Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์’ ทรงกรุณาประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แด่เรือนจำกลางเชียงใหม่ 100,000 เม็ด

วันที่ 20 กันยายน 2564 หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรงกรุณาให้ นางสาวชญาณิศา ฐาณิชณาณัณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะไบบูรี่ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเชิญยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรประทาน ให้ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ เพื่อใช้ช่วยเหลือบรรเทาภัยเบื้องต้นในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ะบาดในเรือนจำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังในเรือนจำกลาง และเรือนจำในเครือข่าย โดยมี พันตำรวจตรีชัยรัตน์ กิจงาม เป็นผู้อ่านหมายหนังสือประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า

นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า โดยแต่เดิม หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเสมอมา ทรงจัดหาสิ่งของต่าง ๆ ที่พอจะช่วยเหลือ บรรเทาภัย และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้า และผู้ประสบภัยจากโรคระบาด โควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งตลอดช่วงเวลา 2 ปี ของการแพร่เชื้อโรคระบาดนี้ พระองค์ท่านมีรับสั่งให้คณะทำงานในส่วนพระองค์ แบ่งสายงานหาทางให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดมาโดยตลอด

สปสช.วอนคนรับแจก ATK ให้ตรวจหาเชื้อทันที หลังพบข้อมูลรับไป 1.2 แสนชุด แต่ตรวจแค่ 6%

19 ก.ย. 64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่ สปสช.ได้ดำเนินการนโยบายแจกชุดตรวจ “แอนติเจน เทสต์ คิท” (Antigen Test Kit : ATK) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง โดยเริ่มแจกจ่าย ATK แล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เป็นวันแรก จากข้อมูลองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้แบ่งการตรวจรับ ATK เป็น 4 งวด งวดที่ 1 จำนวน 1.167 ล้านชุด ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว และมีการกระจายไปที่ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. 

รวมถึงหน่วยบริการในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 เขตสีแดงเข้มที่จัดส่งแล้ว คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา สระบุรี นนทบุรี ตาก และอุตรดิตถ์เรียบร้อยแล้ว ส่วนงวดที่ 2 และงวดที่ 3 จำนวน 2.155 ล้านชุด และ 1.4 ล้านชุด ตรวจรับแล้วเสร็จแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ย. และจัดส่งไปยังหน่วยบริการในเขต 4, 5, 6, 11 และเขต 12 เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ส่วนงวดที่ 4 จำนวน 3.778 ล้านชุด ที่เป็นล็อตสุดท้าย จะมีการตรวจรับอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ย. นี้ โดยจะทยอยส่งให้กับหน่วยบริการในเขต 1, 2, 3, 8, 9 และเขตที่ 10 ต่อไป 

“บิ๊กบี้” ส่งกำลังพลซ่อมบ้าน ช่อยเหลือปชช.ที่ได้รับความเดือดร้อน  

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ร.อ.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ให้ความสำคัญเรื่อง การดูแลช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุข ทำให้สังคมมีความเข้มแข็งปลอดภัย อันจะส่งผลดีในด้านการพัฒนาประเทศ รวมทั้งได้น้อมนำแนวพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในการเป็นทหารพระราชา ร่วมดูแลสุขทุกข์ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมปัจจัยพื้นฐานด้านการดำรงชีพให้ประชาชน ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้ริเริ่มโครงการ “ปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และด้อยโอกาส” ตั้งแต่ ต.ค.61 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 โดยได้มอบให้กองทัพภาคที่ 1 นำศักยภาพของหน่วยทหารช่างมาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างให้กับประชาชน บริเวณชุมชนแออัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 25 จังหวัดภาคกลาง ปัจจุบันสามารถดำเนินการซ่อมสร้างและส่งมอบเรียบร้อยแล้วรวม 297 หลังคาเรือน

