Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

รพ.ศิริราช เผยความคืบหน้าอาการ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ล่าสุด สามารถลุกเดินเองได้ โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์ การหายใจ พูดจา ทานอาหาร เข้าสู่ภาวะปกติ สามารถตักอาหารทานเองได้ เตรียมตรวจภูมิคุ้มกันอีก 1 - 2 วัน

วันนี้ (1 มีนาคม 2564) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงความคืบหน้าอาการป่วยของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ผ่านระบบ Zoom โดยระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งวันหยุดที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้ว่าฯ ลุกเดินแล้ว โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ทำกายภาพเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะขา พบว่าเดินได้ดี ยิ่งเดินมาก ก็ยิ่งจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้เร็ว การพูดจาปกติ การทานอาหารเข้าสู่ภาวะปกติ มือตักอาหารทานข้าวได้เอง

“สำหรับการออกจากโรงพยาบาลกลับไปยัง จ.สมุทรสาคร จะปรึกษากันอีกครั้งว่า หากมีคนสามารถดูแลการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อที่สมุทรสาครได้ ท่านก็พร้อมและสามารถกลับได้ แต่หากจะอยู่ที่นี่ให้นักกายภาพช่วยพัฒนาความแข็งแรงอีกระยะก็ทำได้ แต่ตอนนี้เข้าสู่ระยะฟื้นตัวปกติ หายใจอากาศปกติ โดยจะเจาะเลือดดูภูมิคุ้มกันอีก 1 - 2 วัน แต่แม้ภูมิจะขึ้น ก็ยังต้องใส่หน้ากากเว้นระยะห่าง”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้เข้าสู่ระยะพักฟื้น เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ เพราะตอนนี้ผ่านพ้นระยะวิกฤติเรียบร้อยแล้ว หากกลับไปจะทำงานก็ทำได้ เพราะตอนนี้ทำงานที่บ้านได้ มือ แขน ทำงานได้ปกติ และตอนนี้เป็นจังหวะที่สมุทรสาครการติดเชื้อใหม่น้อยลง เป็นจังหวะดีที่อาจจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

"ส่วนการรับวัคซีน ตอนนี้รอดูผลการตรวจภูมิคุ้มกัน หากตอนนี้ภูมิสูงมาก วัคซีนอาจจะไม่จำเป็นเพราะภูมิคุ้มกันสูง สามารถรอไปก่อนได้ เพราะตอนนี้ ทั่วโลกยังไม่รู้ว่าคนที่ติดเชื้อและมีภูมิคุ้มกันสูง ภูมิจะอยู่ได้กี่เดือน จากการวิจัย สำนักงานสาธารณสุขในอังกฤษ (Public Health England: PHE) ที่ผ่านมา พบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ได้ 7 เดือน แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่า 8 - 9 เดือนหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร"

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/925060

สหราชอาณาจักร (UK) เร่งฉีดวัคซีนสัปดาห์ละ 3 ล้านคน กลุ่มคนอายุ 40 ขึ้นไปในยูเค จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะได้คิวรับวัคซีนป้องกันโควิด หลังจากกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนภายในวันที่ 15 เมษายนนี้

โดยใช้เกณฑ์อายุเป็นหลัก ไม่ใช่อาชีพ ที่จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญต่อไปในแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในระยะที่สอง

การฉีดวัคซีนตามลำดับอายุเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการลดการเสียชีวิตจากโควิด -19 ในระยะถัดไป ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษารัฐบาล สหราชอาณาจักร กล่าว

คนอายุ 40 ขึ้นไปจะเป็นกลุ่มต่อไป เมื่อการฉีดแผนปัจจุบันเสร็จ

การจัดลำดับความสำคัญตามอาชีพจะ "ซับซ้อนมากขึ้น" และอาจทำให้โปรแกรมการฉีดวัคซีนช้าลงได้ คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรคกล่าว

