Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู สร้างกิโยตินตัดคอตัวเองเสียชีวิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เพราะเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้ได้เป็นพระปักเจกพระพุทธเจ้าในโลกหน้า

ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการเดินทางเข้าพบ 'พระราชธรรมนิเทศ' หรือ 'พระพยอม กัลยาโน' เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อทำความเข้าใจถึงกรณีดังกล่าว...

โดยพระพยอม ได้เปิดเผยว่า ไม่มีคำว่าตัดหัวถวายเป็นบารมี ถ้าตัดกิเลสตัดทุกข์ ตัดความเห็นผิด ก็ไม่ใช่ทางที่พระพุทธเจ้าตรัส เเละเรื่องการค่าตัวตายไม่ใช่มีในยุคนี้ ยุคก่อน ๆ ก็มี

พุทธเจ้าสอนให้ละสังขาร ละความยึดมั่นในสังขาร แต่ 'ตัดคอ' ตัดกิเลสตัดทุกข์ คือ คนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกัน ถ้าปนกันแล้วก็เป็นอีกลัทธินึง

ถ้าถามว่า การทำเเบบนี้เป็นพุทธบูชาไหม บูชามี 2 อย่าง 'อมิสบูชา' กับ 'ปฏิบัติบูชา' ถ้าเอาหัวไปบูชาน่าจะเข้าข้อ อมิสบูชา แต่ถ้าปฏิบัติบูชาอย่างหลวงปู่มั่นเอาชีวิตเข้าแรก ปฏิบัติให้ตายแล้วได้เป็นพระอรหันต์ อย่างนี้เรียกว่าเป็นการปฏิบัติบูชา

อย่างนี้เป็นการดูถูกพระพุทธเจ้าหรือไม่ที่นำหัวคนมาถวาย เพราะพระพุทธเจ้าไม่มีทางรับหัวคน ถ้ามีใครตัดคอลูกตัดคอเมียมาถวายพระพยอม ก็รับไม่ได้ เเละไม่รับเด็ดขาด เพราะเป็นหัวคน ชีวิตคนทั้งคน

พระพุทธเจ้าไม่ใช่ไสยเวทไสยศาสตร์ ที่จะนำหัวคนมาปลุกเสก พระพุทธเจ้ารับปัจจัย 4 อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, เสื้อผ้า, กุฏิที่อยู่อาศัย, ยารักษาโรค ไม่เห็นมีว่าเอาหัวคนเป็นปัจจัยที่ 5-6

อยากจะฝากสาวกคนที่เลื่อมใสศรัทธา-ความเชื่อ การเชื่อครูบาอาจารย์ เราจะเชื่อได้ แต่ไม่ใช่การเชื่อทางสอนที่จูงไปในทางผิด ถ้าจะบำเพ็ญบารมี ควรทำบารมี 10 ทรรศ แต่ตัดหัวนี่ไม่ใช่แน่นอน


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000036770

รมว.สุชาติ รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์นำไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อป้องกันโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ จากบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อนำไปส่งมอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานนำไปใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในการป้องกันโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับมอบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อสำหรับหน่วยงานจาก นายอภิชาติ พัชรภิญโญพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นโรงงานผลิตเอทิล แอลกอฮอล์ชนิด 95 % มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 กว่า 29 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือของคนไทยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 

นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ผมได้รับมอบผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดฆ่าเชื้อสำหรับหน่วยงานจากกรรมการผู้จัดการบริษัท พรวิไล อินเตอร์เนชั่นแนล กรุพ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท วิจิตรสมพรพาณิชย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐมเป็นผู้ประสานงานนำมามอบให้กับกระทรวงแรงงานเพื่อนำไปส่งมอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานนำไปใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในการป้องกันโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย 1) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 5 ลิตร จำนวน 200 แกลลอน (ปริมาณ 1000 ลิตร) 2) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 50 ml จำนวน 300 ขวด (ปริมาณ 15 ลิตร) และ 3) แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 78 % ขนาด 20 ml จำนวน 200 ตลับ (ปริมาณ 4 ลิตร)

