Monday, 20 May 2024
ภาคกลางไทม์

นครนายก - องค์การบริหารส่วน จ.นครนายก จัดโครงการมอบเครื่องอุปโภค - บริโภคช่วยเหลือประชาชน ที่ลงทะเบียนจำนวน 20,575 ครัวเรือน จากผลกระทบโควิด-19

ที่อาคารอเนกประสงค์ วัดรังษีโสภณ ตำบลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายจักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่และพนักงาน จัดโครงการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือประชาชนจังหวัดนครนายก

และในวันนี้ได้ลงพื้นที่วัดรังสีโสภณ ตำบลนครนายก โดยมีประชาชนที่ผ่านการลงทะเบียนรับเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 197 ชุดโดยมอบให้ครัวเรือนละ 1ชุดเข้ารับมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นการแบ่งเบาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

 

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เดินลุยน้ำพา นร.อาชีวะ ลงพื้นที่ตลาดเก่าแก่อิงน้ำ ช่วยปชช.ริมเจ้าพระยา เลื่อนปลั๊กไฟเตรียมป้องกันโบราณสถาน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 08:30 น. ที่ท่าเรือหน้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ขับเรือยนต์ พร้อม เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี เพื่อมารับนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี เพื่อพาล่องเรือตรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและช่วยย้ายสายไฟ ปลั๊กไฟและ มิเตอร์ไฟฟ้าให้กับบ้านริมน้ำตลอดเส้นทางจากนั้นได้ลงพื้นที่ตลาดอิงน้ำ ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำพร้อมช่วยย้ายปลั๊กไฟและสิ่งของขึ้นที่สูง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต , นายกฤษดา พงษ์เสริม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี พร้อมทีมงาน, นายระเด่น ดวงแก้ว อาจารย์สาขาช่างไฟฟ้ากำลังพร้อมอาจารย์อีก 5 คน และนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้า จิตอาสาอีกจำนวน 6 คน ร่วมลงพื้นที่ย้ายปลั๊กไฟและหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดที่ใกล้ระดับน้ำ

ในส่วนของเทศบาลนครรังสิต ได้ระดมสูบน้ำจนสถานการณ์เป็นปกติ โดยสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตฯ เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 8 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(คลองรังสิต) +1.65 ม.รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(แม่น้ำเจ้าพระยา) +2.05 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำเปรมใต้ เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง ระดับน้ำเปรมใต้(คลองเปรมประชากร) +0.60 ม.รทก. ระดับน้ำคลองรังสิต +1.80 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ1 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ2 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ3 เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(ด้านในคลองรังสิต) +1.08 ม. รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(ด้านซ่อมสร้าง) +1.82 ม. รทก. ซึ่งระดับภายในเขตรังสติอยู่ในระดับสภาวะปกติ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า สิ่งที่เราห่วงคืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ต่ำแล้วกลัวว่าน้ำจะท่วมแล้วประชาชนจะได้รับอันตราย เมื่อเราลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีบางบ้านที่จำเป็นต้องปิดไฟหมด เพราะว่ากลัวกระแสไฟฟ้าดูด ต้องขอขอบคุณทางท่านผู้จัดการไฟฟ้าจังหวัดปทุมธานี และวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ได้จัดอาจารย์และนักศึกษไฟฟ้ากำลังมาร่วมแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้จริง ๆ ทางเราจะดำเนินการต่อไปและถ้าประชาชนต้องการความช่วยเหลือก็สามารถแจ้งมาที่ทางการไฟฟ้า เบอร์ด่วน 1129 เพื่อช่วยแก้ไขความเดือดร้อนเรื่องไฟฟ้า

