Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

‘จิตดี’ จะได้พูดแล้ว! ผู้ประกาศสาว ลาออก ‘ทุบโต๊ะข่าว’ แล้ว โดดร่วมดำเนินรายการ ‘ข่าวอรุณอมรินทร์’ แทน

เป็นอีกหนึ่งพิธีกรข่าวสาวที่คนไทยรู้จักกันดี สำหรับ จิตดี ศรีดี พิธีกรข่าวสาว คู่ขวัญของ “พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี” พิธีกรข่าวชื่อดังจากรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” โดยล่าสุดเจ้าตัวออกมาประกาศแล้วว่าจะย้ายไปทำรายการข่าวอรุณอมรินทร์ ร่วมกับ กรุ๊งกริ๊ง รังสิมา ศฤงคารนฤมิตร, บอล สถาปัตย์ แพทอง และ โจ อรชุน รินทรวิทูรย์ ซึ่งรายการใหม่นั้นจะเริ่มวันที่ 29 พฤษภาคมนี้

โดย จิตดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jitdee Sridee ระบุข้อความว่า

จิตดี จะได้พูดแล้วค่าาาาาา

ขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจ และให้โอกาสนะคะ

ดีใจที่ได้ร่วมงานกันนะคะ รังสิมา ศฤงคารนฤมิตร Ball Sathapat และพี่โจ อรชุน

แล้วพบกันในข่าวอรุณอมรินทร์ จ.-ศ.05:30-08:30 น.

และข่าวอรุณอมรินทร์ สุดสัปดาห์ ส.-อา. 06:00-09:00 น.

 

ที่มา : https://www.facebook.com/jeabjitdee

https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_2742517


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“ผบ.นทพ.” สั่งตั้ง จุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สนับสนุน สธ. บริการกำลังพล-ปชช.

ที่อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้สั่งการให้ ส่วนสนับสนุนทหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) จัดเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนให้บริการแก่กำลังพลและประชาชนทั่วไป โดยใช้สถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ธุรการของหน่วย

โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีน Sinovac Biotech จากกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 300 โดส เพื่อใช้ทดสอบระบบและขั้นตอนการปฏิบัติโดยให้ สสน.นทพ. ดำเนินการจัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีน ที่อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เร่งด่วน ทำการทดสอบระบบ โดยทำการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลกลุ่มเสี่ยงของหน่วยที่ออกปฏิบัติงาน จิตอาสา 904 และประชาชนจิตอาสา ที่ได้ร่วมปฏิบัติงานกับ นทพ.ตามภารกิจที่ได้รับมอบจากกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยง และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำหรับผลการทดสอบระบบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะต้องปฏิบัติงานในการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนและสามารถสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ออกปฏิบัติงาน และจิตอาสาที่ร่วมปฏิบัติงานกับ นทพ.ได้เป็นอย่างดี

ครม. จัดงบ 311 ล้าน ป้องกันโควิดในเรือนจำทั่วประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติกรอบวงเงิน 311,650,300 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย

1.) ค่าชุดตรวจไวรัสโควิด-19 แบบ RT PCR จำนวน 100,000 ชุดเป็นเงิน 80 ล้านบาท

2.) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยวิกฤติในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 2 แห่งเป็นเงิน 51,967,200 บาท 

3.) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามประจำเขตกลุ่มเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 10 แห่ง เป็นเงิน 92,680,000 บาท

4.) ค่าก่อสร้างและปรับปรุงห้องกักกันโรคประจำเรือนจำและทัณฑสถานจำนวน 65 แห่ง เป็นเงิน 49,835,500 บาท และ 5.ค่าวัสดุ อุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน เป็นเงิน 37,167,600 บาท

สำหรับการจัดหายาฟาวิพิราเวียสำหรับผู้ติดเชื้อนั้น ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามแนวปฏิบัติโดยขอรับการสนับสนุนยาจากกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงและเร่งด่วน

“หลังเกิดปัญหาการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องก่อสร้างปรับปรุงสถานที่ พร้อมจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อแก้ไขและป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรีจึงได้มีบัญชาเห็นชอบให้ ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยให้กรมราชทัณฑ์เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมด้วย”

รถพุ่มพวงทหารมาแล้ว..!!! “บชร.3” นำผลผลิตทหารพันธ์ุดี ใส่รถกระบะแจกจ่ายช่วยเหลือปชช. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก กองทัพภาคที่ 3 และกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 มีความห่วงใยตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน

