Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

ศบค.ชุดเล็กไฟเขียว ชงศบค.ชุดนายกรัฐมนตรี ปลดล็อกเฟสแรก เปิดห้างถึง 2 ทุ่ม ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ 50% 

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้พิจารณามาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมเสนอให้ร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ โดยร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 50% และร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศเปิดได้ 75 %

รวมถึงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. ขณะที่ร้านเสิรมสวย แต่งผม หรือตัดผม สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง อาคารในสถานศึกษา เปิดได้ปกติ

อย่างไรก็ตาม ยังมีมติคลายล็อกให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ยังห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกาถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้นยังคงอยู่

สำหรับสถานที่กิจการ หรือกิจกรรมทั้งหมด ให้ดำเนินการเปิด-ปิดตามมาตรการควบคุมทางสาธารณสุขที่เข้มงวด หรือการป้องกันแบบครอบจักรวาล เพื่อป้องกันโรคที่กำหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากที่ได้เคยกำหนดไว้แล้ว หากมีการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ จะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือล็อกดาวน์ใหม่ได้ทันที

ทั้งนี้ มติครั้งนี้ จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น.

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันศุกร์นี้ (27 ส.ค.) เช่นเดียวกัน เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้ร้านอาหารเปิดบริการได้ โดยเสนอแผนเปิดกิจการ 3 ระยะ ในเดือนกันยายน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มเริ่มดีขึ้น พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้รับบริการ

สำหรับข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 3 ข้อ

1.) จัดการสิ่งแวดล้อม ไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี
2.) พนักงานต้องปลอดโรค ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบต้องตรวจเชื้อด้วยชุด ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในการให้บริการลูกค้า
3.) ลูกค้าต้องปลอดโรค เช่น แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน


ที่มา : https://www.prachachat.net/general/news-747325


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

บิณฑ์-เอกพันธ์ 2 ดาราจิตอาสา เหมาบ่อปลากระพงมาขายราคาถูก เพื่อช่วยหลือผู้เลี้ยงปลา ในช่วงระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมด้วยเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง ได้นำปลากระพง มาจำหน่ายราคาถูก ให้กับพี่น้อง หมู่ 5 ต.คูบางหลวง ชาวแฟลตคอมในราคาโลละ 50 บาท  

บิณฑ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ตนพร้อมด้วยทีมงานได้เหมาบ่อปลากะพงมาขายให้พี่น้องได้บริโภคของดีราคาถูกจำนวน 4 ตันและยังมีขนมหม้อแกง พร้อมด้วยฟักทองมาแจกให้กับพี่น้องชาวแฟลตคอมด้วย 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุสรณ์ บุญมั่น ประชาชนชาวตำบลคูบางหลวง ที่ได้มาต่อแถวซื้อปลากระพง ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณบิณฑ์ และทีมงานที่ได้นำ ปลากระพงสด ๆ จากบ่อมาจำหน่ายในราคาถูก โดยตนได้มาซื้อ จำนวน 4 กิโลกรัม เพื่อนำไปประกอบอาหาร และอยากจะให้ดาราทั้ง 2 ท่านได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายที่นี่อีกครั้ง


สหรัฐ แก้วตา รายงาน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ ส่งต่อน้ำใจไทย มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภค แก่โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก รวม 5 แห่ง สู้ภัยโควิด-19

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)  หน้ากาก N 95 ยาฟ้าทะลายโจร หน้ากากอนามัย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งหอม สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และยาสระผม ให้แก่ โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ได้แก่ โรงพยาบาลอุ้มผาง โรงพยาบาลท่าสองยาง โรงพยาบาลแม่ระมาด โรงพยาบาลพบพระ และโรงพยาบาลแม่สอด รวม 5 แห่ง ผ่านแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล รวมงบประมาณเป็นเงิน 500,640 บาท (ห้าแสนหกร้อยสี่สิบบาทถ้วน) โดยมี นายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล พร้อมคณะ เป็นผู้แทนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในการมอบฯ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการของแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล จังหวัดตาก

นับตั้งแต่เกิดวิกฤตแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ปรับแผนการดำเนินงานการช่วยเหลือประชาชนทั้งด้านบรรเทาสาธารณภัย ด้านสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน พร้อมประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเชิงรุกทั้งในส่วนของประชาชน ชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้จัดทีมชุดปฏิบัติการพิเศษโควิด-19 (SCOT) ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เสริมทัพบุคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19  และการบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมงบประมาณดำเนินการออกช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมบริจาคทรัพย์ สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) 