นอกจากนี้ ตนเองยังจัดอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟรั่วในน้ำให้กับทางการไฟฟ้าและทางคณะของเทคนิคปทุมเพื่อให้ไปใช้ตรวจสอบกระแสไฟในน้ำ หากในน้ำมีกระแสไฟฟ้า อุปกรณ์ตัวนี้จะสั่น เราจึงนำมามอบให้พี่น้องประชาชนบางส่วนก่อน เพื่อเอาไว้ใช้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย และเราได้ประเมินสถานการณ์น้ำวันต่อวันโดยให้ นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ และนายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภาองค์หารบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไปเกาะติดที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เมื่อเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมาจนมาที่ อ.บางไทร ปล่อยน้ำเท่าไร ซึ่งตอนนี้ปล่อยน้ำเกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต พี่น้องประชาชนต้องเฝ้าระวัง และวันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะมีพายุใหญ่เข้ามาอีก จึงต้องมาดูเตรียมความพร้อมเพื่อระมัดระวังกันต่อไป

 

สมุทรสาคร - Kick Off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน (Pfizer) ในเด็กนักเรียน ส่วนผู้ติดเชื้อรายวัน 145 ราย

เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) หรือโรงเรียนเทศบาล 8 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ Kick Off การสร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนในเด็กนักเรียน โดยการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียนที่มีอายุ 12 – 17 ปี มีนายประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรสาครและคณะ ศึกษาธิการจังหวัด บุคลากรทางด้านสาธารณสุข  ผู้มีเกียรติ คณะครู และผู้ปกครองที่ได้นำเด็กนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัยจำนวน 909 คน มาเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันแรก และเป็นโรงเรียนำร่องแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสาครที่มีการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน

นายประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานว่า เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาตรการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ วัคซีนโควิด-19 นั้น เป็นมาตรการในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ และที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรสาคร ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 585,601 คน ครอบคลุมประชากรร้อยละ 61.44  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประชากรที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้การได้รับวัคซีนโควิด 19 ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปี ลดความเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ประเทศไทยจึงมีนโยบายให้วัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 - 17 ปี

ผ่านสถาบันการศึกษาในรูปแบบวัคซีนนักเรียน (School-based vaccination) ซึ่งในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร จากการสำรวจความประสงค์ของผู้ปกครองผ่านสำนักศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า ผู้ปกครองมีความประสงค์ให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 จำนวนทั้งสิ้น 27,000 คน จากที่มีเด็กนักเรียนในกลุ่มอายุ 12 – 17 ปี อยู่ทั้งหมดประมาณ 33,000 คน ซึ่งภาพรวมหากฉีดได้ครบตามจำนวนที่แจ้งความประสงค์ไว้ ผนวกกับเด็กนักเรียนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็จะมีเด็กนักเรียนอายุ 12 – 17 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด Pfizer มากกว่าร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือก็จะรณรงค์ให้ผู้ปกครองสมัครใจนำบุตรหลานมาเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป

ด้านนายรณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในวันนี้เป็นวันแรกเริ่มของกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งสมุทรสาครมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ประมาณ 33,000 คน สมัครใจเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 27,000 คน สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กนักเรียนนี้จะทำให้จังหวัดสมุทรสาครพร้อมที่จะกลับมาเปิดเทอมกันอีกครั้งในรูปแบบออนไซด์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ขณะที่ในภาพรวมของจังหวัดสมุทรสาครนั้น เรื่องของการให้บริการฉีดวัคซีน กับการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไม่ใช่ปัญหาหลัก ส่วนที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือ เรื่องของจำนวนและระยะเวลาของวัคซีนที่จะจัดส่งมายังจังหวัดสมุทรสาคร หากมาได้ครบและเป็นไปตามวันเวลาที่กำหนด ก็จะทำให้จังหวัดสมุทรสาครเดินแผนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ด้านนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า แผนเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนนั้น จะใช้รูปแบบวัคซีนนักเรียน หรือ School-based vaccination คือ การเข้าไปฉีดให้กับนักเรียนภายในรั้วโรงเรียนตามวันและเวลาที่ได้รับการนัดหมายไว้ โดยจะฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นเข็ม 2 จะเริ่มฉีดอีก 3 สัปดาห์ภายหลังจากนี้ ส่วนคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วคือ เรื่องของผลข้างเคียงมักจะเกิดภายใน 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขอให้ยังเฝ้าสังเกตอาการต่อเนื่องอีกระยะหากมีอาการเจ็บหน้าอก หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ใจสั่น หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ที่สงสัยได้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ก็ขอให้รีบแจ้งทางโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านทันที และอีกส่วนหนึ่งคือการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 1 สัปดาห์แรกนี้ขอให้ระงับไว้ก่อน