ล่าสุดได้มอบให้หน่วยทหารทั่วประเทศ สนับสนุนกำลังพลจิตอาสา พร้อมสิ่งอุปกรณ์และยานพาหนะ ประสานร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชน ในพื้นที่ต่างๆ เข้าดำเนินการสำรวจที่พักอาศัย ตลอดจนอาคารแหล่งสโมสรที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ที่มีความชำรุดเสียหาย เพื่อประเมินและพิจารณาปรับปรุงซ่อมแซมให้กับประชาชนและชุมชน พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เสริมการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างกำลังใจให้ประชาชนดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม มีที่พักอาศัยที่แข็งแรง ถูกสุขอนามัย สามารถใช้ประโยชน์ได้ รวมทั้งยังเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ด้วย 

ทบ. จัดทบทวนมาตรฐานการประกอบเลี้ยง เสริมมาตราการป้องกันโรค เพื่อคุณภาพชีวิตกำลังพลให้สุขภาพดีแข็งแรง 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากนโยบายพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสิทธิและสวัสดิการของทหารกองประจำการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลความเป็นอยู่ของทหารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ต้องสะอาด, อร่อย, มีประโยชน์, ปริมาณเพียงพอและผู้บริโภคมีความพึงพอใจเพื่อสร้างขวัญกำลังใจพร้อมเสริมสร้างร่างกายให้ทหารมีความแข็งแรงและสุขภาพที่ดี

กองทัพบก โดย กรมพลาธิการทหารบกจึงได้จัดอบรมทบทวนการปฏิบัติ พร้อมเพิ่มพูนทักษะความรู้ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ประกอบเลี้ยงจากหน่วยทหารทั่วประเทศใน “หลักสูตรนายสิบสูทกรรม” ผ่านระบบออนไลน์ในห้วงวันที่ 2 ส.ค. - 17 ก.ย. 64 ที่ผ่านมาโดยได้เชิญวิทยากรจากภายในและภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโภชนาการ การประกอบอาหาร การจัดเลี้ยงและการบริการมาถ่ายทอดความรู้ เพื่อยกระดับการเลี้ยงดูทหารให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น โดยในหลักสูตรได้เน้นย้ำถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 

ที่กรมควบคุมโรคกำหนด ในการรักษาความสะอาด แยกระหว่างอาหารดิบและอาหารปรุงสุก ให้ความร้อนอาหารอย่างทั่วถึง และเก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม ใช้น้ำและวัตถุดิบที่สะอาดและปลอดภัย รวมถึงผู้ประกอบเลี้ยงต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หมวกคลุมผม ถุงมือ หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าระหว่างประกอบอาหารตลอดเวลา พร้อมจัดเตรียมอาหารเป็นชุดแยกจาน ช้อน ส้อม แก้วน้ำส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนั้นในหลักสูตรยังได้ทบทวนความรู้หลักโภชนาการในการกำหนดและคำนวณปริมาณแคลอรี่อาหารตามคู่มือหลักโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทหารกองประจำการทุกนายได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่และให้พลังงานที่เพียงพอในทุกมื้อโดยเฉพาะในมื้อเช้าให้เสริมอาหารพิเศษ อาทิ ไข่ น้ำเต้าหู้ นม หรือเครื่องดื่มสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายมีความสมบูรณ์และแข็งแรง ตลอดจนให้หน่วยจัดรายการอาหารพิเศษสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล

ทบ. รับซื้อผลผลิต ตลอดสถานการณ์โควิด  พร้อมเร่งมช่วยเหลือเกษตรกรหลังประสบภัยพายุ “โกนเซิน”

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากอิทธิพลจากพายุโซนร้อน”โกนเซิน” ที่ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง บริเวณภาคเหนือ, ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.ย. 64 และในช่วงวันที่ 11 - 15 ก.ย. 64 ร่องมรสุมได้เลื่อนพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้ปัจจุบันยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ เกิดน้ำท่วมขังในพืชสวนไร่นา และพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง รวมทั้งในหลายจังหวัดพบความเสียหายหลังจากน้ำลด เกษตรกรหลายครัวเรือนประความเดือดร้อนเป็นอันมาก 