พล.ต.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ ผู้บัญชาการ กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ นำผลผลิตที่ได้จากโครงการทหารพันธุ์ดี อาทิ ข้าวสาร ไข่ไก่ และพืชผักชนิดต่าง ๆ สิ่งของที่จำเป็นในการอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ที่ประสบความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนสร้างการรับรู้แนะนำพี่น้องประชาชน ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติในชีวิตประจำวันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ทางหน่วยได้รับความร่วมมือจากหน่วยขึ้นตรง กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 โดยจัดกำลังพลและยานพาหนะ หน่วยละ 1 คัน รวมทั้งสิ้น 6 คัน และผลผลิตที่ได้จากโครงการทหารพันธุ์ดีของหน่วย ร่วมกับสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ตามศักยภาพของหน่วย และได้รับการสนับสนุนข้าวสาร และหน้ากากอนามัยจากกองทัพภาคที่ 3 พื้นที่เป้าหมายในการแจกจ่าย ในชุมชนกัลยานมิตร หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 บ้านโคกมะตูม ชุมชนมหาจักรพรรดิ และชุมชนวัดหนองบัว ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนรอบค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ

รัฐบาลเดินหน้าจัดระบบหลักประกันสุขภาพ ผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (25 พ.ค. 2564) ว่า ครม.อนุมัติหลักการนโยบายการจัดระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ และให้จัดสรรงบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเข้าถึงบริการสุขภาพให้เทียบเท่ากับผู้สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการดูแลผู้ต้องขังที่มีปัญหาสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ ประมาณ 16,000 คน เช่น ผู้ต้องขังสัญชาติอื่น บุคคลที่ไม่มีเอกสารหลักฐานการยืนยันตัวตนใด ๆ  บุคคลต่างด้าว เป็นต้น ที่ผ่านมา ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพ เมื่อเจ็บป่วยจนเกินศักยภาพการรักษาของสถานพยาบาลเรือนจำ จึงต้องส่งตัวไปรับการรักษานอกเรือนจำ ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ต้องเป็นผู้รับภาระค่ารักษาพยาบาล โดยในปี 2563 มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวน 13.71 ล้านบาท จากเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 127 แห่ง

สำหรับการบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพ ที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการใน 2 ระยะ คือ

1.) ระยะสั้น ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ตั้งงบประมาณเป็นการเฉพาะในเรื่องนี้ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 13.71 ล้านบาท

2.) ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ดูแลจัดระบบริการและระบบประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขัง และในกรณีที่มีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการดำเนินงาน ให้ สปสช. ไปศึกษาและดำเนินการแก้ไขให้สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ลุงป้อม ร่วมปลูกต้นไม้ เนื่องใน "วันวิสาขบูชา : วันต้นไม้ประจําปีของชาติ 2564" เชิญชวนคนไทยร่วมใจ ทั่วแผ่นดิน 1 คน 1 ต้นกล้า ปลูกเพิ่มผืนป่า เพื่อลูกหลานไทย

เมื่อ 26 พฤษภาคม 2564 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำ รอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม. ได้ร่วมกิจกรรม เนื่องใน "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2564"  โดยได้ทำการปลูก "ต้นสัก" จำนวน 1 ต้น บริเวณพื้นที่ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด สืบเนื่องจาก เมื่อ 31 ม.ค. 32 ครม.ได้มีมติกำหนดให้ วันวิสาขบูชาของทุกปี เป็น "วันต้นไม้ประจำปีของชาติ" โดยกรมป่าไม้ ได้จัดกิจกรรมและเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ร่วมกันปลูกต้นไม้ อย่างน้อยคนละ 1 ต้น เป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันพุธที่ 26 พ.ค. 64 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเพิ่มผืนป่า และป้องกันไฟป่า รวมทั้งการแก้ปัญหาภัยแล้ง และการเสื่อมสภาพของป่า โดยเฉพาะในพื้นที่เขาสูงชัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ ที่กำหนดให้มีพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 55 ของประเทศ ซึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่วางไว้ มีจำนวน 2.68 ล้านไร่ ในระยะเวลา 8 ปี (2563-2570)

