Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

'หมออนุทิน'​ เผยวัคซีน Sinovac ผ่านการตรวจสอบแล้ว พร้อมลุยให้บริการประชาชน

เฟซบุ๊ก 'อนุทิน ชาญวีรกูล'​ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการโพสต์ข้อความว่า..

ว้คซีน Sinovac ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดส่งให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อฉีดให้ประชาชน ตามแผนบริหารจัดการวัคซีน ของกระทรวงสาธารณสุข

#คนไทยต้องปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัคซีนของ Sinovac ได้รับการตรวจสอบ ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นไปตามระบบคุณภาพของการรับวัคซีนตัวอย่าง และดำเนินการทดสอบทางห้องปฏิบัติการทันที

สำหรับผลการทบทวนเอกสารข้อมูลกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพของวัคซีนรุ่นการผลิตที่ประเทศไทยได้รับมาจากผู้ผลิตนั้น​ มีความสอดคล้องตามกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์​ จึงได้ให้การรับรองรุ่นการผลิตวัคซีน CoronaVac ของซิโนแวครุ่นที่ส่งให้ประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำวัคซีนไปใช้ได้ตามแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19

รัฐบาลญี่ปุ่นใจถึง !!​ ใครฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วตาย​ จ่าย​ 12​ ล้านบาท​ หวังจูงใจประชาชนให้เลิกกลัว

จากกรณีเมื่อ วันที่ 17 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่น ได้เริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชน แต่กลับปรากฏว่า มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไม่มากนัก

โดยดูจากผลสำรวจความคิดเห็นของสื่อหลายสำนักในญี่ปุ่น พบข้อมูลว่า ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่กล้าไปเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงหาวิธีดึงดูด โดยนาย โนริฮิสะ ทะมุระ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยจำนวน 44,200,000 เยน หรือ 12,536,372 บาท ให้แก่ครอบครัวหากฉีดวัคซีนต้าน โควิด-19 แล้วเสียชีวิต และจะจ่ายค่าทำศพอีกไม่เกิน 209,000 เยน หรือ 59,275 บาท หลังพบชาวญี่ปุ่นไม่กล้าฉีดวัคซีน เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการเจ็บป่วย หรือได้รับผลข้างเคียงระยะยาว อาทิ พิการ จะได้รับเงินชดเชยปีละ 5 ล้านเยน หรือ 1,417,096 บาท

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายจ่ายเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังไม่ทราบ


ที่มา: https://www.facebook.com/336295587309275/posts/768683140737182/

https://japantoday.com/category/features/health/If-you-die-from-the-COVID-19-vaccine-in-Japan-the-government-will-give-your-family-over-¥44-mil

https://www.independent.co.uk/news/world/asia/japan-covid-vaccine-pay-families-death-b1806799.html

https://www.posttoday.com/world/646333

ดำเนินคดีเณร 3 นิ้ว มหาเถรสมาคมมีมติร่วม ผิดวินัยสงฆ์ หมิ่นสังฆราช

เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบ​ 'สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า'​ หรือ 'โฟล์ค'​ นักศึกษาวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล สมาชิกแนวร่วมราษฎรศาลายา ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับม็อบราษฎรว่า มีพฤติกรรมขัดต่อคำสั่งมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า...

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ร่วมกับพระครูสถิตปริติวศ์ วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ เจ้าคณะแขวงบางชื่อ พระวินยาธิการ ออกตรวจตราตามที่ได้รับรายงานข่าว และแจ้งเบาะแส กรณีพบเห็นสามเณรมีพฤติกรรมขัดต่อคำสั่งมหาเถรสมาคม

เรื่องห้ามภิกษุสามเณรเที่ยวเตร็ดเตร่ และพักค้างแรมตามบ้านเรือน พ.ศ.2521 , คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538, ประกาศคณะสงฆ์ เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรพักแรมในสถานที่เป็นที่รังเกียจทางพระวินัย วันที่ 31 มกราคม 2501 และอาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศมหาเถรสมาคม เรื่องห้ามภิกษุสามเณรไม่ให้เป็นสมาชิกในสมาคม หรือสโมสรคฤหัสถ์ ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2476

ซึ่งประกาศห้ามภิกษุสามเณรเข้าเป็นสมาชิกในสมาคม หรือสโมสรคฤหัสถ์ เพราะไม่สมควรเกี่ยวข้องในกิจที่ไม่ควรแก่บรรพชิต เป็นการสร้างความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา และเป็นที่ติเตียนวิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนถึงความไม่เหมาะสม ภายหลังจากที่เจ้าคณะผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ละแวกบ้านพักนักกิจกรรมแนวร่วมราษฎร ย่านเตาปูน ตรวจสอบตามที่ได้รับรายงาน

โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากสื่อสังคมออนไลน์ พบว่า สามเณรรูปดังกล่าวคือ สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า หรือ โฟล์ค ไม่มีสังกัด ซึ่งเป็นบุคคลตามมติมหาเถรสมาคม ที่ 57/2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 เรื่องกรณีสามเณรเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยเข้าร่วมชุมนุม และปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง

ทั้งในระหว่างการชุมนุมยังแสดงพฤติกรรมละเมิดองค์แห่งพระวินัยปิฎก กล่าวติพระธรรม กล่าวติพระสงฆ์ มีความเห็นผิด ไม่เหมาะสมในสมณะแห่งพระพุทธศาสนา มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอามาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ใส่ความคณะสงฆ์ให้เสื่อมเสีย หรือแตกแยก

มหาเถรสมาคม จึงมีมติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แจ้งมติมหาเถรสมาคมนี้ ไปยังเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด และจังหวัดทุกจังหวัต เพื่อดำเนินการตามแนวทางการลงทัณฑกรรมแก่สามเณร

พร้อมแจ้งขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งสถานีตำรวจในท้องที่ต่างๆ หากพบเห็นสามเณรดังกล่าว ให้นำเข้าพบเจ้าคณะผู้ปกครองในพื้นที่นั้นๆ เพื่อดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคม แล้ว

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งข่าว และขอความร่วมมือพุทธศาสนิกชนทุกท่าน หากพบเห็นพระภิกษุสามเณที่มีพฤติกรรมเช่นดังกล่าว หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในความเป็นสมณะ และในลักษณะอื่นที่อาจเข้าข่าย และเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

โปรดแจ้งข่าว และเบาะแสมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โทร.02-441-7992 , 02-441-7936 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ที่มา:

https://www.thaipost.net/main/detail/94250

https://www.facebook.com/www.onab.go.th/posts/2511133115858641

โฆษกพรรคกล้าเตือน!! หื่นกระหายแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกัน ทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลเสื่อม แนะลุงตู่ 'ปรับ ครม.'​ ให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่านักการเมือง

ธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก Thanva Krairiksh - ธันวา ไกรฤกษ์ แสดงความเห็นถึงเรื่องการ 'ปรับ ครม.'​ ว่า...

เห็นข่าวการเตรียมเสนอชื่อรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง จึงขอแสดงความคิดเห็นในฐานะอดีตสมาชิกพรรค ซึ่งเคยได้เสียงกว่า 3 หมื่นคะแนนในการเลือกตั้ง “เพราะลุงตู่” สักหน่อยครับ

แม้ฐานคะแนนเดิมของส.ส.จากหลายกลุ่มหลายก๊วนจะมีจำนวนไม่น้อย แต่ต้องยอมรับว่ากระแสความมั่นใจต่อความเข้มแข็งในการปกป้องสถาบัน รวมไปถึงความเด็ดขาดในการแก้ปัญหาต่างๆ สมัยรัฐบาล คสช. ของลุงตู่ เป็นปัจจัยหลักให้พลังประชารัฐสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้​ ซึ่งผมเองเคยลงเลือกตั้งมาหลายครั้ง ไม่เคยได้คะแนนถึงหมื่น แต่คราวนี้ได้เกือบ 3 หมื่น ก็เพราะลุงตู่เช่นกัน โดยสัมผัสได้ถึงความคาดหวังของประชาชนที่อยากเห็นลุงตู่นำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปตามที่ตั้งใจและสัญญาไว้

แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ตั้งรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีการปฏิรูปด้านใดที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่ข่าวการขัดแข้งขัดขา แย่งเก้าอี้รัฐมนตรี จนมาถึงวันนี้มีรัฐมนตรีหลุดไป เพราะคำพิพากษาในคดี กปปส. ก็ยังไม่วายแสดงท่าทียื้อแย่งตำแหน่งกันอยู่เช่นเดิม... ราวกับไม่เห็นหัวผู้ที่เคยลงคะแนนให้จริงๆ

แล้วการพิจารณาตัวบุคคลที่จะมารับตำแหน่ง ควรเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ส่วนสมาชิกพรรคควรจะรู้จักการสงวนท่าทีบ้าง เพื่อให้รัฐบาลยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ไม่ทำเหมือนหื่นกระหายใคร่อยาก จนทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลดูเสื่อมอย่างนี้

เขียนยาวไปก็เวิ่นเว้อ ขอฝากไว้ให้พิจารณากันเพียงเท่านี้ และหวังว่าจะเห็นความเด็ดขาดในการตัดสินใจ คัดกรองตัวบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนยังรู้สึกว่า "นายกให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่านักการเมือง"

#เก็บอาการบ้างก็ได้!!


