Tuesday, 30 May 2023
ELECTION TIME

‘กรณ์’ ลุยปราศรัยพัทลุง ปลื้ม!! กระแสแรงแซงพรรคใหญ่ ขอโอกาสคนเมืองลุง หนุน ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ แก้ปัญหาให้ ปชช.

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค, นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกขวัญใจชาวใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สงขลา และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต1, ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ เขต 3 และทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมืองช่วยนายธนากร บุญสนิท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 2 โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคึกคัก

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ภูมิใจมาก เพราะกระแสในพื้นที่คะแนนของนายธนากรมาแรงแซงพรรคใหญ่ โดยพรรคชาติพัฒนากล้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ และผู้สมัครก็หน้าใหม่เกือบทั้งหมด พวกเราตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ก็มักจะมีพี่น้องประชาชนมาฝากให้พวกเราเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟ ราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตราบใดที่พี่น้องยังมีแรง มีเรื่องฝากให้เราทำ แสดงว่าพวกท่านยังมีความหวัง มีความเชื่อและศรัทธาเรา ไม่เช่นนั้นคงไม่เสียเวลา และนี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเรามุ่งมั่น และทุ่มเทที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ตนอยู่ใต้ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนรู้สึกชื่นใจที่สุด เดินไปเจอใครก็บอกจะเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าแน่ เพราะเป็นพรรคแนวกลาง แนวเศรษฐกิจ เดินทางการเมืองในแนวทางที่ใสสะอาด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่แม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเลือกยังไงดี เพราะกระแสหลักทางสื่อผลักให้อยู่ใน 2 ขั้ว เหมือนถูกยัดเยียดให้เลือกในสิ่งที่เขาไม่ชอบ เพื่อหนีสิ่งที่เขากลัว เขาไม่ต้องการเปลี่ยนประเทศ แต่ต้องการเปลี่ยนทิศทางของประเทศ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า การเมืองมันมีทางเลือกแน่นอน และทางเลือกนั้นคือ ชาติพัฒนากล้า แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ และเป็นพรรคใหม่ แต่ก็เชื่อว่า ใหญ่ เล็ก ใหม่ เก่า ไม่สำคัญ เท่าขนาดของหัวใจ ประชาชนให้โอกาสเรามาแล้ว ทุกนโยบายที่เรานำเสนอ มุ่งเป้าทำให้เศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น และเราก็สู้มาตลอด

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นนักสู้ โดยยึดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย เราพร้อมทำงานกับทุกคน เราไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ใครก็ตามที่จะเป็นนายก ต้องรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ที่ประชาชนเลือกมา เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้เสียง สว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ประชาชนต้องเป็นคนเลือก สว.เลือกนายกได้แต่โหวตกฎหมายในสภาไม่ได้ นอกจากนี้ เรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสู้ เพื่อความมั่นคงในสถาบันหลักของประเทศ ม.112 ต้องมี และเราได้เสนอทางออกให้สังคมด้วยการตั้งคณะกรรมการกรองคำร้องเรียน เพื่อไม่ให้กฎหมายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม เราเป็นพรรคแรกที่ยืนยันแนวทางนี้

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ค่าไฟ เราก็มายืนหยัดสู้กับทุนใหญ่ ซึ่งเป็นทุนผูกขาด นอกจากนี้เรื่องเราได้รับการร้องขอให้ช่วยมากที่สุดคือ การยกเลิกแบล็กลิสต์ ที่ทำให้หลายคนขาดโอกาสในการทำกิน อีกนโยบายที่โดนใจชาวบ้านคือการ ‘หวยจังหวัด’ โดยการเพิ่มรางวัลให้กับประชาชนผู้ซื้อลอตเตอรี่  3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาท ในทุกงวด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เลือกพรรคเราไม่ผิดหวัง เราทำได้แน่นอน ทุกนโยบายเราศึกษามาแล้วอย่างละเอียด ทุกคะแนนที่ท่านให้กับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นการเติมพลังให้กับสังคมและบ้านเมือง ทุกคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

‘กรณ์’ ฝ่าฝนขึ้นปราศรัย มั่นใจ!! ปชช.เทคะแนนหนุน ‘จูรี’ เข้าสภาฯ ลั่น!! ‘ชพก.’ ขอส่งลูกชาวบ้านสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สงขลา