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสารและการปฏิบัติภารกิจของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ http://www.facebook.com/atpohtecktung


#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘สุรชัย’ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ร่วมประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตสอ.) ครั้งที่ 1/2564

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ร่วมประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตสอ.) ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (ZOOM) โดยมีรายชื่อผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านยื่นขออภิปราย จำนวน 6 ราย ดังนี้

1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม

2. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงสาธารณสุข

3. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน

4. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม

5. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ

6. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้ ญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ประเด็นหลัก ๆ คือ

1) การบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน รวมทั้งใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติ ครม. และข้อสั่งการของตนในลักษณะ “กลืนน้ำลายตัวเอง” ปล่อยปละละเลยการป้องกันควบคุมโควิด-19

2) มีพฤติการณ์ปิดบังอำพลางในการจัดหาวัคซีน แอบอ้างว่ามีวัคซีนของบริษัทในพระปรมาภิไธย เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบัน ทำให้ยุทธศาสตร์การจัดหาวัคซีนผิดพลาด

3) เห็นชอบและปล่อยให้มีการเสนอและใช้งบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่ไม่มีการสู้รบ กู้เงินจำนวนมากแต่ใช้จ่าอย่างไร้ทิศทาง และยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่รมว. อีก 5 ท่าน จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในการประชุมในวันนี้ เป็นการหาแนวทางการดำเนินการของคณะทำงานเตรียมความพร้อมสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตสอ.)

'พล.ต.ท.อำนวย' โพสต์ข้อความถึงกรณีผู้กำกับโจ้เอาถุงดำคลุมตัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต ย้ำ อับอาย อัปยศ อดสู!

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ตำรวจใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต ว่า อับอาย อัปยศ อดสู…

สุดที่จะพรรณนากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายตำรวจระดับผู้กำกับการหัวหน้าสถานีใหญ่แห่งหนึ่งนำทีมกระทำต่อผู้ต้องหาคดียาเสพติด ด้วยการทรมานทรกรรม โดยวิธีการนำถุงดำมาครอบศีรษะให้ขาดอากาศหายใจ หายใจไม่ออก ทรมาน จะเพื่อให้รับสารภาพโดยหวังผลในทางคดีหรือเป็นการรีดเอาทรัพย์ 2 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวก็ตามทีเถอะ!!!! ซึ่งนั่นมันเป็นวิธีการสมัยโบราณ เป็นวิธีการสืบสวนสอบสวนสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อคราที่ยังใช้กฎหมายจารีตนครบาล ให้นำการทรมานทรกรรมด้วยรูปแบบต่าง ๆ มาใช้กับผู้ต้องหาเพื่อค้นหาความจริงด้วยการใช้วิธีการต่าง ๆ … บีบขมับด้วยเครื่องบีบขมับ ตอกเล็บ ใส่ไปในลูกตะกร้อให้ช้างเตะ … จะพิสูจน์ว่าคนใดพูดความเท็จ คนใดพูดความจริง ใช้วิธีดำน้ำแข่งกันใครอึดกว่าโผล่พ้นน้ำทีหลังคนนั้นพูดความจริง วิธีการทั้งหมดทำถูกต้องตามที่กฎหมายในขณะนั้นบัญญัติ ผู้กำกับการคนนี้กับบรรดาลูกน้องที่ร่วมทีม น่าจะเกิดเป็นตำรวจในยุคนั้นถึงได้นำวิธีการทรมานทรกรรมตามกฎหมายจารีตนครบาลกลับมาใช้ในชาตินี้ กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีน่าจะนำเรื่องดี ๆ มาใช้ในชาติใหม่นี้…..