 

นครนายก - เทศบาลเมืองนครนายก จัดโครงการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้ประชาชน รอบที่ 3 (เข็มที่ 1) จำนวน 1500 คน

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่โรงพยาบาลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก พร้อมคณะเทศมนตรี  และสมาชิกเทศบาลเทศบาลเมืองนครนายก เข้าตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษาประชาชนที่เข้ารับบริการซีดวัคซีนชิโนฟาร์ม รอบที่ 3 (เข็มที่1)จำนวน 1500 คน โดยมีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้วได้เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ส่วนในวันที่ 8 ตุลาคม 2564 จะเป็นรอบที่ 4 (เข็มที่ 1)รอบเก็บตกของประชาชนที่ยังคงตกค้างคงเหลืออีกประมาณกว่า 300 คน

ด้วยเทศบาลเมืองนครนายก มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกท่าน จึงได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อขอรับวัคซีนชิโนฟาร์มจำวนวน 7000 โดส มาบริการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับพี่น้องประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และลดการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

 

สระบุรี - “นิพนธ์” รุดดูเขื่อนป่าสักฯ-เขื่อนพระราม6 มั่นใจจัดการได้ แต่ไม่ประมาทการรักษาชีวิต และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเยี่ยมผู้อพยพภัยน้ำท่วม 3 จ. สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่อาคารควบคุมและการประมวล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีรองผวจ.สระบุรี ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ รายงานสถานการณ์น้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า เขื่อนป่าสักฯ ยังสามารถควบคุมการระบายน้ำได้ ถึงแม้ว่าน้ำในเขื่อนขณะนี้จะอยู่เกินปริมาณที่เก็บกักได้ที่ 105 % ก็ตาม ซึ่งปริมาณกักเก็บสูงสุดของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่วันนี้เขื่อนมีน้ำอยู่ที่ 1,114 ลูกบาศก์เมตร และเขื่อนมีการระบายน้ำวินาทีละ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังมีน้ำเหนือ ไหลลงเขื่อนใกล้เคียงกับน้ำที่ระบายออก ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน โดยได้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนท้ายเขื่อนแล้ว พร้อมทั้งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด คือจ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีกด้วย สิ่งที่กังวลคือต้องติดตามจนถึงวันที่ 3 ต.ค.ว่าจะมีพายุก่อตัวหรือไม่ จากนั้นก็ต้องเฝ้าระวังวันที่ 7-10 ต.ค.อีกครั้งซึ่งเป็นช่วงที่น้ำเหนือลงมาประกอบกับน้ำทะเลหนุน แต่ยืนยันว่าน้ำเขื่อนป่าสักฯ ยังควบคุมสถานการณ์ได้ และปริมาณน้ำก็ยังน้อยกว่าตอนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ด้วย

จากนั้นนายนิพนธ์รมช.มหาดไทยและคณะ เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้การระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 735 ลบ./วินาที และได้เปลี่ยนธงเป็นสีแดงเป็นสัญญาณ แจ้งว่าระดับน้ำวิกฤตแล้วแจ้งเตือนประชาชน ริมแม่น้ำป่าสัก ท้ายเขื่อนพระราม 6 ลงผ่านอำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยา ได้เฝ้าระวังทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำป่าสัก ต้องเร่งเก็บของขึ้นที่สูงเพราะระดับน้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ตนได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกประกาศเตือนภัยแล้วและให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ เตรียมแผนให้พร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า  รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสาร สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง จนกว่าน้ำจะลดแล้วเข้าสู่การเยียวยาและฟื้นฟูต่อไป ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำเรื่องการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเปิดทางน้ำให้มีการระบายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องมีการวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร

อยุธยา - ผู้ว่าฯ เปิดรพ.สนาม เยี่ยมชมอาคารสถานที่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อคนในภาคอุตสาหกรรมอยุธยา เฟส 1 เป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลพนักงานผู้ป่วยจากโควิด-19