(9 พ.ค. 66) พรรคชาติพัฒนากล้า จัดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ณ บริเวณ สี่แยกสะพานดำ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งของ นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกชื่อดัง ขวัญใจคนใต้ ผู้สมัครพรรคชาติพัฒนากล้า เขต 2 เบอร์ 8 ผู้ที่มีคะแนนนิยมอย่างล้มหลามจากกระแสทั้งชุมชนและออนไลน์ โดยมีแกนนำพรรคนำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ร่วมด้วย ผู้สมัคร ทั้ง 3 คน ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 3 ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 3 และทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ผู้สมัครเขต 9 เบอร์ 8 มาให้การสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางประชาชนที่เข้ารับฟังอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนก็ยังปักหลักฟังการปราศรัยไม่ถอย โดยจูรี กล่าวปราศรัยท่ามกลางสายฝน โดยมีนายกรณ์กางร่มให้ สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าร่วมฟังปราศรัยเป็นอย่างมาก
.
โดยนายจูรี กล่าวว่า วันนี้ฟ้าฝนมาพรมน้ำมนต์ให้ความเป็นสิริมงคล ว่าเราได้ทำสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง เราไม่ได้มาทำอะไรที่จะนำไปสู่การทุรยศ อัปรีย์ จัญไร ให้เกิดขึ้นกับบ้านเมือง มั่นใจตนจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน จ.สงขลา ให้เกิดขึ้นได้ เชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนเขต 2 จะส่งลูกชาวบ้านเข้าสภาฯ ได้อย่างแน่นอน
.
นายจูรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างลูกชาวบ้านกับเงิน และอิทธิพลมากมาย ป้ายหาเสียงของตนถูกทำลายเกือบทั้งหมด ในคูหาภาพก็หาย โดนแม้กระทั่งมีคนเอาเงินไปแจกชาวบ้านหัวละ 200 แล้วบอกว่าเป็นเงินของจูรี ตนขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อทวด หลักบ้านหลักเมือง จ.สงขลา ว่าหากตนใช้เงินซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียว ขอให้ตายโหงไปเลย แต่ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ตาม เบอร์ 8 อยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนแล้ว ตนจะทำให้การเมืองบริสุทธิ์จะเกิดขึ้นที่ จ.สงขลา วันที่ 14 พฤษภาคม เขต 2 สงขลา กาเบอร์ 8 หักปากกาเซียน ด้วยปากกาของพี่น้องประชาชน เพื่อให้วันที่ 15 พฤษภาคม ข่าวออกไปทั่วประเทศว่า การเมืองบริสุทธิ์ใสสะอาด เกิดขึ้นที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา
.
นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้พี่น้องประชาชนสุดยอดจริง ๆ ตนได้เห็นแววตา เห็นรอยยิ้ม เห็นหัวใจของพี่น้องทุกคน ทำให้มั่นใจว่า วันที่ 14 พฤษภาคม เราจะได้สรางประวัติศาสตร์ร่วมกันอย่างแน่นอน ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ร่วมหาเสียงกับจูรีมาหลายครั้ง เจอทั้งแดด ทั้งฝน แต่เพราะตนรักคนหาดใหญ่ อยากให้ได้ ส.ส.คุณภาพอย่างนายจูรีเข้าไปทำงาน เป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชน เพราะหากสภาฯ ได้ผู้แทนแบบจูรี และเพื่อนผู้สมัคร อีก 3 คน ใน จ.สงขลา ของพรรคชาติพัฒนากล้า การเมืองไทยต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และนั่นก็เป็นเหตุผลว่า จ.สงขลา มี 9 เขต แต่เราส่งผู้สมัคร แค่ 4 เขต ทั้งที่ความจริงเราจะส่งครบก็ได้ แต่เพราะเราเลือกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง สร้างการเมืองที่ใสสะอาดให้กับ จ.สงขลา เราจึงส่งคนที่เราคิดว่าจะสามารถเดินไปสู่จุดหมายเดียวกันได้
.
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้ตนมั่นใจว่าเรายืนในจุดที่ถูกต้อง จึงขอให้ประชาชนเลือกคนที่รัก คนที่เราศรัทธา ท่ามกลางการเมืองที่พยายามปั่นกระแส สร้างความเกลียด สร้างความกลัว ให้พวกเราอึดอัดสับสน ว่าจะเลือกใครดี ตนขอบอกว่า สูตรสำเร็จทางการเมือง คือ ทำให้พวกเรากลัว ทำให้เกลียด ทำให้หลงรักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนโดนมาตลอด เคยยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถูกหาว่าเป็นเผด็จการ ทั้งที่ท่านก็ได้เสียงมากกว่าคู่แข่งทุกคน พอขึ้นเวทียิ้มให้นายพิธา ก็โดนกล่าวหาว่าติ่งส้ม มันมีความพยายามที่จะแบ่งคนเป็นขั้ว เพื่อให้พวกเราเลือกตามขั้ว แทนที่เราจะเลือกคนอยากเลือก แทนที่เราจะเลือกนโยบายที่เราอยากได้ เราถูกบังคับให้เลือกใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
.
“วันนี้ผมมั่นใจ เห็นด้วยใจ ด้วยสายตาของทุกท่าน ว่าท่านเลือกจูรี แน่นอน แต่ยังมีอีกหลายคนที่ติดกับดักว่า ถ้าเขาเลือกแล้ว ใครจะมา คนที่เขากลัวจะชนะหรือเปล่า ผมขอบอกว่า ผมทำงานการเมืองมาเกือบ 20 ปี ในแต่ละยุค แต่ละสมัย เราจะได้นักการเมืองแห่งอนาคต ที่ชาวบ้านสามารถฝากความหวังไว้ได้ ยุคละไม่เกินคนสองคน ผมไม่เคยเห็นใครที่เป็นร่างทรงที่แท้จริงของชาวบ้าน ฝ่าด่านอุปสรรคความยากจน สะสมความรู้ ประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ  มากกว่าผู้สมัครคนอื่นทุกพรรค จึงขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยผลักดันจูรี ให้มีโอกาสเข้าไปทำงานในสภาฯ นี่คือ เพชรน้ำงามของ จ.สงขลา ที่ทั้งชีวิตอาจจะไม่มีใครน่าเลือกไปกว่านี้อีกแล้ว” นายกรณ์ กล่าว
.
ด้านนายอรรถวิชช์ ก็ได้ร่วมฝ่าสายฝน เพื่อให้กำลังใจนายจูรี และผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 คน โดยระบุว่า ฝนตกก็หยุดเราไม่ได้ ขอให้เชื่อในสิ่งที่เราทำ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า เราได้เดินมาในหนทางที่ถูกต้องแล้ว และเชื่อว่าการเมืองที่ใสสะอาด จะเกิดขึ้นได้ ขอให้พี่น้องประชาชน ส่งลูกชาวบ้านเข้าสภาฯ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นที่ จ.สงขลา