รู้หรือไม่ว่า ด้วยการใช้วิธีการที่ป่าเถื่อน ล้าสมัยไร้เหตุผล ขาดตรรกะด้วยวิธีการดังกล่าว จนทำให้ชนชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคมที่เข้ามาในประเทศสยาม อ้างเหตุดังกล่าวปฏิเสธไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย โดยได้ตั้งศาลขึ้นมาพิจารณาคดีความของพวกตนเองขึ้นในแผ่นดินสยาม ไม่ยอมขึ้นศาลไทยเราเรียกกันว่า “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” ไงล่ะ …. งั้นก็แปลว่าสยามประเทศได้สูญเสียอำนาจ 1 ใน 3 คือ อำนาจตุลาการไปแล้วโดยปริยาย คงเหลืออำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร คงค่อย ๆ คืบคลานปฏิเสธไม่ยอมรับ หากครบสามอำนาจเมื่อใดสยามประเทศก็ต้องตกเป็นเมืองขึ้นโดยทันที (เรื่องนี้ถึงขนาดจะทำให้เสียเมืองเชียวละ)

แต่ด้วยพระปรีชาสามารถ พระบารมี ของพระบูรพกษัตริย์สืบต่อกันมาหลายพระองค์ได้ทำการปฏิรูปด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัย กล่าวเฉพาะด้านกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย และตำรวจได้เร่งทำการปฏิรูปเพื่อให้ชาวต่างชาติยอมรับให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขต กลับมายอมรับกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย และตำรวจของสยามประเทศ จึงได้มีการปฏิรูปตำรวจเสร็จภายใน 1 ปี ระหว่างปี พ.ศ 2404 ถึง 2405 โดยมีเจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ) เป็นแม่กองในยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านจึงได้รับการถวายพระนามว่า “พระบิดาแห่งตำรวจไทย” ทำการปฏิรูปกฎหมายเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยมี กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์เป็นแม่กอง เราจึงมีกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 ประกาศใช้ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายฉบับแรกของประเทศสยาม 

โดยให้ยกเลิกกฎหมายจารีตนครบาลซึ่งเมื่อตำรวจมีความทันสมัย กระบวนการยุติธรรม และกฎหมายมีความทันสมัย วิธีการค้นหาความจริงด้วยพยานหลักฐานใช้ตรรกะวิทยา วิชาที่ว่าด้วยเหตุผล การชั่งน้ำหนักพยาน เลิกการใช้วิธีบีบขมับ ตอกเล็บ ใส่ตะกร้อให้ช้างเตะ เอาถุงดำคลุมศีรษะ จิปาถะที่เป็นการทรมานทรกรรมไปเสียสิ้นแล้ว ชาวต่างชาติจึงไม่มีเหตุที่จะปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมต่อไปอีก จึงยอมคืนสิทธิสภาพนอกอาณาเขตมายอมขึ้นศาลไทย มันสำคัญถึงขนาดจะเสียบ้านเสียเมืองกันเชียวนะ!!

ชาวต่างชาติปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมไทย เกิด "สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” ก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าคนไทยด้วยกันปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมไทย เกิด "สิทธิสภาพในอาณาเขต” ขึ้นละ จากเหตุกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน ไม่ได้มาตรฐาน เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่สร้างความเป็นธรรมในสังคม ตำรวจตกเป็นเครื่องมือของ… ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือของ… ขาดความเป็นอิสระ เล่นพรรคเล่นพวก เข้าไม่ถึง ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้…. แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ จะยังไม่ยอมปฏิรูปตำรวจให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วอีกหรือ การปฏิรูปสมัยรัชกาลที่ 4 ใช้เวลาในการปฏิรูปตำรวจเพียงปีเดียวแล้วเสร็จ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 260 บทบัญญัติให้ปฏิรูปตำรวจให้เสร็จภายใน 1 ปี เช่นเดียวกันแต่นี่เข้ามา 3-4 ปีแล้วยังไม่มีวี่แวว จะรอให้เกิดสิทธิสภาพในอาณาเขตกันขึ้นจริง ๆ หรืออย่างไร? วานบอก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระผมขอความเป็นธรรมให้กับบรรดาข้าราชการตำรวจ เป็นเรื่องความประพฤติ พฤติกรรมส่วนบุคคล ผมเรียนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจก็ไม่เคยสั่งสอนพันอย่างนี้ จบออกมาปฏิบัติหน้าที่จนเกษียณอายุราชการ ไม่เคยประพฤติ ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นการกระทำเยี่ยงนี้ ระหว่างรับราชการเป็นครูบาอาจารย์ก็ไม่เคยสั่งสอนใครให้ทำอย่างนี้ แต่ยอมรับความจริงว่า “ปลาตายตัวเดียวย่อมทำให้เหม็นไปทั้งข้อง” ถ้าได้ปฏิรูปตำรวจปัญหานี้จะแก้ไขได้โดยไม่ยาก ในกฎหมายเพื่อการปฏิรูปกำหนดให้มีคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องเรียนตำรวจ เรียกย่อว่า กร.ตร. ซึ่งจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมาตรวจสอบความประพฤติ พฤติกรรมของข้าราชการตำรวจที่ถูกร้องเรียน ญาติผู้เสียชีวิตก็จะกล้าร้องเรียนแทนที่จะไปร้องกับผู้บังคับบัญชาของตำรวจเองให้ตรวจสอบกันเอง เป็นอาทิ