วันนี้ (28 ก.ย.64) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนาม เพื่อคนในภาคอุตสาหกรรมอยุธยา เฟส 1 พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ โดยมี นางสาวบงกช แจ่มทวี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ เป็นผู้กล่าวรายงานฯ และนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช. การช่าง จำกัด(มหาชน) ผู้สนับสนุนให้ใช้สถานที่ และผู้ร่วมสนับสนุนในการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีเปิดฯ จากนั้น ผู้ว่าฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมอาคารสถานที่รองรับผู้ป่วยและอาคารของแพทย์พยาบาลภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสถานประกอบการภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 100 แห่ง ได้ร่วมกันที่จะจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ขึ้นในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลพนักงานผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐที่ให้โรงงานอุตสาหกรรมจัดตั้งศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนามขึ้นในสถานประกอบการด้วย

นครนายก - ชุมชนไทยพวน ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง มิวเซียมปะพวนที่ปากพลี ร่วมแสดงความยินดี และแสดงมุทิตาจิต

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่วัดฝั่งคลอง ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ชุมชนไทยพวน ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชวัดฝั่งคลอง มิวเซียมปะพวนที่ปากพลี ร่วมแสดงความยินดี และแสดงมุทิตาจิต ดร.อนันต์ นาวิไล วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก,จ.ส.ต.สกล ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครนายก,นางสาวณัฐกฤตา มีกล้า ครู กศน.ตำบลท่าเรือ(กศน.อำเภอปากพลี)

โดยมีพระครูวิริยานุโยค เจ้าคระอำเภอปากพลี เจ้าอาวาสวัดฝั่งคลอง กล่าวสัมโมทนียกถางานมุทิตาจิต พร้อมมีอาจารย์สมชาย ธูปเงิน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอำเภอปากพลี, ว่าที่ รต.ชาติชาย ยอดมิ่ง ประธานชมรมส่งเสริการท่องเที่ยวชุมชนไทยพวน เป็นพิธีกร และแขกผู้มีเกียรติรวมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบพื้นบ้านไทยพวน พร้อมชมวีดีทัศน์นำเสนอผลงานความประทับใจและการเกษียณราชการทั้ง 3 ท่าน

นครนายก - เทศบาลเมืองนครนายก จัดโครงการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้ประชาชน รอบที่ 2 (เข็มที่ 1) จำนวน 600 คน ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชน

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่โรงพยาบาลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก ได้มอบหมายให้คณะเทศมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษาประชาชนที่เข้ารับบริการซีดวัคซีนชิโนฟาร์ม รอบที่ 2 (เข็มที่1)จำนวน 600 คน โดยมีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้วได้เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กรุงเทพฯ - ‘นิพนธ์’ ย้ำ 3 เรื่องหลัก! เร่งฉีดวัคซีนเมืองท่องเที่ยว - บริหารจัดการน้ำแก้อุทกภัย/ภัยแล้งพร้อมเร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ได้รับผลกระทบ - ลดสถิติการสูญเสียบนท้องถนน แก่ผู้บริหารก.มหาดไทย เตรียมพร้อมก่อนเริ่มปีงบ 65

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (vcs) โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญ พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว การผ่อนปรนมาตราการการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น การบริหารจัดการวัคซีนอยากให้เน้นการฉีดในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการรองรับนักท่องเที่ยว เช่น ผู้ให้บริการโรงแรม ขนส่งสาธารณะ ร้านอาหาร เป็นต้น ให้สำรวจกลุ่มคนกลุ่มนี้ ถ้าสามารถดูแลป้องกันก็จะลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการควบคุมโรค โดยไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 จากนักท่องเที่ยวมาสู่ประชาชน ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต้องไม่ได้รับเชื้อจากประชาชนด้วย