‘รัฐบาลลุงตู่’ ก่อหนี้ไม่สูญเปล่า

ที่ผ่านมา ‘รัฐบาลลุงตู่’ ก่อหนี้…แต่ไม่สูญเปล่า

กู้ 3 ล้านล้าน สร้างความเจริญ
>> ถนนจาก 4,000 กม. เป็นกว่า 10,000 กม.
>> รถไฟฟ้าสารพัดสี จากเดิมมีแค่ 2 สาย (บนดิน-ใต้ดิน)
>> รถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง
>> พัฒนาขนส่งทางน้ำ
>> พัฒนาขนส่งทางอากาศ

รู้หรือไม่?
หนี้สาธารณะที่บางคนบอกว่า ‘เพิ่มสูงขึ้น’ นั้น ต้องดูว่าการเพิ่มขึ้นไม่ใช่การกู้มาแจก แต่กู้มาลงทุน นั่นเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้ลงทุนแบบนี้มานานมากแล้ว

ชัยวุฒิ’ ชู!! นโยบายการศึกษา มุ่งพัฒนา ‘ภาษา-ดิจิทัล’ ด้าน นักศึกษา มศว ปลื้ม ‘พี่โอ๋ ตัวตึง’ เป็นกันเองกว่าที่คิด

