี ที่อยู่ หมู่ 6 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี (เป็นผู้ขับขี่รถนำ),น.ส.สิริพร ฯ อายุ 21 ปี ที่อยู่ หมู่ 4 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี (เป็นผู้โดยสารนั่งข้างกับคนขับรถนำ) จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสี่คน ซึ่งให้การรับว่าได้รับจ้าง 600,000 บาทลำเลียงจากบึงกาฬไปส่งแถวสระบุรี โดยได้รับมาเป็นค่าน้ำมันแล้ว 100,000บาท 

ด้านพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ได้ผู้ต้องหาที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเครือข่ายที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าติดตามและอยู่ในขั้นตอนการขยายผล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมและอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีอยู่หลายเคส ยอมรับว่ามีสมาชิกเครือข่ายดังกล่าวมีหน้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในข้อมูลเชิงลึกแล้วเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามตัวได้ไม่ยาก พร้อมทิ้งท้ายฝากเตือนผู้กระทำผิดและกลุ่มมือปืนรับจ้างที่รับงานของเครือข่ายขบวนการดังกล่าวให้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือกระทำความผิดเพราะ มันจะส่งผลได้ไม่คุ้มเสียซึ่งโทษอาจจะถึงขั้นประหารชีวิต

นราธิวาส-มท.1 ลงใต้ เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จ.นราธิวาส ยืนยัน!! 'รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง' พร้อมหนุนทุกภารกิจ เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของพื้นที่

(10 พ.ค.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดนพร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัดกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนราธิวาส  โดยจุดแรกได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชุดคุ้มครองตำบลลำภู อำเภอเมือง และมอบสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจจำนวน 49 ชุด และชุดยังชีพให้แก่กำลังพลในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 1,000 ชุด 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ในช่วงนี้ที่มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งรัฐบาลเอง ก็รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกห่วงใยเป็นอย่างมาก โดยจะต้องหาแนวทางมาตราการต่างๆ ในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองและประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียหรือได้รับความเสียหายขึ้นอีก และจะต้องทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง โดยจะมีการบูรณาการกันหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองเพื่อร่วมกันทำให้เกิดความสงบสุขโดยเร็ว 

รองนายกรัฐมนตรี ฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายจะให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านในท้องที่ให้เข้ามารักษาสถานการณ์ เพื่อให้กำลังทหารปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศได้อย่างเต็มที่ ก็จะมีการฝึกร่วมกัน ประสานการทำงาน ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่ากระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะศอ.บต. กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งมีความร่วมมือและตั้งใจร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรลุทุกๆภารกิจ และมีความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนต่อไป 

จากนั้นช่วงบ่ายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯ ได้เดินทางไปยังบก.ฉก. นราธิวาส ค่ายกัลยาณิวัฒนา อำเภอเมือง เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และร่วมหาแนวทางมาตรการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมีพลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลตรี ศานติ ศกุนตนาค เเม่ทัพภาค 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม 

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกเสริมสร้างผู้นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 10 พฤษภาคม 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอสุคิริน

 

เพจ ‘2475 Dawn of Revolution’ โพสต์พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗

(10 พ.ค. 67) เพจ ‘2475 Dawn of Revolution’ ได้โพสต์พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ระบุว่า…

“ในขณะนี้มีคนไทยประณามด่า ว่ากล่าวให้ร้ายป้ายสีฉันทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สักวันหนึ่งในอนาคต ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจะจารึกไว้ว่า ฉันเป็นนักประชาธิปไตย ฉันรักและหวังดีต่อประเทศไทยสักเพียงใด”

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗

คุณหญิงมณี สิริวรสาร, ชีวิตนี้เหมือนฝัน ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 1 และ เล่ม 2/ นรุตม์ เรียบเรียง, พิมพ์ครั้งที่ 2-กรุงเทพฯ, อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง,/2558 ISBN 978-616-18-0915-7 หน้า 335

‘สื่อเมียนมา’ เผย ‘ทักษิณ’ ล้มเหลว ไกล่เกลี่ยวิกฤตสงครามเมียนมา

(10 พ.ค. 67) สำนักข่าวอิรวดีของเมียนมารายงานว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อช่วยเจรจาหาทางยุติสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลทหารนั้น ไม่เพียงแต่จะถูกเมินจากรัฐบาลเมียนมา แต่ยังทำให้กลุ่มต่อต้านบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจด้วย

ทักษิณและทีมงานได้พบกับตัวแทนของกลุ่มต่อต้าน ได้แก่ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU), พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNPP), องค์การแห่งชาติคะฉิ่น (KNO) และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ในเดือน มี.ค. และ เม.ย.

การพบปะดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของไทย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ว่าการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ดำเนินการเป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นทางการของไทย

“เราต้องยอมรับว่า คุณทักษิณเป็นที่รู้จักและมีความเชื่อมโยงกับเมียนมา เชื่อว่าเขาสามารถช่วยได้” รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่กล่าว

เชื่อกันว่า ทักษิณมีความใกล้ชิดกับ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา เขาเคยไปเยี่ยม มิน อ่อง หล่าย ในปี 2013 และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่นั่นภายใต้ระบอบการปกครองก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การหารือในเดือน มี.ค. และ เม.ย. รัฐบาลทหารเมียนมาก็นิ่งเงียบในประเด็นนี้ และไม่ตอบรับคำร้องขอเยือนของทักษิณ แหล่งข่าวในไทยซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้บอกกับอิรวดีว่า การหารือดังกล่าวส่งผลย้อนกลับต่อทักษิณ

“ทักษิณกำลังถูกสื่อและฝ่ายค้านโจมตี เป็นการดีสำหรับเขาที่จะถอยออกมาแบบไม่เสียหน้า เนื่องจาก มิน อ่อง หล่าย ไม่ตอบสนองต่อคำขอของเขา” แหล่งข่าวกล่าว

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรด้านความมั่นคงแห่งรัฐและกิจการชายแดน ซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะสอบสวนการหารือของทักษิณกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร โดยกล่าวว่า การพบปะอาจทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับบทบาทของประเทศไทยในการฟื้นฟูความสงบสุขในประเทศเพื่อนบ้าน

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กองทัพไทยกำลังจับตาดูผู้ที่ทักษิณพบปะอย่างใกล้ชิด รวมถึงกลุ่มต่อต้านเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ โดยบอกว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่แน่ใจว่ากองทัพไทยยินดีหรือไม่ที่ได้เห็นทักษิณมาพบปะกับกลุ่มดังกล่าว

แหล่งข่าวรายหนึ่งจากกลุ่มต่อต้านที่เข้าร่วมการหารือกล่าวว่า ทักษิณได้นำเอกสารอย่างเป็นทางการมาให้พวกเขาลงนาม เพื่อมอบอำนาจให้ทักษิณทำหน้าที่เป็นคนกลาง แต่ ‘ไม่มีกลุ่มใดลงนามในเอกสารที่ทักษิณนำเสนอ’ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการทำให้รัฐบาลไทยไม่พอใจ

ขณะที่การประชุมกับ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาก็ไม่เป็นไปตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคาดหวังไว้ เพราะเขาได้พบเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับกลางเท่านั้น

อู ออง ซาน มยินต์ เลขาธิการคนที่ 2 ของ KNPP บอกกับอิรวดีว่า ในระหว่างการพบปะหารือ ทักษิณกล่าวว่า เขาต้องการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ของเมียนมา

“เราไม่ได้ทำข้อตกลงใด ๆ กับเขา เราบอกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการเจรจา เราได้พูดคุยกันว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไรในขณะที่มีการต่อสู้กัน เราไม่ได้พูดคุยเรื่องอื่นใดอีก” เขากล่าว

ทึ่ง!! ‘ฝรั่ง’ เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าววันพืชมงคล ทำเป็นสร้อยพกติดตัว พร้อมตั้งใจ นำไปฝากเพื่อน-ครอบครัว เพื่อเสริมสิริมงคล

(10 พ.ค.67) ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เนื่องในวันพืชมงคล ซึ่งจัดขึ้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อก @mickey3111 โพสต์วิดีโอคลิปจิตอาสาพระราชทานรายหนึ่ง ได้สัมภาษณ์ชาวต่างชาติรายหนึ่ง ที่ลงไปเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวร่วมกับประชาชนและเกษตรกร จากการสอบถามพบว่าเป็นชาวอเมริกัน อยู่ในประเทศไทยมานาน 6 ปีแล้ว อาศัยอยู่ที่เขตบางนา กรุงเทพฯ ปีแรกที่เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวได้นำไปเลี่ยมใส่กรอบเป็นสร้อยคอไว้กับตัว โดยในปีนี้ตั้งใจว่าจะนำไปฝากเพื่อนและครอบครัวที่มาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อความเป็นสิริมงคล