ที่มา: https://www.thansettakij.com/content/politics/470192

ด่วน!! สหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการแรกภายใต้ 'ไบเดน' โจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายในซีเรีย

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้สั่งการให้กองทัพอเมริกาโจมตีทางอากาศทางภาคตะวันออกของซีเรีย ถล่มสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่ทางเพนตากอนระบุว่า​ เป็นฐานของกลุ่มนักรบที่อิหร่านหนุนหลัง เพื่อตอบโต้เหตุยิงจรวดโจมตีฐานที่มั่นต่างๆ​ ของสหรัฐฯ​ ในอิรักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

โดยการโจมตีสถานที่ต่างๆ ของสหรัฐในอิรักก่อนหน้า​ ซึ่งรวมถึงสถานทูตอเมริกันนั้น​ เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐและอิหร่านกำลังหาทางที่จะกลับเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ซึ่งได้ถูกยกเลิกไปในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เจ้าหน้าที่ของอิรักและชาติตะวันตก​ ระบุว่า การโจมตีสหรัฐฯ​ ในอิรักนั้นเป็นฝีมือของกองกำลังติดอาวุธกาตาอิบ เฮสบอลเลาะห์ (Kataib Hezbollah) และกลุ่มกาตาอิบ ซัยยิด อัล-ชูฮาดาอฺ​ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่าน

เหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเป็นแห่งแรก ดูเหมือนจะดำเนินการในขอบเขตจำกัด มีความเสี่ยงระดับต่ำที่จะก่อให้เกิดสถานการณ์ลุกลามบานปลาย​ โดยสหรัฐฯ​ ได้ตัดสินใจโจมตีกองกำลังอิหร่านเฉพาะในซีเรียเท่านั้น และไม่ได้ทำการโจมตีในอิรักแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตามการโจมตีทางอากาศในซีเรียครั้งนี้ได้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ทหารของสหรัฐและของกองกำลังพันธมิตรบาดเจ็บหลายนาย


ที่มา: รอสเตอร์ส
https://mgronline.com/around/detail/9640000019103
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/924681

'เยาวชนปลดแอก'​ นัดชุมนุมรอบใหม่ รวมพลอนุสาวรีย์ชัยฯ เคลื่อนไปบ้านพักนายกฯ ค่ายกรมทหารราบที่ 1 วันที่ 28 ก.พ.นี้

เฟซบุ๊กกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศจัดชุมนุมอีกครั้ง โดยนัดหมายเดินขบวนในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. เวลา​ 15.00 น. จากอนุสาวรีย์ชัยสมาภูมิ ไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการระทรวงกลาโหมภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกยังได้ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มวลชนจะเป็นผู้ตัดสินใจร่วมกัน ไม่มีแกนนำ ไม่มีรถห้องน้ำ ไม่มีการ์ด ไม่มีรถเวที มีเพียงมวลชนที่ไม่ใครอาจหยุดกั้น


ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/924667
 

รับจ้างทำบุญ รีวิวรูปถ่ายและวีดีโอรายงานผล เหมือนทำบุญด้วยตัวเอง 

เดี๋ยวนี้ธุรกิจบุญแตกหน่อไปไกล​ ล่าสุดเพจ​ 'บุญบังใบ​ สังฆภัณฑ์'​ ได้เปิดรับบริการใหม่​ สำหรับสายบุญที่ไม่มีเวลา​ โดยโพสต์ว่า... 