‘ชัยวุฒิ’ ร่วมเสวนานโยบายการศึกษา ระบุชัด ความจริงมีเรื่องเดียว แต่ได้รับข้อมูลไม่ตรงกัน จึงมีความเห็นต่าง พปชร.ขออาสาประสานให้ทุกฝ่ายสามารถพูดคุยกันได้ เพื่อพัฒนาประเทศและระบบการศึกษาไทย ด้านนักศึกษา มศว ปลื้ม ‘พี่โอ๋ ตัวตึง’ เป็นกันเองกว่าที่คิด ให้ถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด 

(9 พ.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมเสวนาทางการเมือง ซึ่งหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จัดขึ้นในหัวข้อ นโยบายด้านการศึกษาและสังคม ณ สนามกีฬากลาง ม.ร.ว.จุรีพรหม กมลาศน์ (มศว ประสานมิตร) โดยมีตัวแทนจาก ทั้งหมด 8 พรรคการเมืองเข้าร่วม

ทั้งนี้ ได้กล่าวถึงนโยบายระบบการศึกษาว่า ส่วนมากหลายพรรคการเมืองมักไม่ค่อยพูดถึงเรื่องการศึกษาในเวทีดีเบตต่างๆ เท่าที่ควร เนื่องจากเป็นนโยบายที่ไม่ค่อยมีความขัดแย้งทางความคิดกันมากนัก หลายๆ พรรคมักจะมีนโยบายเกี่ยวกับระบบการศึกษาที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดโอกาส การเรียนเสริมด้านภาษา เทคโนโลยีและดิจิทัล ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีการพัฒนามาโดยตลอด เพราะไม่ต้องใช้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หนึ่งปัญหาใหญ่ของประเทศ คือ การขาดแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ ‘STEM’ ที่ค่อนข้างมีน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และเรื่องของภาษาก็มีส่วนสำคัญ ที่ต้องพัฒนา เพราะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะเข้ามาเปิดโรงงาน หรือ ฐานการผลิตภายในประเทศ 

ขณะที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา ระหว่างพื้นที่ห่างไกลกับเขตเมือง ซึ่งยังคงมีคุณภาพที่แตกต่างกันอยู่ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งแก้ไข โดยทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไข ให้โอกาสเด็กๆ ทั้งประเทศได้มีความเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายในการเสวนาครั้งนี้อีกด้วยว่า เห็นด้วยกับหลายนโยบายด้านการศึกษาของพรรคต่างๆ ที่มาร่วมเสวนาในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ เรื่องของการเมืองนั้นไม่ได้สำคัญแค่เรื่องนโยบาย แต่สำคัญที่ว่า หากพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลแล้ว สามารถทำให้รัฐบาลมีสเถียรภาพได้หรือไม่ ทำงานได้ บ้านเมืองก้าวไปข้างหน้าได้ โดยไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ขออาสาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง บางเรื่องสามารถคิดต่างกันได้ เห็นไม่ตรงกันได้ แม้ความจริงจะมีอยู่เรื่องเดียว แต่รับข้อมูลมาไม่เหมือนกันก็เกิดเป็นความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐจึงสามารถประสานให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยทำความเข้าใจกันได้ หาทางออกแก้ไขร่วมกัน จับมือไปด้วยกัน ให้ประเทศไทย เป็นบ้านเมืองที่น่าอยู่ตลอดไป

ด้าน ‘น้องมังกร’ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มศว ปี 1 นักศึกษาที่มาร่วมรับฟังการเสวนา ได้สะท้อนมุมมองที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ว่า รู้สึกปลื้มใจ ไม่คิดว่าจะเป็นกันเองมากขนาดนี้ จากที่เห็นภาพลักษณ์ตามเวทีดีเบตต่างๆ ที่ได้ฉายา ‘ตัวตึง’ คิดว่าจะเข้าถึงได้ยาก แต่กลับกัน เป็นคนที่อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ขอถ่ายรูปก็ได้ถ่ายด้วยอย่างใกล้ชิด จึงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก พร้อมขอบคุณที่มาร่วมในการเสวนา และให้ความรู้ในวันนี้

‘กกต.’ ร่อนหนังสือกำชับ ผอ.กกต. ทุกจังหวัดทั่วประเทศ คุมเข้มเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ย้ำ!! ทำงานรอบคอบ กันผิดพลาดซ้ำ