หนุ่มส่งของเดลิเวอรี่เซ็ง ถูกพิตบูลลูกค้ากัดระหว่างไปส่งอาหาร ด้านเจ้าของชดใช้แค่ 100 บาท พร้อมบอกจะติดต่อมาใหม่ แต่สุดท้ายหายเงียบ

เป็นอีกปัญหาซ้ำซากในสังคมไทย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่เป็นพนักงานส่งของได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อทำการส่งอาหารที่บ้านหลังหนึ่ง แต่กลับถูกสุนัขพิตบูลของลูกค้ากัดเข้าที่บริเวณข้อเท้าซ้ายเป็นแผล 2 จุด ซึ่งเจ้าของสุนัข ชดใช้ให้เบื้องต้นเพียง 100 บาท และบอกว่าจะติดต่อกลับมาใหม่ แต่สุดท้ายยังไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐานผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์

โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา ม.377 และอาจต้องชดใช้ในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์จากการทำงาน หรือ ขาดรายได้ ตาม ป.แพ่งและพาณิชย์ ม.443


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000036751

https://www.facebook.com/groups/862974280826865/permalink/1222445311546425/

เพจ Street Hero Project ไขข้อข้องใจ ทำไมอิสราเอลฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม 70% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่มีการฉีดให้ประชากรสูงที่สุดในโลก โดยระบุว่า...

ทำไมอิสราเอลถึงฉีดวัคซีนได้ถึง 70% เป็นประเทศแรกของโลก เอาข้อมูลมาให้วิเคราะห์กัน

1.) อิสราเอลยอมจ่ายค่าวัคซีนล่วงหน้าให้บริษัทผู้ผลิตในราคาที่แพงกว่าที่สหรัฐฯ และยุโรปซื้อมากกว่า 35%

เฉลี่ย 1 คน ใช้เงิน 47 us แต่ยุโรปใช้เงิน 35 us (วัคซีนของ Pfizer และ Moderna)

2.) พื้นที่ประเทศขนาด 2 หมื่น ตร.กม. (เล็กกว่าโคราชเล็กน้อย) ประชากร 8.66 ล้านคน ทำให้ใช้งบประมาณและจำนวนวัคซีนไม่เยอะ ใช้เวลาฉีดวัคซีนรวมกว่า 100 วัน

3.) ปัจจุบันอิสราเอลมีผู้ติดเชื้อสะสม 8 แสนกว่าคน เสียชีวิต 6 พันกว่าคน และผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 2 ร้อยกว่าคน

#ข้อมูลเสริม

อันดับ 2-3 ของโลก คือ อังกฤษที่ 48% และสหรัฐฯ ที่ 40% ทั้งสองคือประเทศที่วิจัยและผลิตวัคซีนได้เอง

ในเอเชีย สิงคโปร์เป็นชาติแรกที่ได้วัคซีนโดยจ่ายเงินล่วงหน้าในราคาที่แพงกว่าประเทศในเอเชียด้วยกัน

ปัจจุบันสิงคโปร์ฉีดวัคซีนได้ที่ 20% เกาหลีใต้ 3% ญี่ปุ่น 0.9% ไทย 0.7% เวียดนาม 0.1%

พอจะได้คำตอบไหมครับ

https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/israel-said-to-be-a-leader-in-number-of-covid-related-fines/


ที่มา : https://www.facebook.com/838203756283643/posts/3525020537601938/

เป็นเรื่องราวที่แพร่หลายในสังคมของชาวเมียนมา สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึงคราวที่ประชาชนชาวเมียนมาได้รับวัคซีนบ้าง