•• รับจ้างตื่นมาตักบาตร ••

อยากตักบาตรแต่ไม่ชอบตื่น อยากตักบาตรแต่อยู่ต่างประเทศ อยากตักบาตรแต่ตื่นไม่ไหวเพราะเมาค้าง อยากตักบาตรแต่ธุรกิจรัดตัว อยากตักบาตรแต่แถวบ้านไม่มีวัด
อยากตักบาตรแต่ยังอยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น ฝันถึงเทอเรื่อยปัยยย เพราะว่าความจริงไม่มีทางใด ทำให้เราได้รักกัน เอ้า!!! ร้องได้ช่วยกันร้องหน่อยค้าาาา ทางซ้ายหละ เอ้า ทางขวาบ้างงงง 

เพียงแค่คุณลูกค้าโอนเงินมา พร้อมแจ้งชื่อนามสกุล เรามีทีมงานที่พร้อมทำทุกอย่างให้
พร้อมรูปถ่ายและวีดีโอรายงานผล เห็นทุกสิ่งเหมือนไปตักด้วยตัวเอง เหลือแค่ตื่นมากรวดน้ำ 

ถ้าตื่นเองได้ ไปตักเองดีที่สุด
แต่ถ้าไม่สะดวกตื่น ทักค่อฟฟฟฟฟฟ !!!!

????ราคา : ชุดละ99บาท???? 
(อาหาร1อย่าง+ข้าวสวย+ขนม+น้ำ)
* เพิ่มดอกไม้ชุดละ9บาท เป็นชุดละ108บาท 
** ไม่มีขั้นต่ำ หนึ่งชุดก็รับ
*** แพคเกจ​ 3​ วัน​ 5​ วัน​ 10​ วันได้หมดค้าาา


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=190101016208436&id=100362425182296
 

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ปี​ 2564 ให้ยึดหลักขันติธรรม

เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่คติธรรม สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันมาฆบูชา 26 กุมภาพันธ์ 2564 ความว่า... 



เนื่องในวันมาฆบูชา 26 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า 

“ดิถีมาฆบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ดิถีเช่นนี้ชวนให้พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าน้อมระลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันมีหลักการสำคัญเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง 2. การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม และ 3. การชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ประทานแก่พระอรหันตสาวก 1,250 รูป ซึ่งล้วนอุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ ดิถีเพ็ญเดือน 3 เมื่อกว่า 2,600 ปีล่วงมาแล้ว อย่างไรก็ดี หากปีใดเป็นปีอธิกมาส วันมาฆบูชาจะตรงกับดิถีเพ็ญเดือน 4 ดังเช่นที่เกิดขึ้นปีนี้

สารัตถะประการหนึ่งในโอวาทปาติโมกข์นั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนหลักการแห่ง ‘ขันติธรรม’ เพื่อเป็นหลักเผยแผ่พระศาสนา และการดำรงตนของพุทธบริษัท ดังพระพุทธภาษิตที่ว่า ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา แปลว่า ‘ขันติ เป็นเครื่องเผาผลาญบาปธรรมอย่างยิ่ง’
‘ขันติ’ หมายถึง ‘ความอดทนอดกลั้น’ มีลักษณะ คือความข่ม มีรส คือความอดทนต่อสิ่งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ มีสภาพที่ปรากฏ คือความอดกลั้นหรือความไม่โกรธ มีพื้นฐานคือความเข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง

ทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกต่างมีสัญชาตญาณรักสุขเกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น และก็เป็นธรรมดาที่ทุกชีวิตจำต้องเผชิญความทุกข์โทมนัส สลับกับความสุขโสมนัส หมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เสมอ จะหาบุคคลผู้มิต้องประสบกับ ‘โลกธรรม 8’ กล่าวคือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข และทุกข์ ในโลกนี้ เป็นอันมิมีเลย ผู้ตระหนักรู้ในความจริงเช่นนี้ จึงพึงสั่งสมบ่มเพาะกำลังแห่งขันติไว้สำหรับใช้ระงับยับยั้ง และต้านทานโลกธรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในท่ามกลางวิกฤติการณ์ ซึ่งรุมเร้าเข้าสู่บ้านเมืองและโลกของเราทุกวันนี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อจะได้รักษาร่างกายและจิตใจให้ยังคงความผาสุก สามารถอดทนอดกลั้นต่อทุกขเวทนาทางกาย ถ้อยคำจาบจ้วงล่วงเกิน คำติฉินนินทาว่าร้าย และความเสื่อมลาภเสื่อมยศ ซึ่งหลงยึดถือไว้ว่าเป็นตัวเราของเราเสียได้ อย่างน้อยแม้จะเจ็บใจเพียงใด แต่ก็ไม่เผลอแสดงอาการหุนหันพลันแล่นออกมาทางกายหรือทางวาจาจนเสียกิริยาอาการอันดี