‘แม่สามีชมพู่’ รุดช่วย ‘ยายขายไข่เจียว’ ปลดหนี้นอกระบบ เผย!! รู้สึกหดหู่จนนอนไม่หลับ พร้อมยังช่วยลงทุนให้เพิ่มอีก

(10 พ.ค.67) จากกรณี ยายสุข ซึ่งทำอาชีพขายไข่เจียว วัย 75 ปี โดนแก๊งทวงหนี้ทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของภายในร้าน และโดนข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงินจะโดนแบบนี้อีก แม้ต่อมาตำรวจก็สามารถจับกุมดำเนินคดีผู้ก่อเหตุได้ แต่ก็ยังคงสร้างความสะเทือนใจให้กับใครหลาย ๆ คน

ต่อมา รายการ ทุบโต๊ะข่าว ก็ได้เผยคลิปสุดประทับใจว่า คุณอุไรวรรณ ย่าของฝาแฝดสายฟ้า พายุ และแอบิเกล ซึ่งเป็นคุณแม่ของ น็อต วิศรุต และแม่สามีของ ชมพู่ อารยา ก็ได้เห็นข่าวนี้ก็อยากจะเข้าไปช่วยเหลือ

โดยคุณย่าอุไรวรรณได้เดินทางไปพบกับคุณยายขายไข่เจียวด้วยตัวเอง พร้อมเสนอช่วยปลดหนี้สินทั้งหมดให้แก่คุณยาย โดยคุณย่าอุไรวรรณกล่าวว่า “ดูข่าวแล้วหดหู่ใจ นอนไม่หลับ อยากรีบมาช่วยเลย ขับรถหาจนทั่วเลย เราตั้งใจมา”

จากนั้น คุณยายสุข ก็ขอบคุณ คุณย่าอุไรวรรณ ที่มาช่วยเหลือปลดหนี้รวมถึงลงทุนให้เพิ่มอีก โดยบอกว่า “ขอบพระคุณมาก ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง รู้สึกดีใจมาก ๆ”

ทำเอาชาวเน็ตหลายคนรู้สึกใจฟู ดีใจไปกับคุณยายสุข ที่มีคนเมตตาช่วยเหลือ ให้โอกาส และหวังว่านี่จะเป็นกรณีสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแบบนี้ 

‘รมว.ปุ้ย’ ลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุไฟไหม้ถังสารเคมี มาบตาพุด พร้อมสั่งเยียวยา - ส่งเสียลูกผู้เสียชีวิตจนจบปริญญาตรี

(10 พ.ค. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนใหญ่ (SCC) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปบริเวณจุดเกิดเหตุ บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณโรงงาน แค่ลงจากรถก็ถึงกับผงะกลิ่นฉุนของสารที่ถูกเผาไหม้ สูดดมเข้ารู้สึกแสบจมูกมาก สำหรับจุดเกิดเหตุขณะไฟดับหมดแล้ว แต่ยังคงมีการเฝ้าระวังอยู่

ด้านนางพิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม ได้สอบถามถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งทราบว่า บ้านเกิดอยู่จ.เชียงราย ภรรยาทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า มีบุตรด้วยกัน 1 คน จึงย้ำให้เยียวยาอย่างเต็มที่กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารก็ยืนยันจะช่วยเหลือครอบครัว พร้อมส่งลูกเรียนจนจบระดับปริญญาตรี หลังนั้นก็เดินทางต่อไป เยี่ยมประชาชนข้างโรงงาน ที่ศาลาตากวน-อ่าวประดู่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

เมื่อเดินทางไปถึง พบชาวบ้านนับร้อยคน ได้มารอต้อนรับ และรมว.ได้เข้าไปสอบถามพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง พร้อมขอโทษชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบข้างโรงงานเกิดเหตุ ก่อนจะเดินทางกลับไป

ด้านญาติผู้เสียชีวิต เตรียมรับศพผู้เสียชีวิต จากโรงพยาบาลระยอง ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจ.เชียงราย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top