เป็นเรื่องราวที่แพร่หลายในสังคมของชาวเมียนมา มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว สำหรับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีนโยบายมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนรัฐประหารว่า หากเหล่าผู้นำทางการเมืองและกองทัพ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และผู้ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ได้รับวัคซีนหมดแล้ว ก็จะถึงคราวที่ประชาชนชาวเมียนมาได้รับวัคซีนบ้าง

ความจริงการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวเมียนมา เป็นนโยบายต่อเนื่องเพื่อควบคุมโรคโควิดที่สานต่อเป็นวาระแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดการยึดอำนาจขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเลือกที่จะไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ถึงจะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ถูกอ้างมา เช่น กลัวความไม่ปลอดภัยของวัคซีน หรือไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศไม่จำเป็นต้องฉีดก็ดี หรือหลายคนบอกว่าก็เคยเป็นแล้วมีภูมิแล้วไม่อยากฉีด

แต่ก็มีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เชื่อและเอย่าคิดว่านี่คือสาเหตุหลักของคนไม่ฉีดวัคซีนคือการที่ยอมรับการฉีดวัคซีนเท่ากับการเห็นดีเห็นงามกับกองทัพ

การฉีดวัคซีน COVISHIELD เริ่มฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในเมียนมาก่อนตั้งแต่มกราคม 2021 ที่ผ่านมา

การฉีดวัคซีนในเมียนมาผู้เข้ารับการฉีดจะต้องทำการแสดงตนด้วยบัตรประชาชนพร้อมประวัติบิดา มารดา รวมถึงต้องเข้ารับการตรวจร่างกายก่อนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนว่าไม่มีความเสี่ยงในการฉีดวัคซีน ซึ่งเมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้วทางหน่วยงานที่ฉีดวัคซีนจะมีเอกสารออกให้เป็นภาษาเมียนมาว่าได้รับวัคซีนแล้ว

เอกสารที่ได้จากกระทรวงสาธารณสุขเมียนมาที่แจ้งว่าได้รับวัคซีนแล้ว

สำหรับคนเมียนมาที่มีโอกาสในครั้งนี้ แต่เลือกที่จะละทิ้ง เพราะคิดว่ากองทัพจะนำชื่อเหล่านี้ของพวกเขาไปอยู่ในลิสต์ของผู้สนับสนุนทหารตามที่กลุ่มประชาธิปไตยได้เรียกร้องนั้น พวกเขาหารู้ไม่ว่า กำลังเสียโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ หากเขาจะเดินทางไปประเทศอื่น

เพราะแค่นำเอกสารฉบับนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วให้กระทรวงการต่างประเทศเมียนมารับรอง ก็สามารถเดินทางไปประเทศอื่น ๆ ได้ และการที่เอกสารนี้ติดตัวไปสามารถการันตีได้ระดับหนึ่งดังที่ไทยได้มีประกาศออกมาแล้วว่าหากใครมีการฉีดวัคซีนจากต่างประเทศมาแล้วจะลดการกักตัวลงเหลือเพียง 7 วันเท่านั้น

สุดท้ายขึ้นกับคนเมียนมาเหล่านั้นจะคำนึงถึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้แล้วละเลยโอกาสที่จะได้แก่ตนหรือจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตนก่อนแล้วหาโอกาสกลับมาทำในสิ่งที่ตนต้องการทีหลัง


ที่มา: AYA IRRAWADEE

เป็นความเชื่อในคนเมียนมามาเนิ่นนานตาปีแล้วสำหรับวันแรกของปี หรือในภาษาพม่าออกเสียงว่า Hnit San Ta Yat Nay สะกดว่า 'หนิด แซน ตะ ยัด เนะ'​ (နှစ်ဆန်းတစ်ရက်နေ့) หมายถึงวันแรกของปี ซึ่งตรงกับทุกวันที่ 17 เมษายนของทุกปี