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ช่วงนี้ประเทศไทย เราได้มีบทเรียนหลายครั้ง โดยเฉพาะอุทกภัยปีที่ผ่านมาอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” อยากให้ทำความเข้าใจและแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรที่จะรักษาชีวิตประชาชนไว้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้ถอดบทเรียนจากครั้งที่แล้วที่เกิด “พายุโพดุล” ต้องมีการเตรียมแผนตามที่จะเผชิญเหตุไว้ การเตรียมการที่ดีตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดเหตุ การแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามเหตุข่าวสารข้อมูลให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อที่จะดูแลชีวิตและความปลอดภัยของประชาขนเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย การถอดบทเรียนจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ทำให้รู้ว่าหน่วยงานภาครัฐสามารถรับมือสถานการณ์ได้ดี โดยเฉพาะเรื่องการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสามารถทำได้ทันท่วงที ทำให้ภัยพิบัติครั้งนี้สูญเสียทรัพย์สินและชีวิตไม่มากเท่ากับครั้งก่อนๆ การให้ข้อมูลข่าวสาร แจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานภาครัฐที่ทันสถานการณ์ ทำให้ลดการเกิดความเสียหายและสูญเสียได้

 

 

ปทุมธานี - บิ๊กแจ๊สไม่ยอม! ให้ปทุมธานีเป็นแก้มลิง เพื่อรับน้ำป้องกันน้ำท่วมเต็มที่!

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง และลงเรือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเก็บของขึ้นที่สูง หลังผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานีเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและให้ทุกอำเภอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ฝนตกหนักหรืออาจเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ. ปทุมธานี ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เกษตรกร ที่ประกอบอาชีพประมง เพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทห้างร้าน ที่ประกอบกิจการ ในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น ร่วมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกาศส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักจนถึงวันนี้ก็ยังตกอยู่ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้ออกคำสั่งแล้วว่า ให้แจ้งเตือนพี่น้องชาวปทุมธานีที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง ให้เตรียมยกของขึ้นที่สูง วันนี้ได้เอาเรือออกและเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งให้เตรียมขนของขึ้นที่สูง ซึ่งพี่น้องประชาชนทั้งสองฝั่งเจ้าพระยา เขาใช้ชีวิตปกติอยู่แล้ว ในฤดูน้ำหลากเขาจะมีการเตรียมตัวของเขาอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็ต้องแจ้งเตือน เพราะอาจจะมีหลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารทางโซเซียล อาจไม่ทราบข้อมูลข่าวสาร จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นการเตรียมการ

โดยให้นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายสมร แตงอ่อนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ให้ไปดูเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท เพื่อดูปริมาณน้ำที่แท้จริง ที่ได้ปล่อยน้ำลงมา เพื่อที่จะวางแผนให้พี่น้องประชาชนถูก เพราะจังหวัดปทุมธานีต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน 1.พี่น้องที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในช่วงคลองระบายน้ำ รังสิตเหนือและรังสิตใต้ ซึ่งจังหวัดปทุมธานีจะไม่ใช้แกมลิงอีกต่อไป หากคิดว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นแกมลิง พี่น้องชาวปทุมธานีที่อยู่หมู่บ้านจัดสรรอีกหลายร้อยหลายพันหมู่บ้านจะต้องเดือดร้อนหากผันน้ำเข้ามาท่วมทุ่งรังสิต 

2 เดือนที่ผ่านมาเราได้เตรียมการไว้แล้ว

1.เอารถดูดโคลนเข้าไปตามหมู่บ้านจัดสรร เพื่อล้างท่อระบายน้ำ ทั้งหมด ซึ่งได้ทำไปเยอะแล้ว

2.ได้นำเรือโป๊ะแบคโฮขุดลอกคลองทุกคลอง คลองส่งน้ำต้องเป็นคลองส่งน้ำ จะมีแต่สิ่งปริกูลมีแต่ขยะเต็มคลองอย่างนั้นไม่ได้ เราไล่ดำเนินการตั้งแต่คลองระพีพัฒน์ไปจนถึงคลองรังสิตประยูศักดิ์ระยะทาง 22 กิโลเมตร ทุกคลองต้องไม่มีผักตบชวาและไม่มีหญ้าขึ้นอีกต่อไป

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top