“กัมมุนา วัตตติ โลโก”
สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม
25 สิงหาคม 2564


ที่มา : https://www.facebook.com/100035392371733/posts/489285538927854/?d=n


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ผู้กำกับโจ้' เตรียมมอบตัวตำรวจภูธรภาค 6 หลังติดต่อผู้บัญชาการระดับสูง

26 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งเร่งดำเนินการจับกุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมกับตำรวจอีกหลายนายใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ยังหลบหนีอยู่ แต่จากกระแสกดดันดังกล่าว ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้กำกับโจ้ ได้ติดต่อผู้บัญชาการระดับสูง เพื่อเตรียมเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าจะแจ้งต่อไป


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/114602


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระฉายาลักษณ์ ฉลองพระองค์เสื้อยืดลายฝีพระหัตถ์-ให้กำลังใจด่านหน้า

เพจ มูลนิธิชัยพัฒนา เผยว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระฉายาลักษณ์ ฉลองพระองค์เสื้อยืดลายฝีพระหัตถ์ และข้อความให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ในนามมูลนิธิชัยพัฒนา และกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่าง ๆ) ความว่า 

“…ชัยพัฒนาสนับสนุนผู้ดูแลรักษาผู้ป่วย...ขอบคุณครับ/ค่ะ…
พร้อมลงพระนามาภิไธย “สิรินธร”

หมายเหตุ - เสื้อยืดลายฝีพระหัตถ์ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ มีจำหน่าย ณ ร้านภัทรพัฒน์ ทุกสาขา รายได้จากการจำหน่ายสมทบ “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่าง ๆ)”


ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/155659084573776/posts/2135451226594542/?d=n
ที่มา : https://www.facebook.com/chaipattanafoundation/posts/3146212192332025


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สกพอ.” รวมพลัง “สตรี อีอีซี ระยอง” ทั้ง 8 อำเภอ มอบถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน และร่วมส่งกำลังใจสู้โควิด-19

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม 2564 นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการ สกพอ. ร่วมกับ กลุ่มสตรี อีอีซี ระยอง ผู้บริหารเทศบาลตำบลทับมา และคณะกรรมการพัฒนาสตรีตำบลทับมา ร่วมบรรจุและส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ถุง เพื่อมอบให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในจังหวัดระยอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยภายในถุงประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ในพื้นที่อีอีซี และสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัมจากชลบุรี รวมกว่า 1,000 กิโลกรัม อาหารทะเลแห้งจากวิสาหกิจชุมชน จ.ระยอง กระชายแคปซูล ยาสามัญ และเมล็ดพันธุ์ผัก

โดยกลุ่มสตรี อีอีซี ระยอง ทั้ง 8 อำเภอจะเป็นผู้นำไปมอบให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ เพื่อร่วมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่อีอีซี ได้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

ญี่ปุ่นประกาศระงับใช้วัคซีนโมเดอร์นา 1.63 ล้านโดส หลังตรวจพบการปนเปื้อน

ญี่ปุ่นจะระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา 1.63 ล้านโดส หลังมีรายงานพบการปนเปื้อนหลายล็อต จากการเปิดเผยของบริษัทผู้ผลิตยา "ทาเกดะ" และกระทรวงสาธารณสุขในวันพฤหัสบดี (26 ส.ค.)