ในวันนี้ร้านค้าต่าง ๆ​ ในเมียนมาจะหยุดหมด​ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในตลาดหรือแผงลอย โดยในวันนี้คนเมียนมาจะทำแต่สิ่งดี อาทิเช่น ที่บ้านจะมีการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ส่วนผู้สูงอายุในบ้าน​ ก็จะมีบรรดาคนในบ้านมาคอยสระผมให้ผู้เฒ่าผู้แก่​ โดยใช้ 'ตะยอว์กินปุน'​ (Tha Yaw Kin Punn) ซึ่งเป็นแชมพูพื้นบ้านที่ทำมาจากเปลือกต้น Ta Yaw หรือ​ 'ต้นมาลัย'​ และ ผล Kin Punn หรือ 'ผลส้มป่อย'​ นั่นเอง ซึ่งเปลือกต้นมาลัยจะมีคุณสมบัติเป็นสารป้องกันการระคายเคือง​ ส่วนผลส้มป่อยจะมีสารกลุ่มซาโปนินหลายชนิด

นอกจากนี้​ คนในบ้านก็จะใช้ ตะยอว์กินปุน สระให้ตัวเองด้วย​ เพราะเชื่อว่าจะช่วยชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีและโชคร้าย​ รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ​ ที่ติดมาจากปีเก่าให้หมดไป

ในวันนี้สำหรับพุทธศาสนิกชนจะนำพระพุทธรูปมาทำความสะอาด และทำกับข้าวไปแจกเพื่อนบ้านรวมถึงไปยังวัดต่าง ๆ​ เพื่อถวายเพลแก่พระภิกษุสงฆ์ ส่วนในตอนค่ำจะมีการนิมนต์พระมาเทศนาธรรมและสวดมนต์ขับไล่สิ่งไม่ดีในปีเก่าให้หมดไป

ยิ่งไปกว่านั้น​ ในวันนี้ยังมีอีกหนึ่งความเชื่อแปลก ๆ​ คือ คนเมียนมาจะไม่ใช้เงินในวันนี้หรือใช้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพราะเชื่อกันว่าหากวันนี้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย​ จะ​ส่งผลให้ทั้งปีถึงจะมีเงินเข้ามาหาเงินได้ง่าย แต่เงินก็จะไม่อยู่กับเรา​ มีเท่าไร​ ก็จะมีเหตุให้ต้องเสียเงินออกไปง่ายๆตลอดทั้งปีนี้

สำหรับตัวเอย่าเอง​ ในวันนี้​ก็อยากจะขอให้เป็นวันเริ่มต้นที่ดี​ของเมียนมา​ ขอให้ความสงบเรียบร้อยเป็นปกติสุขกลับมา เพื่อให้ปีนี้ทั้งปีจะได้ไม่มีความวุ่นวายอีกต่อไป ขอให้ความสงบสุขกลับสู่เมียนมาโดยเร็ววัน


ที่มา: AYA IRRAWADEE

เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา หรือ Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของ CRPH ประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้น

เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา หรือ Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของ CRPH ประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้น โดยมีการประกาศรายชื่อประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ออกมา ซึ่งปรากฎชื่อของ U Win Myint และ Aung San Suu Kyi ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีและที่ปรึกษาแห่งรัฐ 

ในประกาศครั้งนี้มีการประกาศกระทรวงใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ดังนี้กระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศ (Ministry of International Cooperation) กระทรวงกิจการสหภาพของรัฐบาลกลาง (Ministry of Federal Union Affairs) กระทรวงกิจการด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (Ministry of Humanitarian Affairs and Disaster Management) และกระทรวงกิจการสตรีเยาวชนและเด็ก (Ministry of Women, Youth and Child Affairs) ซึ่ง 1 ในเจ้าของเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นของ Dr. Sa Sa อดีตทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติซึ่งลี้ภัยอยู่ตอนนี้

จากนี้คงต้องดูนานาชาติแล้วว่า ประเทศใดจะเป็นชาติแรกที่ให้การรับรองรัฐบาลพลัดถิ่นของเมียนมา ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องที่ยังหาบทสรุปกันไม่ได้ง่าย ๆ ภายในวันสองวันนี้แน่นอน