ทั้ง 4 ประเทศของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, เวลส์, สก๊อตแลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ) จะปฏิบัติตามแนวทางนี้โดยมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้กับทุกคนทั้งหมดภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

จนถึงขณะนี้มีคนมากกว่า 20 ล้านคนในสหราชอาณาจักรที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว

บุคคลอาชีพ ครูและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหนึ่งในผู้ที่รณรงค์ให้มีการจัดลำดับความสำคัญในระยะต่อไป - แต่ตอนนี้พวกเขาจะได้รับการฉีดวัคซีนตามกลุ่มอายุ

คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (JCVI) ได้พิจารณาถึงหลักฐานในการลดการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโควิด -19 ในระยะที่สองของโครงการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรกล่าวว่าการจัดลำดับความสำคัญทางอาชีพ อาจทำให้กลุ่มเปราะบาง บางคนต้องรอการฉีดวัคซีนเข็มแรกนานขึ้น

JCVI กล่าวว่า ควรจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มต่อไปนี้เมื่อกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดในระยะที่หนึ่งได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มฉีดไปแล้ว (ภายในกลางเดือนเมษายน): คิวกลุ่มถัดไปคือ

- ทุกคนที่มีอายุ 40 - 49 ปี

- ทุกคนที่มีอายุ 30 - 39 ปี

- ทุกคนที่มีอายุ 18 - 29 ปี

และขอแนะนำ ให้บุคคลบางกลุ่มมารับวัคซีนทันทีเมื่อถึงคิว กลุ่มเหล่านี้คือ :

- ผู้ชาย

- ผู้ที่อยู่ในชุมชนคนผิวสี, เอเชีย และ ชนกลุ่มน้อย (หมายถึงคนไทยทุกคนในสหราชอาณาจักร)

- ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30

- ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านที่ยากจน

ในระยะที่หนึ่งมีการกำหนดกลุ่มลำดับความสำคัญ 9 กลุ่มตามอายุและสภาวะสุขภาพพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มความเสี่ยง รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพและการดูแล เพื่อปกป้องคนที่เปราะบางที่พวกเขาดูแล

การฉีดวัคซีนกลุ่มเหล่านี้น่าจะป้องกันได้ประมาณ 99% แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจาก Covid-19 มากที่สุด

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด 4 อันดับแรก - ราว 15 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ มากกว่า 95% ของผู้ที่มีอายุเกิน 70 ปีที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทุกสัปดาห์ จำนวนสัปดาห์ละสามล้านคนในสหราชอาณาจักรด้วยวัคซีน ไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) หรือไม่ก็ ของ อ็อกซ์ฟอร์ด-เอสด้าเซนเนก้า (Oxford-AstraZeneca)

การวิจัยเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า วัคซีนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการป้องกันโรคร้ายแรงจาก Covid-19 ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้บางประการที่อาจลดการแพร่กระจายของไวรัสระหว่างคนได้


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3863670853671897&id=178210772217942

https://www.bbc.com/news/health-56208674

‘บิ๊กตู่’ แจงเจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการตามมาตรฐานสากล หลังม็อบใช้ความรุนแรงก่อน วอนสื่อนึกถึงบ้านเมืองนำเสนอข่าวสองทาง ลั่นไม่ว่าประชาธิปไตยแบบไหนก็ต้องมีกฎหมาย ยันไม่ละเมิดผู้ชุมนุม แต่ถ้าใครละเมิดกฎหมายต้องดำเนินการ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่บริเวณหน้าบ้านพักวานนี้( 28 ก.พ.) มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นว่า สื่อก็เห็นแล้วว่าเป็นความรุนแรง ดังนั้นต้องเสนอข่าวทั้งสองทางไม่ใช่บางสื่อเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเพียงข้างเดียว แต่ภาพอีกฝ่ายกลับไม่นำมาออกเลย แบบนี้ตนว่าบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ จึงขอร้องสื่อทุกสื่อด้วย ซึ่งตนก็ได้ติดตามอยู่