ทาเกดะ ซึ่งรับผิดชอบจำหน่ายและจ่ายวัคซีนโมเดอร์นาในญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์วัคซีนหลายแห่ง พบสารแปลกปลอมภายในขวดวัคซีนที่ยังไม่เปิดในหลายล็อตโดยเฉพาะ

"หลังปรึกษากับกระทรวงสาธารณสุข เราตัดสินใจระงับใช้วัคซีนจากล็อตดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม" ถ้อยแถลงของทาเกดะ ระบุ พร้อมเผยว่า ทางบริษัทได้แจ้งเรื่องไปยังโมเดอร์นาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และร้องขอให้มีการสืบสวนอย่างเร่งด่วน

โมเดอร์นายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

ทาเกดะ ไม่ได้ให้รายละเอียดของการปนเปื้อน แต่ยืนยันว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานความกังวลทางสุขภาพใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโดสที่ได้รับผลกระทบ

กระทรวงการสาธารณสุขของญี่ปุ่นระบุว่ากำลังประสานงานกับทาเกดะ ในการหาวัคซีนโดสอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความวุ่นวายกับโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ ซึ่งระยะหลังมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว หลังเริ่มต้นอย่างล่าช้า

เวลานี้มีประชากรญี่ปุ่นฉีดวัคซีนครบแล้วราว ๆ 43% แต่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกรุนแรงที่มีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งแพร่เชื้อได้ง่ายมาก

ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วเกือบ 1.34 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิต 15,693 ราย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส


ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/japan-withdraws-some-moderna-vaccine-doses-no-reported-safety-incidents-2021-08-25
https://mgronline.com/around/detail/9640000084126


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วิกฤติเลือดหมดคลังทั่วประเทศ! ทุกโรงพยาบาลขาดเลือดผ่าตัด วอนบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยขอให้คนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน ในสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 วิกฤติการขาดแคลนโลหิตครั้งใหญ่ โลหิตไม่เพียงพอ ผู้ป่วยที่ต้องเลื่อนการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลออกไป โดยสามารถจ่ายโลหิตให้ได้เพียง 28% เท่านั้น รศ.พญ. ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรค COVID-19 การบริจาคโลหิตทั่วประเทศลดลงอย่างมาก วิกฤติในครั้งนี้รุนแรงกว่าในรอบปีที่ผ่านมา จากกราฟเป็นข้อมูลการบริจาคโลหิตทั่วประเทศ การบริจาคลดลง ซึ่งในภาวะปกติ จะเห็นว่าต้องมีโลหิตรักษาผู้ป่วยเดือนละ 200,000 ยูนิต โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้รับโลหิตจากการบริจาคเพียง 149,384 ยูนิต มีการขาดแคลนสะสมยาวนานมากกว่า 5 เดือน จึงมีผู้ป่วยที่ต้องเลื่อนการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลออกไปอีกเป็นจำนวนมาก  
 
ทั้งนี้ โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 340 แห่ง มีการเบิกโลหิตเฉลี่ยวันละ 8,000 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตให้ได้เฉลี่ย 2,300 ยูนิตต่อวัน (28%) ซึ่งสถานการณ์ขาดแคลนโลหิตนี้ จะส่งผลอันตรายแก่ชีวิตได้
1. ผู้ป่วยโรคเลือด ซึ่งจำเป็นต้องรับโลหิตครั้งละ 1-2 ยูนิต ทุก 3-4 สัปดาห์ หากไม่ได้รับโลหิตผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย มีปัญหาในการดำรงชีวิต
2. ผู้ป่วยผ่าตัด ผู้ป่วยมะเร็ง ที่จะต้องถูกชะลอการรักษาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
3. ผู้ป่วยอุบัติเหตุ ที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เช่น เลือดออกในสมอง มีภาวะเลือดออกในช่องอก หรือช่องท้อง หรือผู้ป่วยกระดูกหัก ซึ่งมีเกือบทุกวัน และเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการโลหิต จำนวนมาก

ต้องยอมรับว่าเนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้คนมาบริจาคโลหิตลดน้อยลงอย่างชัดเจน แต่ว่าการใช้โลหิตในการรักษาพยาบาลยังคงมีอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนเกิดภาวะขาดแคลนเลือดทั่วประเทศ ถึงเวลาแล้วที่จะคนไทยต้องช่วยกัน วอนผู้ที่มีสุขภาพดี หรือผู้ที่ครบกำหนดบริจาคโลหิต 3 เดือนแล้ว บริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ สามารถบริจาคได้ ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ ที่เปิดรับบริจาคโลหิต ใกล้ที่ไหน บริจาคที่นั่นในพื้นที่ของตนเอง เพื่อความสะดวกปลอดภัยของท่านผู้บริจาค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top