พร้อมกันนี้  พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนคนไทย ทั่วประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้ 1 คน 1 ต้นกล้า เพื่อเพิ่มผืนป่า ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทย ในอนาคต สืบต่อไป 

ทั้งนี้ ทส.โดยกรมป่าไม้ ได้ จัดเตรียมกล้าไม้ จากหน่วยงานเพาะชำกล้าไม้สังกัด กรมป่าไม้ ทั่วประเทศ ไว้บริการให้กับประชาชนแล้ว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.02-5614292-3 ต่อ 5551

สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

คนไข้รายหนึ่งซึ่งกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ถูกพบมีอาการต่าง ๆ ของ ‘เชื้อราสีเหลือง’ สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

นายแพทย์บีพี เตียจี แพทย์ด้านโสต ศอ นาสิกวิทยาในเมืองกาเซียบัด รัฐอุตตรประเทศ ระบุว่า เคสเชื้อราสีเหลืองที่พบในชายวัย 45 ปี นับเป็นเคสแรกในคนไข้ที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่รักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 นานนับเดือน อย่างไรก็ตามอาการของผู้ป่วยรายดังกล่าวทรุดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและจากการตรวจร่างกายพบ ‘เชื้อราสีเหลือง’

แพทย์รายนี้ กล่าวว่า ‘เชื้อราสีเหลือง’ อาจเป็นโรคร้ายแรงถึงตายที่มีต้นเหตุจากสภาพสุขอนามัยที่ย่ำแย่และความชื้น มันมีความอันตรายมากกว่าเชื้อราสีดำหรือเชื้อราสีขาวที่พบก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะวินิจฉัยโรค เพราะจุดเริ่มต้นเกิดจากภายในร่างกาย ส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายใน ผิดกับเชื้อราสีดำที่เริ่มต้นจากอาการพิการบนใบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย

อาการต่าง ๆ ของเชื้อราสีเหลือง มีทั้งเซื่องซึม ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด และในเคสรุนแรง โรคนี้อาจทำให้อวัยวะทำงานผิดปกติ ทั้งนี้แพทย์บอกด้วยว่าคนไข้รายนี้เคยมีอาการของเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาว ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

การค้นพบล่าสุดนี้มีขึ้นในขณะที่เคสเชื้อราสีดำหรือมิวคอร์ไมโคซิส (mucormycosis) และเชื้อราสีชาว ถูกพบเพิ่มขึ้นในหมู่คนไข้โควิด-19 ในอินเดีย หลายรัฐประกาศให้มันเป็นโรคระบาด

เชื้อราทั้ง 2 ชนิด มีรายงานพบในคนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลานาน หรือผู้ป่วยที่ใช้ยาสเตียรอยด์ส่วนหนึ่งในการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาวส่งผลกระทบกับปลอดและอวัยวะสำคัญอื่น ๆ และสามารถก่ออันตรายร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม เอ็นเค คุปตา หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ของกาเซียบัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นดีทีวีของอินเดียว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเคสใด ๆ ของเชื้อราสีเหลือง

นอกจากนี้แล้วเอ็นดีทีวียังอ้างคำสัมภาษณ์ของนายแพทย์รันดีป กูเลเรีย อายุรแพทย์โรคระบบหายใจและผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ออลอินเดียในนิว เดลี เตือนเช่นกันว่า การตั้งเชื่อการติดเชื้อราบนพื้นฐานของสีและพื้นที่ที่มันส่งผลกระทบ อาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิด ๆ และก่อความสับสน

“โดยทั่วไป รูปแบบของเชื้อราที่เราพบเห็นส่วนใหญ่คือมิวคอร์ไมโคซิส แคนดิดา(Candida) และแอสเปอร์จิลโลซิส (Aspergillosis) โดยมิวคอร์ไมโคซิสถูกพบมากกว่าในเคสผู้ติดเชื้อโควิดที่ใช้ยาสเตียรอยด์และเป็นโรคเบาหวาน พวกมันถูกพบในจมูก ไซนัสและบางทีอาจเข้าสู่สมอง”

เชื้อราแคนดิดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเชื้อราสีขาว พบในคนไข้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นจุดต่างสีขาวในช่องปากและบางทีอาจแพร่กระจายสู่เลือด ส่วนที่พบเห็นโดยทั่วไปน้อยที่สุดคือเชื้อราแอสเปอร์จิลโลซิส ซึ่งส่งผลกระทบกับปอดและบางทีอาจก่ออาการแพ้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและอาการต่างๆของเชื้อราสีเหลือง