"ผมก็ติดตามอยู่ว่าทำไมออกข่าวข้างเดียวว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ท่านไม่ดูก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุมมีความรุนแรงเกิดขึ้น แรกๆก็โอเคเป็นไปตามปกติของเขา ท่านก็รู้อยู่แล้วเขาพูดจาอะไรก็เป็นเรื่องที่เขาทำถูกทำผิดก็ไปว่ากันมาตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นและมีการรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ รุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่หวงห้าม และมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตามมาตรฐานสากลออกไป ซึ่งถ้าเราไม่ทำแบบนี้มันจะอยู่กันยังไงประเทศชาติบ้านเมือง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า "ทั้งนี้ขอให้ทุกคนรวมทั้งสื่อต่าง ๆ ยึดถือบ้านเมืองเป็นหลัก ซึ่งตนจะไปบังคับไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอร้องว่าทำอย่างไรให้บ้านเมืองของเรามีความสงบและเคารพกฎหมาย เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมืองแค่นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบใดก็ตามต้องมีกฎหมายเพียงแค่นั้น ขณะเดียวกันก็มีการปฏิบัติดูแลคุ้มครองสิทธิในการสู้คดีอะไรต่าง ๆ โดยยืนยันว่าไม่ได้ละเมิดอะไรผู้ชุมนุม

แต่หากผู้ชุมนุมละเมิดกฎหมายก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ดังนั้นขอให้เห็นใจต้องให้พี่ตำรวจบ้างที่ทำงานหนัก อดทนและยังได้รับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจนทำให้บาดเจ็บเสียหาย ซึ่งการทำลายข้าวของและทรัพย์สินราชการทำได้หรือไม่ หากเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ว่ากันไปซึ่งการชุมนุมสงบหรือไม่สงบกฎหมายจะเป็นตัวตัดสินอยู่แล้ว"

“บิ๊กป้อม” เสียใจตำรวจควบคุมฝูงชน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ม็อบ REDEM ยันยังไม่ถึงขั้นให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมยังให้เป็นหน้าที่ของ ตร.จัดการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มมวลชม REDEM ที่เกิดความวุ่นวายถึงขั้นการจราจร ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต ซึ่งต้องเสียใจกับทางครอบครัวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาก็ตั้งใจทำงาน แต่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้สูญเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถึง 16 คน

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์เจ้าหน้าที่ถึงขั้นต้องใช้กระสุนยางเข้าดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการชี้แจงแล้ว ซึ่งก็เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นปัญหาอยู่ที่ว่าไม่ปรากฏแกนนำ รองนายกฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า “แล้วผมจะทำอย่างไรได้ ก็เขาว่าเขาไม่มีแกนนำ”

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการเด็ดขาดหรือสลายการชุมนุมหากมีบุคคลใดสร้างเงื่อนไขสถานการณ์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาว่ามาตรการต่าง ๆ ตามขั้นตอน แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ

เมืองพัทยา เดินหน้าพัฒนาสู่ Smart City อย่างสมบูรณ์แบบ ผุด LINE@PATTAYA CONNECT 'เชื่อมคุณภาพชีวิต สร้างพัทยาให้น่าอยู่' เสิร์ฟข้อมูล พร้อมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวครบวงจร

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา จ.ชลบุรี นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดตัว LINE@PATTAYA CONNECT ภายใต้แนวคิด เชื่อมคุณภาพชีวิต สร้างพัทยาให้น่าอยู่ ช่องทางการสื่อสารโซเชียลเน็ตเวิร์กโฉมใหม่ ให้บริการข้อมูลข่าวสารเมืองพัทยาอย่างครบวงจร

สำหรับ LINE@PATTAYA CONNECT เป็นไลน์แอด ที่ทางเมืองพัทยาได้นำเอาบริการที่หลากหลาย มาให้กับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองพัทยา โดยได้มีการรวบรวมฟังก์ชั่น 6 ฟังก์ชั่น อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย

1.) งานจราจรที่สามารถแจ้งผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจัดงาน หรืองานก่อสร้างทาง การศึกษา ที่มีคลิปความรู้ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เหมาะกับทุกกลุ่มอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวัยเกษียณ

2.) การนัดหมายโรงพยาบาลที่สามารถร่นระยะเวลาในการติดต่อรอพบแพทย์

3.) การร้องเรียนและร้องทุกข์ ทีประชาชนสามารถพิมพ์เรื่องร้องเรียนพร้อมถ่ายรูปและแชร์โลเกชั่นได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้เมืองพัทยาดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

4.) การท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว การเดินทางภายในเมืองและระหว่างเมือง

5.) รวมถึงผู้ประกอบการในเมืองพัทยาก็ยังสามารถใช้แอปเพื่อให้ทางเมืองพัทยาได้โปรโมตสินค้าและบริการได้

และ 6.) ฟังก์ชั่นสุดท้าย คือ ระบบข้อมูลราชการที่จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อราชการมาให้ผู้ที่ใช้งาน ได้อ่านกันง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยทั้ง 6 ฟังก์ชั่นได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกกลุ่มและทุกสาขาอาชีพ เพื่อเป็นหนึ่งในการผลักดันให้เมืองพัทยาก้าวสู่ Smart City อย่างสมบูรณ์แบบ เปิดให้ทุกคนสามารถแอดเฟรนด์กันได้แล้วผ่านทางไลน์แอพพลิเคชั่น


ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) ถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยระบุว่า .....

ผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้ประชาชนออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เขาต้องการกดขี่ประชาชนไว้เพื่อรักษาอำนาจของตนเองต่อไป - รัฐบาลที่ไม่สามารถดำรงไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน หนำซ้ำก่อความรุนแรงกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ ย่อมเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว #ม็อบ28กุมภา

‘ข้าวไทย’ เป็นสินค้าส่งออกของประเทศมายาวนาน แต่หากจะสืบย้อนกลับไป ว่าเมืองไทยเริ่มมีการพัฒนา ‘พันธุ์ข้าว’ อย่างจริงจังเมื่อไร เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2450 หรือวันนี้เมื่อ 114 ปีที่แล้วนี่เอง

ตามประวัติศาสตร์ ประเทศไทยมีการศึกสงครามมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา มาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมเวลากว่า 550 ปี จนเมื่อเข้าสู่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ

โดยสินค้าส่งออกชนิดหนึ่งที่มีการค้าขายจนกลายเป็นของสำคัญ นั่นคือ ข้าว ทว่า ‘ข้าวไทย’ ในยุคสมัยดังกล่าว มีเมล็ดพันธุ์ที่ปะปนกันอยู่มากมาย ทั้งข้าวพันธ์ดีไปจนถึงพันธ์คุณภาพต่ำ ส่งผลให้มีราคาต่ำกว่าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน

ด้วยเหตุนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 5 จึงทรงโปรดให้มีการประกวดพันธุ์ข้าวขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่เมืองธัญบุรี (รังสิตในปัจจุบัน) มีชาวนาส่งข้าวเข้าประกวดถึง 324 ราย รวมข้าวได้ 165 พันธุ์ ซึ่งข้าวที่ได้รับรางวัลที่ 1 มีชื่อว่า ‘ข้าวปิ่นทอง’

จากการประกวดในครั้งนั้น ทำให้มีการจัดแบ่งพันธุ์ข้าวอย่างมีมาตรฐานยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจึงมีการประกวดพันธุ์ข้าวเรื่อยมา โดยนอกจากจะเป็นการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปแล้ว ภายหลังยังมีการแจกจ่ายขยายพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี เพื่อให้ประชาชนได้นำไปปลูกต่อไป รวมทั้งยังได้ตั้งพันธุ์ข้าวมาตรฐานเอาไว้ด้วยกัน 8 พันธุ์ ได้แก่ พวงเงิน ขาวทดลอง ทองระย้าดำ จำปาซ้อน ปิ่นแก้ว บางพระ น้ำดอกไม้ และนางตานี ซึ่งต่อมายังได้มีพันธุ์ข้าวอื่น ๆ เกิดขึ้นจากสถานีพันธุ์ข้าว และวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน


ที่มา:

http://brrd.ricethailand.go.th/index.php/2016-07-15-05-29-43/136-2017-05-04-02-32-02

http://www.thairiceexporters.or.th/features/Thai%20rice%20center%20of%20modern%20rice%20varieties.htm

นักท่องเที่ยวบ่ย่านอากาศร้อนขึ้นบันได 1,049 ชั้น กราบนมัสการหลวงปู่ขาว และรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาภูพานคำขอนแก่น พร้อมชมทิวทัศน์บนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนอุบลรัตน์ที่สวยงาม

นักท่องเที่ยวบ่ย่านอากาศร้อนขึ้นบันได 1,049 ชั้น กราบนมัสการหลวงปู่ขาวและรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาภูพานคำขอนแก่น พร้อมชมทิวทัศน์บนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนอุบลรัตน์ที่สวยงาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั้ง จ.ขอนแก่น และ จากจังหวัดใกล้เคียง ต่างพากันเดินทางมาที่วัดพระพุทธบาทภูพานคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่ขาวและรอยพระพุทธบาท เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน โดยทุกคนต่างพากันเดินขึ้นบันไดที่สูงถึง 1,049 ขั้น เพื่อทดสอบกำลังร่างกาย แม้สภาพอากาศวันนี้จะร้อนจัดก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาไม่ขาดสาย

ซึ่งบนยอดเขาภูพานคำ ภายในวัดพระพุทธบาทภูพานคำนั้น มีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน โดยภายใต้ฐานพระพุทธรูปเป็นพระอุโบสถสำหรับการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปทำบุญ ถวายสังฆทานและกราบสักการะพระพุทธรูปเพื่อขอพรและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกันนอกจากจะได้กราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์แล้ว หลายคนอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นเขื่อนอุบลรัตน์อย่างสวยงามอีกด้วย

สำหรับพระพุทธบาทภูพานคำตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานคำ อ.อุบลรัตน์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และ หลวงพ่อพระใหญ่ หรือพระพุทธอุตรมหามงคลอุบลรัตน์เป็นองค์พระคอนกรีต เสริมเหล็ก สีขาว อยู่บนฐานดอกบัวสีชมพู ความสูงขององค์พระ 14 เมตร โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พศ. 2514 ปัจจุบันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวขอนแก่นให้ความเคารพนับถือและกราบขอพรทุกวัน

‘พุทธิพงษ์’ โพสต์ภาพกราบพ่อ แม่ พร้อมระบายผ่านข้อความ ระบุ หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา แต่ย้ำว่าไม่เสียใจในสิ่งที่ทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา

#หมดแรงหมดใจหมดศรัทธา

#พุทธิพงษ์โพสต์ภาพกราบพ่อแม่

#พ้อสิ่งที่ทำมันไร้ค่าไร้ราคาสิ้นดี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความ ว่า

“หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา เพราะสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ไร้ราคาสิ้นดี?...”

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา วันนี้คงได้เวลากลับไปดูแลคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว ลูกๆ...ขอบคุณในทุกๆกำลังใจที่มีให้ผมมาโดยตลอด จากนี้จะมีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง มองไปข้างหน้า ไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำ เพราะเราทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา เราจะทำหน้าที่ประชาชนที่ดีต่อไปด้วยความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ภูมิใจที่สุดที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยของพระองค์

#เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน


ที่มา : เพจ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ https://www.facebook.com/BeePunnakanta/photos/pcb.2092035407594733/2092035354261405


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top