จากสถานการณ์ดังกล่าว กองทัพบกได้เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ตามนโยบายของ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในการช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้เกิดข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าและการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกร รวมทั้งข้อจำกัดในการเดินทางของผู้รับซื้อสินค้า อีกทั้ง สิ่งสำคัญที่กองทัพบกได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตลอดมาคือการช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรตาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตร” ที่ได้จัดทำขึ้น ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งแต่ 30 มิ.ย.64

ทบ.เผยยอดดาวน์โหลดแอพฯ ‘S.M.A.R.T SOLDIERS’ กว่า 40,463 ครั้ง เตรียมพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์เชื่อมโยงข้อมูลการออกกำลังกาย พร้อมประชาสัมพันธ์เพิ่มสิทธิประโยชน์สถานที่พัก โรงแรม และสนามกอล์ฟในกิจการ ทบ. 

พันโทหญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น "S.M.A.R.T SOLDIERS" (กองทัพบก) เปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อ มี.ค.64 ที่ผ่านมา เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร, ติดตามความเคลื่อนไหวในภารกิจของกองทัพบกและสาระความรู้เกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง รวมไปถึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่กำลังพลจะสื่อสารต่อผู้บังคับบัญชาของกองทัพบก บอกเล่าเรื่องราวสะท้อนถึงปัญหาต่างๆ ตลอดจนรับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบและแก้ไข นอกจากนี้เป็นช่องทางรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อกองทัพบก ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของกองทัพบกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยในห้วง มี.ค.-ก.ย.64  มีกำลังพลและประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียนและดาวน์โหลด รวม 40,463 ครั้ง

ล่าสุด ได้เตรียมพัฒนาในระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มคุณลักษณะของแอพพลิเคชั่นให้มีความหลากหลาย น่าสนใจ และเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการขอผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อาทิ การเชื่อมต่อข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายส่วนบุคคล โดยเพิ่มนาฬิกาจับเวลา, แหล่งข้อมูลการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย, บันทึกประวัติสุขภาพย้อนหลัง รวมทั้งประชาสัมพันธ์สถานที่และลุ้นรับส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์เพื่อเข้ารับบริการที่พัก โรงแรม หรือสนามกีฬาในกิจการของกองทัพบก ถือเป็นอีกช่องทางสร้างการรับรู้ให้กับกำลังพลและประชาชนที่สนใจ 

เฮ!! ผู้ประกันตน ม.40 ใน 16 จังหวัด ที่ขึ้นทะเบียนใหม่ รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 ได้แล้ววันนี้ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้มควบคุมสูงสุด ประกอบด้วย นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรเพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี ว่า ในวันนี้ (20 ก.ย.64) สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินให้กับผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียนใหม่และจ่ายเงินสมทบเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ระหว่างวันที่ 4 - 24 สิงหาคม 2564 จำนวน 1.94 ล้านคน โดยจะได้รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาท

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ขอเน้นให้ผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับสิทธิให้รีบดำเนินการผูกพร้อมเพย์เลขบัญชีธนาคารกับบัตรประชาชน เพื่อธนาคารจะได้โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน นอกจากนี้ ผู้ประกันตนที่ตกหล่น และอยู่ในพื้นที่ได้รับการเยียวยาแต่ไม่ได้รับเงินเยียวยา สามารถยื่นแบบทบทวนสิทธิ โดยดาวน์โหลดเอกสารแบบคำขอทบทวนสิทธิเยียวยาได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงสำนักงานประกันสังคมที่สะดวกใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ตุลาคมนี้ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม

'ดร.สันต์' เผยบทสรุปข่าวดี 'วัคซีน' ช่วง 2 ปี 4 Waves ข่าวร้ายคนต้านวัคซีน เชื่อ Wave5 มาแน่

Covid-19: บทสรุป 2 ปี 4 Waves ใน อังกฤษ ยุโรป อเมริกา อิสราเอล ข่าวดีของวัคซีนฝรั่ง ข่าวร้ายของคนที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน และมองไทยไปข้างหน้า Wave#5 ที่เราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ แต่จะเจอแบบไหน