(9 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เรื่องกำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง ว่าในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยภาพรวมของการจัดการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ปรากฏข้อมูลตามสื่อต่างๆ พบความผิดพลาดในการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางหลายแห่ง ดังนั้น เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พ.ค.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

ในการอบรมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้เน้นย้ำการปฎิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบและถูกต้องตามกฏหมาย ระเบียบ ประกาศ และแนวทางที่ กกต.กำหนด คู่มือปฎิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่พนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด หากมีเหตุการณ์ใดให้บันทึกลงในรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง ส.ส.

การดำเนินงานในวันเลือกตั้ง ก่อนเปิดการลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งตรวจสอบความถูกต้องของป้ายปิดประกาศให้ครบถ้วน และเมื่อเสร็จสิ้นการนับคะแนน ให้รีบดำเนินการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการโดยเร็ว

กำชับการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำเขตเลือกตั้งและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และแนวทางที่ กกต.กำหนด โดยให้ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดและกรุงเทพฯ ปฎิบัติหน้าที่ในการอำนวยการจัดการเลือกตั้งด้วยความเข้มแข็งและรับผิดชอบ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อขัดข้องในการปฎิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ ในกรณีเกิดเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่นในวันเลือกตั้ง และมีผลกระทบต่อการออกเสียงลงคะแนน หรือการนับคะแนนให้รายงานเหตุดังกล่าวต่อสำนักงาน กกต.โดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของหนังสือ ยังระบุว่า ได้แจ้งรายชื่อและเลขโทรศัพท์ของผู้บริหารและฝ่ายที่รับผิดชอบ เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงาน และแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ไปให้กับผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดด้วย

‘สกลธี’ ย้ำ!! พปชร. ไม่จับมือพรรคแก้ ม.112 เตือน!! ต่างชาติหยุดแทรกแซงเลือกตั้ง

‘สกลธี’ ลงพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ ช่วยหาเสียง ‘ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เบอร์ 6 ย้ำจุดยืนก้าวข้ามความขัดแย้ง วอน กกต.ลดความผิดพลาด อย่าให้เป็นเงื่อนไข เตือนต่างชาติหยุดแทรกแซงการเลือกตั้ง

(9 พ.ค. 66) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคฯ ลงพื้นที่ลานออกกำลังกาย คลองบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ร่วมกับ ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 32 เขตบางกอกน้อย (เฉพาะแขวงศิริราช), เขตบางกอกใหญ่, เขตภาษีเจริญ (ยกเว้นแขวงบางหว้า แขวงบางด้วน และแขวงคลองขวาง), เขตตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงบางเชือกหนัง), เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวงบางยี่เรือ) หมายเลข 6 เพื่อพบปะประชาชน

นายสกลธีกล่าวว่า ในย่านนี้จะเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพราะมีความน่าสนใจที่เป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรื่องราวในชุมชนมากมายที่สามารถนำมาสร้าง Story ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ แต่ยังขาดการสนับสนุนจากรัฐและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะนำกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านมาช่วยพัฒนาจุดนี้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่นี้ต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ว่ามีทหารและผู้อยู่เบื้องหลังการเลือกตั้ง และใช้อำนาจกดดันไม่ให้พรรคฝ่ายค้านหาเสียงนั้น นายสกลธีกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสร้างวาทกรรมแบบนี้ เพราะประเทศกำลังเดินหน้าตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนลงเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน ตนก็เห็นข่าวฝ่ายค้านหาเสียงอยู่ตลอด หรือเวลาตนลงพื้นที่ก็เจอพรรคฝ่ายค้านเดินอยู่ใกล้ๆ กัน ไม่มีใครได้เปรียบ อยู่ที่ใครจะตั้งใจหาเสียงหรือตั้งใจจะสร้างประเด็นการเมืองมากกว่า และขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง อย่าให้เกิดความผิดพลาดเหมือนการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะอาจถูกยกมาเป็นเงื่อนไขต่อไป