 

ที่มา : รัสเซียทูเดย์

https://mgronline.com/around/detail/9640000050629


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เราไม่ทิ้งกัน!! 'กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย' ร่วมด้วยช่วยเพชรบุรี มอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรี 2 แสนบาท 'ชาวเพชรฯ' ขอบคุณรัฐบาลส่งวัคซีนล็อตแรกถึงเพชรบุรีแล้ว 'รมช.สาธิต' ยืนยันสธ. จะเร่งส่งวัคซีนล็อต 2 เพิ่มให้โดยเร็ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า... 

กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายตน นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารมช.สาธารณสุข และดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 2 แสนบาทสนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีสู้ภัยโควิด โดยเฉพาะโรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นหลายแห่งในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิดโดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะเป็นผู้รับมอบที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารมช.สาธารณสุขกล่าวว่า ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.แจ้งมาล่าสุดว่าได้ส่งวัคซีนล็อตแรกมาให้จังหวัดเพชรบุรีแล้วและจะส่งวัคซีนล็อตต่อไปให้กับเพชรบุรีโดยเร็วจึงขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีสาธิตและรัฐบาลแทนพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี

เนื่องจากขณะนี้จังหวัดเพชรบุรีมียอดผู้ติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ในอำเภอเขาย้อยสูงเป็นลำดับต้นของประเทศและหวังว่ารัฐบาลจะเร่งส่งวัคซีนมาเพิ่มให้เพชรบุรีเพื่อระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดโดยด่วนที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ได้ช่วยจังหวัดเพชรบุรีประสานกระทรวงสาธารณสุขผ่านดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะมองว่าการระดมฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงจึงจะสามารถจัดการภัยโควิดในจังหวัดเพชรบุรีได้สำเร็จ

ดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเพชรบุรีทุกคนและช่วยกันลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด วัคซีคทุกชนิดผ่านการรับรองจากอย.

ขณะที่ด้านนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กล่าวเสริมว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องเพชรบุรีและมอบหมายตนดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด

ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยได้มอบเงินสนับสนุนจังหวัดในภาคตะวันออกภาคเหนือภาคใต้และภาคกลางสู้ภัยโควิดได้แก่จังหวัดจันทบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดเพชรบุรีโดยสัปดาห์ต่อไปจะมอบให้กับภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดอุบลราชธานีตามลำดับ

วัคซีนแต่ละชนิดเป็นยังไง…สรุปให้แล้ว

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา สรุปวัคซีนแต่ละชนิดให้เข้าใจง่าย ๆ ทำความเข้าใจก่อนไปฉีด


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'จีน' ฉีด 2 วัคซีนหลัก ให้ปชช. ยันใช้ทั้ง Sinopharm - Sinovac

รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ไขข้อข้องใจว่าประเทศจีนฉีดวัคซีนอะไรกันแน่ โดยระบุว่า ทางการจีนใช้วัคซีน 2 ยี่ห้อหลัก นั่นคือ Sinopharm และ Sinovac ฉีดให้ปวงชนชาวจีน ซึ่งจะเลือกยี่ห้อไม่ได้ และตอนนี้จีนระดมฉีดไปแล้ว 497.27 ล้านโดส !!

“คุณหมอชื่อดัง ศาสตราจารย์จง หนานซาน ท่านได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อ Sinovac นะคะ แล้วผลการพิจารณารับรอง Sinovac ของ WHO ก็ coming soon”

สำหรับ Sinopharm อีกยี่ห้อดังของจีนก็แว่วมาว่า กำลังยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทยแล้ว มีคนไทยถามหา Sinopharm กันเยอะ

สื่อจีน มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้คนจีนเข้ารับการฉีดวัคซีน จนทำสถิติมากที่สุดในโลกด้วยนะคะ ‘สังคมไร้ดราม่าพาชาติวิ่งฉิว’

ถ้าสนใจเบื้องหลังวัคซีนแดนมังกร ไขคำตอบคนจีนฉีด Sinopharm หรือ Sinovac กันแน่ !! อ่านบทสัมภาษณ์ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น โดยไทยรัฐออนไลน์ ได้ที่นี่ค่ะ

https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2092617

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10223327903319301&id=1037140385


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top