บุคคลผู้สามารถดำรงขันติธรรม คือความอดทนอดกลั้นไว้ได้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เสงี่ยมงดงาม ถือธรรมะเป็นใหญ่ กิเลสตัณหาไม่อาจทำอันตราย เมื่อเป็นได้ดังนี้แล้ว ย่อมประสบความสงบร่มเย็น ระงับความดิ้นรนทะยานอยาก การที่สามารถดับเพลิงทุกข์เป็นคราวๆ ได้ เสมือนว่าได้ถึงพระนิพพานเป็นคราวๆ เป็นบทพิสูจน์ให้พุทธบริษัทรู้เห็นตามความเป็นจริงว่า พระนิพพานมิใช่ธรรมะอันสุดเอื้อม

แม้ว่าพระนิพพานจริงๆ คือความดับเพลิงทุกข์ได้โดยสิ้นเชิงอาจยังอยู่ไกล แต่พระนิพพานในปัจจุบันคือความดับกิเลสตัณหา ซึ่งบังเกิดขึ้นครอบงำจิตใจในขณะนี้ จึงอาจใช้ ‘ขันติธรรม’ คือความอดทนอดกลั้นนี้เอง เป็นเครื่องช่วยระงับดับได้ แม้เพียงคราวหนึ่ง ๆ ก็ยังดี ไม่เกินความสามารถที่ทุกคนจะปฏิบัติและเข้าถึงได้ เพื่อความสงบร่มเย็นซึ่งพึงบังเกิดมีขึ้นแก่ตนและแก่สังคมส่วนรวม สมความปรารถนาอันดีงามของคนไทย ที่ต่างหวังใจมุ่งหมายจะได้ประสบสันติสุขด้วยกันทุกคน

ขอพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงดำรงมั่นคงอยู่ในโลกนี้ตลอดกาลนาน และขอพุทธบริษัททั้งหลาย จงพร้อมเพรียงกันศึกษาพระสัทธรรมนั้น เพื่อบรรลุถึงความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นสืบไป เทอญ


ที่มา: https://www.facebook.com/1739953572982206/posts/2751286205182266/
 

รฟม.เตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าสีส้มรอบใหม่ เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อประกอบการจัดทำร่างเอกสารยื่นข้อเสนอโครงการ (RFP) 1 มี.ค. นี้

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ที่ประชุมได้สอบถามถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานโยธาช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - บางขุนนนท์ และงานติดตั้งระบบเดินรถทั้งเส้นทางมีนบุรี - บางขุนนนท์ ซึ่ง รฟม.ได้ชี้แจงถึงเหตุผลของการยกเลิกประกวดราคา เพื่อต้องการเร่งรัดให้โครงการสามารถเปิดบริการตามเป้าหมาย 

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 1 มี.ค.นี้ รฟม.จะเริ่มดำเนินการเปิดประกวดราคารอบใหม่ โดยจะประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อประกอบการจัดทำร่างเอกสารยื่นข้อเสนอโครงการ (RFP) โดยจะรับฟังความคิดเห็นเป็นการทั่วไป ในประเด็นอาทิ เงื่อนไขประมูล การแบ่งซองประมูล รวมไปถึงการคำนวณคะแนนเพื่อพิจารณาข้อเสนอคควรเป็นอย่างไร โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็น 15 วัน หลังจากนั้นจะเปิดให้เอกชนเสนอความเห็นอีก 3 วัน 

ทั้งนี้เบื้องต้นประเมินว่ากระบวนการรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการจัดทำ RFP จะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ หากไม่มีปัญหาติดขัด คาดว่าจะสามารถประกาศขายซองข้อเสนอได้ภายในเดือน เม.ย.2564 เข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเสนอ แล้วเสร็จเพื่อเสนอผลประมูลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน ส.ค.นี้ โดยหากการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วเสร็จ รฟม.คาดว่าจะสามารถเร่งรัดให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้างทันทีภายในปีนี้ 

นายภคพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รฟม.ดำเนินการให้เช่าหรือให้สิทธิใดๆอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีพระนั่งเกล้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อรถ ราง เรือ รวมทั้งเป็นการพัฒนาท่าเรือพระนั่งเกล้าฯโดยจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1 เดือน 

"ส่วนรูปแบบการให้เอกชนลงทุนโครงการฯ ขอดูรายละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนว่าเป็นอย่างไร ขณะที่อายุสัญญาขึ้นอยู่กับเอกชนที่ให้ความสนใจ คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้ หลังจากนั้นจะเปิดให้บริการปลายเดือนเม.ย. - ต้นเดือน พ.ค.2564 หาก ครม.เห็นชอบในช่วงแรกจะเปิดให้บริการท่าเรือพระนั่งเกล้าไปก่อน หลังจากนั้นค่อยให้สิทธิเอกชนเข้ามาบริหารอาคารผู้โดยสารและพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อดำเนินการจัดทำสัญญาเช่าต่อไป"นายภคพงศ์ กล่าว 