หลังจากการระบาดมาหลาย Wave และปิดท้ายด้วย Wave ขนาดใหญ่ของ Delta ในอังกฤษ ยุโรป อเมริกา และอิสราเอล ซึ่งผ่านมาพักใหญ่ทำให้เราได้ข้อมูลสำคัญหลายอย่างเกี่ยวกับความสามารถของวัคซีนในภาวะการระบาดใหญ่ที่เนื่องจากการเปิดเศรษฐกิจเต็มที่ ซึ่งผมทำสรุปมาเป็นตารางให้ตามรูป 

จากตัวเลข ผมคิดว่าเรามีข่าวดีหลายประการ รวมทั้งข่าวร้ายด้วยครับ 

ข่าวดี:
1.) วัคซีนฝรั่ง AZ, Moderna, Pfizer ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในภาวะเปิดเมือง ที่ระดับการฉีด Fully Vaccinated 70% โดยเกิด Wave ขนาดใหญ่ขึ้นจริง แต่อัตราการติดเชื้อใหม่เข้าสู่ Saturation ไม่ไปต่อแบบ Exponential โดยไม่ต้อง Lockdown เช่นใน UK การระบาดอิ่มตัวที่ 30,000 เคสต่อวัน และชีวิตเดินหน้าต่อได้ 

2.) อัตราการเสียชีวิตใน ยุโรป อเมริกา อิสราเอล โดยเฉลี่ยลดลงอย่างมากเมื่อมีวัคซีน สถิติโดยเฉลี่ยของแต่ละ Wave 
- Wave#1 อัตราการเสียชีวิต 9.97%
- Wave#2 อัตราการเสียชีวิต 1.78%
- Wave#3 อัตราการเสียชีวิต 1.53%
- Wave#4 อัตราการเสียชีวิต 0.48% หรือลดลงเหลือ 1 ใน 3 ของ Wave ก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากวัคซีน

3.) ขนาดของ Wave Delta ภายใต้วัคซีนมีแนวโน้มเล็กลงกว่า Wave ก่อนหน้าโดยสามารถเปิดเมืองได้ค่อนข้างเต็มที่ แนวโน้มขนาด Amplitude ของ Wave ลดเหลือประมาณ 1 ใน 2 ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยรายวันลดลงเหลือประมาณ 1 ใน 6 เมื่อเทียบกับ Wave ก่อนหน้า ทั้งที่จริง ๆ แล้ว Wave ก่อนเป็นของสายพันธุ์เก่าที่ไม่เก่งเท่า Delta ด้วย 

4.) การติดเชื้อและเสียชีวิตใน Wave ล่าสุดจำนวนมากกว่า 90% เกิดในผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จากงานศึกษาใน USA "Almost all (more than 9 in 10) COVID-19 cases, hospitalizations, and deaths have occurred among people who are unvaccinated or not yet fully vaccinated"

5.) อัตราการเสียชีวิตในผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ตัวเลขยังไม่ชัดเจน แต่มีความหวังว่าแนวโน้มอาจต่ำกว่าระดับ 0.1% ซึ่งก็คือระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป 

6.) ข่าวดีของเด็ก ๆ UAE เพิ่งอนุมัติ Sinopharm สำหรับเด็ก 3-17 ปี และใน USA Pfizer กำลังจะยื่นขออนุมัติการใช้ในเด็ก 6 เดือน ถึง 5 ปี พ.ย.นี้

7.) ประเทศไทยเรา เปลี่ยนแผนมาใช้วัคซีน AZ, Moderna, Pfizer เป็นหลักในการต่อสู้ให้จบสงครามนี้แล้ว และ Sinopharm สำหรับเด็กก็อยู่ในแผน

'ได๋'​ โพสต์​ภาพรวมผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาดีขึ้นมาก แต่ปัญหายังมี 'เราต้องรอด'​ ยังเดินต่อเต็มที่

ไม่นานมานี้​ 'ได๋-ไดอาน่า​ จงจินตนาการ'​ ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊กเพจ​ 'เราต้องรอด'​ ได้โพสต์ข้อความ​ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

ตอนนี้สถานการณ์โควิด ดีขึ้นมั้ย? 