ที่มา: AYA IRRAWADEE

เจ้าหน้าที่นครชิคาโกของสหรัฐฯ เปิดเผยคลิปซึ่งถ่ายจากกล้องบอดี้แคมขณะที่ตำรวจนายหนึ่งชักปืนยิงเด็กชายวัย 13 ปีเสียชีวิต ทั้งๆ ที่เหยื่อชูมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางดึกเมื่อราวๆ 2 สัปดาห์ก่อน

คลิปความยาว 9 นาทีจากกล้องติดตัวของ อีริค สติลล์แมน ตำรวจวัย 34 ปี เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่เขาลงจากรถและวิ่งไล่ตาม อดัม โทเลโด เด็กชายวัย 13 ปีในซอยแห่งหนึ่ง เมื่อเวลาประมาณ 2.30 น. ของวันที่ 29 มี.ค. โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ย่านลิตเติลวิลเลจทางตะวันตกของชิคาโก ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชาวเม็กซิกันอาศัยอยู่มาก

จากคลิปดังกล่าวพบว่า สติลล์แมน ตะโกนบอกอีกฝ่ายให้ “หยุด” ก่อนจะไล่ตามทันและสั่งให้เด็กชายโชว์มือทั้งสองข้าง แต่ในขณะที่ โทเลโด กำลังยกมือขึ้น ตำรวจนายนี้ก็ลั่นกระสุนใส่ทันที 1 นัดจนเด็กชายทรุดลงไปกองกับพื้น

สติลล์แมน ได้ร้องตะโกนขึ้นว่า “มีการยิง มีการยิง ช่วยตามรถพยาบาลที” จากนั้นก็พูดว่า “อยู่กับผม อยู่กับผม ใครก็ได้ไปเอาชุดปฐมพยาบาลมาเดี๋ยวนี้เลย”

สำนักงานตำรวจชิคาโกได้ออกคำแถลงทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นว่า โทเลโด มีปืนอยู่ในมือ

การเผยแพร่คลิปนี้คาดว่าจะยิ่งกระพือความไม่พอใจต่อพฤติกรรมการทำงานของตำรวจ ตลอดจนกระบวนการยุติธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเชื้อชาติในสหรัฐฯ ตามหลังกรณีตำรวจหญิงในรัฐมินนิโซตายิงชายผิวดำเสียชีวิตหลังเรียกให้หยุดรถเนื่องจากทำผิดกฎจราจรเมื่อไม่กี่วันก่อน

สำนักงานตรวจสอบการทำงานของตำรวจ (Civilian Office of Police Accountability) ในนครชิคาโกยังได้เผยแพร่ไฟล์ข้อมูลอีก 33 ไฟล์ ซึ่งรวมถึงคลิปวิดีโอจากกล้องบอดี้แคมของตำรวจคนอื่นๆ, ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มี.ค. โดยเอกสารฉบับหนึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า สติลล์แมน คือตำรวจที่ลั่นกระสุนใส่ โทเลโด

ทางด้านสำนักงานตำรวจชิคาโกก็ได้โพสต์คลิปอันเดียวกันลงบนเว็บไซต์เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) และใส่ลูกศรชี้ไปที่วัตถุซึ่งดูคล้ายปืนพกในมือขวาของ โทเลโด ก่อนที่ สติลล์แมน จะลั่นไก

ในนาทีที่ 5.30 สติลล์แมน ได้ฉายไฟไปยังปืนพกซึ่งตกอยู่บนพื้นห่างออกไปไม่กี่ฟุตจากจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามทำ CPR เพื่อยื้อชีวิตเด็กชาย