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ดังกล่าว จำนวน 2,100 ตารางเมตร มูลค่า 33 ล้านบาท ประกอบด้วย ท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้าฯ และพื้นที่บริเวณไทรม้า ทั้งนี้ตามพรบ.รฟม. มาตรา 75 (6) กำหนดว่าการให้เช่าหรือให้สิทธิใดๆ ของโครงการที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท จำเป็นต้องเสนอให้ครม.เห็นชอบ 

ในส่วนของความคืบหน้าผลการเจรจาโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเหลือง ช่วงแยกรัชดา - ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ระหว่าง รฟม. กับบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนโดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) เป็นผู้รับสัมปทานให้ที่ประชุมรับทราบ เนื่องจากทาง EBM ได้ทำหนังสือถึง รฟม. โดยยืนยันชัดเจนว่า ไม่สามารถรับภาระค่าชดเชยรายได้จากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ตามที่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำหนังสือถึง รฟม. ขอให้เจรจากับ EBM 

"ที่ประชุมได้มอบหมายให้รฟม.ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องชดเชยเพิ่มเติมให้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดในครั้งถัดไป. เราต้องประมาณการในส่วนที่ต้องรับภาระค่าชดเชยตามที่ BEM เรียกร้อง เพื่อประกอบการพิจารณา ส่วนจะมีการเจรจาเพิ่มเติมกับ EBM หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติบอร์ดรฟม.เป็นผู้พิจารณา" นายภคพงศ กล่าว 

สำหรับความคืบหน้าทำทางเชื่อมระหว่างสถานีกลางบางซื่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ​ (สายสีแดง) โดยภายในเดือน มีนาคม นี้จะมีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ซึ่งเป็นการทุบทางเชื่อม​ 2 จุด จุดละ 10 ล้านบาท รวม 20 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้  โดยรฟม.จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายก่อน จากนั้น รฟท. จะจัดหางบประมาณมาชำระคืนภายหลัง 

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับการก่อสร้างและเจาะกำแพงเชื่อมต่อโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน และแล้วเสร็จทันต่อการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน มีกำหนดจะเปิดรอบปฐมฤกษ์ วันที่ 26 มี.ค. 64 ให้ประชาชนร่วมใช้บริการเป็นบางสถานีเป็นรอบ จากนั้นจะทดสอบเดินรถเสมือนจริง (trail run) และเปิดทดลองใช้ฟรี วันที่ 28 ก.ค.ถึงปลายเดือน พ.ย.64 
 

ลุงกำนันพร้อมแกนนำกปปส.รอดนอนคุก​ หลังศาลมีคำสั่งพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 8 คนได้ ชี้ที่ผ่านมาในศาลชั้นต้น จำเลยทุกคนไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ลุงกำนันพร้อมแกนนำกปปส.รอดนอนคุก​ หลังศาลมีคำสั่งพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 8 คนได้ ชี้ที่ผ่านมาในศาลชั้นต้น จำเลยทุกคนไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

26 ก.พ. เวลา 9.15 น.ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังขึ้นฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ในกรณีที่ทางทนายขอยื่นประกันตัวชั่วคราวกับนายสุเทพ และพวกแกนนำ กปปส.รวม​ 8 คน 

นายสวัสดิ์ กล่าวว่า​ ศาลมีคำสั่งพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 8 คนได้ เพราะที่ผ่านมาในศาลชั้นต้น จำเลยทุกคนไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและเคยได้รับการประกันตัว​ ซึ่งเงื่อนไขที่เพิ่มเติม คือราคาประกัน ที่เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต จากที่ศาลชั้นต้นตีราคาประกัน 600,000 บาท 

หลังจากนี้ศาลอาญาจะมีการออกหมายปล่อยตัวหลังจากที่มีการวางเงินประกันเพิ่มซึ่งทางราชทัณฑ์ก็จะมีการถือหมายการปล่อยตัวไปที่เรือนจำตามขั้นตอนต่อไป

สุดท้ายนายสวัสดิ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ศาลมีคำสั่งให้มีการประกันตัวชั่วคราว ขอขอบคุณพี่น้องที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top