ดีขึ้นมากค่ะ เพราะระบบจัดการดีขึ้น

ผู้ติดเชื้อที่มีบัตรปชช. หรือต่างด้าวที่มีประกันสังคม สามารถเข้ารับการรักษาได้เเทบจะทันที

ปริมาณเตียงก็ไม่แน่นเท่าก่อนหน้านี้

เราสามารถ REFER ผู้ป่วยได้มากขึ้น

แต่ปัญหาใหญ่ ๆ​ อีกหนึ่งอย่าง คือ...

- แรงงานต่างด้าวที่ไม่อยู่ในระบบ

- บุคคลที่ตกสำรวจ ไม่มีเอกสารใด ๆ ในการยืนยันตัวตน

- ผู้สูงอายุที่อายุมากเกินกว่าที่ HOSPITEL จะรับ
ผู้พิการที่ไม่ได้ทำบัตรผู้พิการ

- เด็กอ่อน หรือเด็กเล็กที่ไม่สามารถเข้า HOSPITEL ได้เพียงลำพัง

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่เรายังคงมุ่งมั่นเปิดศูนย์พักคอย 4 แห่ง

✅ ศูนย์พักคอยเราต้องรอด เขตประเวศ ตอนนี้เหมือนศูนย์ AEC เรารับต่างด้าวเข้ามาจนตอนนี้ต้องทำป้ายและเอกสารให้ครบทุกภาษา

✅ ศูนย์พักคอยตันปัน เขตห้วยขวาง มองผิวเผินเหมือน NURSING HOME เพราะมีแต่ผู้ป่วยสูงอายุบ้างติดเตียงบ้างนอนเรียง ๆ​ กัน ช่วงแรก ๆ​ ที่เปิดเรายังโชคดีเพราะมีผู้ป่วยวัยรุ่น หรือ วัยที่ติดเชื้อแล้วไม่หนักมาช่วยเป็นโควิดจิตอาสา ตอนนี้ทีมงานก็พยายามช่วยกันเต็มที่เท่าที่จะทำได้

✅ ศูนย์พักคอยเราต้องรอด เขตคันนายาว ที่นี่เหมือนทุกคนมากันเป็นครอบครัว แต่ความจริงแล้ว คุณตาคุณยาย ลุง ๆ ป้า ๆ แยกกันมา เด็กที่ติดเชื้อก็มากันคนเดียวบ้าง มากับเพื่อนที่ติดด้วยกันบ้าง น้องเล็กสุดที่เคยมาคนเดียวคือสามเดือน แต่ทุกคนก็ช่วยกันดูแลกันและกัน จนเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ 

และสุดท้าย ✅ ศูนย์พักคอยเราต้องรอด เขตบางขุนเทียน กำลังอยู่ในระหว่างการอนุมัติจากสำนักการแพทย์ เห็นว่าจะให้เป็น รพ. สนามเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดระลอกต่อไป...

"คุณสมบัติ" ประธานกลุ่มอินเตอร์ลิ้งค์ฯ แชร์ประสบการณ์ How to managed Cabling & Networking for Hospital นำวิทยากรเจาะลึกระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค แก่กลุ่มโรงพยาบาลกว่า 100 หน่วยงาน

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกลุ่ม อินเตอร์ลิ้งค์ฯ มาแชร์ประสบการณ์ How to managed Cabling & Networking for Hospital พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมาเจาะลึกรายละเอียดการออกแบบระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คในโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ให้กับผู้บริหารหน่วยงานไอที กลุ่มโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 100 หน่วยงาน

อาทิ โรงพยาบาลศิริราช, รามาธิบดี, พญาไท, จุฬาลงกรณ์, สนง.สาธารณสุขจังหวัดกระบี่, เชียงใหม่ราม, กรุงเทพ อุดรฯ, หัวหิน ฯลฯ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าสามารถนำเทคโนโลยีมาเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามในการขับเคลื่อนประเทศในสถานการณ์ช่วงนี้ให้ดียิ่งขึ้น

???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top