อาดีนา ไวส์ ออร์ทิซ ทนายของครอบครัวโทเลโด แถลงต่อสื่อมวลชนหลังมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอว่า ผู้ตายได้ปฏิบัติตามคำสั่งของ สติลล์แมน ด้วยการทิ้งปืนและหันหน้ามา ก่อนที่ตำรวจนายนี้จะยิงเขา

“ฉันไม่ทราบว่าตำรวจมีเวลามากพอหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือตำรวจย่อมได้รับการฝึกมาว่าห้ามยิงคนที่ไม่มีอาวุธ” ทนายกล่าว

ตำรวจชิคาโกระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้ออกปฏิบัติภารกิจตามจับ โทเลโด และชายวัย 21 ปีอีกคนหนึ่ง หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเสียงปืนดังขึ้น 8 นัด โดยชายอีกคนก็ถูกจับกุมแล้ว

เจ้าหน้าที่ชิคาโกและครอบครัวของโทเลโด ต่างเรียกร้องให้สาธารณชนอยู่ในความสงบ ขณะที่ทางการก็ได้เตรียมพร้อมรับมือเหตุจลาจลที่อาจเกิดขึ้น โดยจะมีการเสริมกำลังตำรวจและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อปกป้องภาคธุรกิจในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรง


ที่มา: รอยเตอร์ https://mgronline.com/around/detail/9640000036041

'พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์’ นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล ตบเท้าเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว ด้าน ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ ระบุ การฉีดวัคซีนดีกว่าไม่ฉีด ช่วยรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมย้ำรัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนให้เร็วและหลากหลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งทางแอปพลิเคชันไลน์ถึง ส.ส. เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ส.ส.ที่มีความประสงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถไปรับการฉีดวัคซีนได้ที่ สถาบันบำราศนราดูร ห้องประชุมอัจฉรา วันที่ 16-30 เม.ย. เวลา 09.00-16.00 น.ในวันเวลาราชการ สำหรับ ส.ส. ท่านใดที่อยู่ในระหว่างการกักตัว สามารถรับบริการได้หลังจากที่ครบกำหนดการกักตัวแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ห้องประชุมอัจฉรา สถาบันบำราศนราดูร นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ นายสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ นายวุฒินันท์ บุญชู นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ นายธีรัจชัย พันธุมาศ และนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ที่ไม่อยู่ในช่วงกักตัวเพื่อสังเกตอาการและไม่มีความเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นการรณรงค์และป้องกันการเเพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

โดย น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า วันนี้การฉีดวัคซีนไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันเฉพาะตนเองเท่านั้น แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในการร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำมาหากินประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงกับสภาพปกติ รวมทั้งการไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขเมื่อเกิดการติดเชื้อด้วย เพราะวัคซีนมีผลทำให้ลดความหนักของอาการจากโรคโควิด

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังคงจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนให้เกิดความสมดุล อย่างเร่งด่วน โดยสำรองวัคซีนทางเลือกต่างๆ ให้มีความหลากหลายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากเกิดอุบัติการณ์จากการฉีดวัคซีนยี่ห้อใดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน และมีความจำเป็นต้องระงับการฉีดวัคซีนยี่ห้อนั้นไว้ก่อนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เช่น กรณีการเชื่อมโยงกับภาวะการเกิดลิ่มเลือด จนทำให้หลายประเทศในยุโรปกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับอายุของผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา หรือประเทศเดนมาร์กที่ยกเลิกการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาทั้งหมด หรือกรณีที่สหภาพยุโรปจะไม่ต่อสัญญากับผู้ผลิตวัคซีนชนิดไวรัล เวกเตอร์ ได้แก่ แอสตราเซเนกา และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเมื่อสัญญาสิ้นสุดลง ประเทศจะได้มีวัคซีนทางเลือกอื่นในการฉีดให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

“การฉีดวัคซีนในวันนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ในเมื่อวัคซีนที่รัฐบาลมีอยู่มีกระจุกอยู่เท่านี้ ประชาชนก็จำเป็นต้องฉีด เพราะในมุมของเราและสังคมโดยรวม การฉีดดีกว่าการไม่ฉีด แต่หากรัฐบาลสามารถกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนที่ดีกว่านี้ มีวัคซีนทางเลือกที่หลากหลายในปริมาณที่สมดุลเพียงพอ ความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนที่ประชาชนต้องแบกรับก็จะลดลง ประชาชนก็จะมีโอกาสได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่สูงขึ้น ในขณะที่รัฐบาลก็จะสามารถบริหารการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมั่นใจ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจาก กระทรวงสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันและไลน์ “หมอพร้อม” ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพื่อลงคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนให้ทุกคนไปลงทะเบียนและเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อพลิกฟื้นประเทศกลับสู่ภาวะปกติ

กรมขนส่งงดทำใบขับขี่ใหม่ 6 เดือน หากหมดอายุผ่อนผันใช้ได้ถึง 30 มิ.ย. นี้

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่กล่าวถึงประเด็นกรมขนส่ง งดทำใบขับขี่ใหม่ 6 เดือน หากหมดอายุผ่อนผันใช้ได้ถึง 30 มิ.ย. นี้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

จากสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น กรมการขนส่งทางบก จึงจำเป็นต้องงดการอบรมด้านใบอนุญาตขับรถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยมีกิจกรรมที่งดให้บริการดังนี้

1.) งดการอบรมและทดสอบ ณ สำนักงานขนส่ง สำหรับผู้ขอใหม่ ทั้งสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถใหม่ทุกชนิด ยกเว้น กรณีการผ่านการอบรมและทดสอบของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ให้นำผลผ่านการอบรมมาดำเนินการ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง

2.) งดการอบรม ณ สำนักงานขนส่ง สำหรับการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถทุกชนิด โดยให้เข้าอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com สามารถนำผลการอบรมออนไลน์มาเป็นหลักฐานเพื่อต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้

3.) งดการออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านทะเบียนและภาษีรถ และด้านใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วม

ทั้งนี้ ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ผ่อนผันการใช้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุแล้ว ยังสามารถใช้แสดงตนได้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564 และในส่วนของผู้ที่จองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งตรงกับช่วงที่กรมการขนส่งทางบกงดให้บริการ จะยังคงได้รับสิทธิในการเข้ารับบริการเมื่อมีประกาศเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง และสำหรับผู้ที่ใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถสิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ในระหว่างวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564 กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเยียวยารองรับ ดังนี้

ผู้ที่ใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ สิ้นอายุเกิน 1 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบข้อเขียน กรณีสิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ หากเป็นใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สิ้นอายุเกิน 3 ปี ได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ

สำหรับการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถที่ไม่มีขั้นตอนการอบรมและทดสอบที่สำนักงานขนส่ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติในวันและเวลาราชการ เช่น การออกใบอนุญาตขับรถให้ผู้ที่มีหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาหรือโรงเรียนสอนขับรถมาก่อนแล้ว การออกใบแทนกรณีใบอนุญาตขับรถชำรุดหรือสูญหาย การเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 2 ปี เป็นส่วนบุคคล 5 ปี การต่ออายุใบอนุญาตขับรถที่มีผลผ่านการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทาง www.dlt-elearning.com โดยการต่ออายุใบอนุญาตขับรถที่มีผลการอบรมออนไลน์ สามารถนำผลการอบรมติดต่อสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายและออกใบอนุญาตขับรถ ประกอบด้วย การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถจักรยานยนต์) ระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง การอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ หรือ แท็กซี่, รถยนต์สามล้อสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง และการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผลการอบรมออนไลน์มีอายุ 6 เดือนนับแต่วันที่ผ่านการอบรม

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ของกรมการขนส่งทางบก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dlt.go.th เฟซบุ๊ก “กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News” หรือโทร. 1584


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top