ส่วนกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ เสนอมติเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปกป้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิในการชุมนุมนั้น นายสกลธีกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยอย่างชัดเจน มารยาททางการทูตเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องมี และกฎหมายที่คุ้มครองประมุขของรัฐฯ และการกำหนดสิทธิขอบเขตการชุมนุมก็มีอยู่ในทุกประเทศ ดังนั้น ประเทศอื่นๆ ต้องระวังไม่ให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งจากต่างประเทศ

“พรรคพลังประชารัฐย้ำมาตลอด ว่าเรามีจุดยืนที่จะไม่ร่วมกับพรรคการเมืองที่จะแก้ไข ม.112 เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนรวยขึ้นหรือจนลง ควรมองไปที่นโยบายที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้น ดังนั้น ถ้ามีเงื่อนไขว่าถ้าจะร่วมตั้งรัฐบาลกับเขาแล้วต้องเอาอันนี้ด้วย แล้วทำให้ประเทศลุกเป็นไฟ เราไม่เอาแน่นอน รวมถึงเรื่องนโยบายที่เอาไปใช้แล้วประเทศล่มจมทางเศรษฐกิจ เราก็ไม่เอาเหมือนกัน” นายสกลธี กล่าว

ด้าน ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรมีจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง และสามารถนำพาประเทศให้เดินไปข้างหน้าได้ โดยไม่ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน แม้ลุงป้อมจะโดนบูลลี่ล้อเลียนอย่างไรก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะท่านเห็นคนรุ่นใหม่เป็นเหมือนลูกหลาน สิ่งที่ลุงป้อมคิดมีเพียงจะทำให้ลูกหลานทำให้ประเทศชาติเท่านั้น จึงอยากขอฝากทุกคนในเขตเลือกตั้งที่ 32 บัตรสีม่วงกาเบอร์ 6 บัตรสีเขียวทั่วประเทศกาเบอร์ 37 ด้วย

‘ก้าวไกล’ ร้อง ‘กกต.’ เปิดข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ารายเขต แนะ ถอดบทเรียน ป้องกันข้อความผิดพลาดก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้

(9 พ.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นคำร้องต่อประธาน กกต.ขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม ว่า

ประเด็นที่ 1 เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ขณะที่แต่ละจังหวัดได้แถลงข้อมูลว่า มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนเท่าไร เดินทางมาใช้สิทธิ์จริงเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งบางเขตมีผู้มาใช้สิทธิ์ตั้งแต่ 90% จนถึง 100% แต่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเปิดเผยข้อมูลว่า มีผู้เดินทางมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนเกิน 100% ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะออกมาแก้ไขจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ที่ถูกต้อง ซึ่งส่วนตัวยอมรับได้ ซึ่งปัญหาหลังการเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ตนก็ยังไม่รู้ว่ามีผู้เข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งในและนอกเขตเป็นจำนวนเท่าไร โดยตนอยากให้ กกต.แจ้งรายละเอียดเป็นรายเขต ทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง และมีผู้มาใช้สิทธิ์จริงเป็นจำนวนเท่าไร

อีกทั้ง กรณีซองไปรษณีย์สำหรับใส่บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ก็อยากทราบเหมือนกันว่า เมื่อแยกเป็นเขตแล้วมีจำนวนเท่าไร ซึ่งมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งกรณีความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงบนซองไปรษณีย์นั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าว กกต.ได้ออกมาชี้แจงแล้ว แต่ถ้าไม่ได้จัดทำรายละเอียดตามที่ตนระบุ จะไม่ทราบว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ และมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนเท่าไร รวมถึงการส่งไปรษณีย์กลับไปนับคะแนนเป็นจำนวนเท่าไร บัตรจะตรงกับผู้ใช้สิทธิ์หรือไม่ ถ้าไม่ตรงกันเล็กน้อยก็อาจจะเกิดความผิดพลาดที่ไม่มาก แต่ถ้าไม่ตรงกันเป็นจำนวนมาก ก็จะมีข้อสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.น่าจะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อทุกพรรคการเมือง

ประเด็นที่ 2 ถ้าดูตามระเบียบของ กกต.จะต้องประกาศเรื่องการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในนอกเขต และจะต้องประกาศว่า จะมีการนับคะแนนที่ใดไม่น้อยกว่า 10 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. แม้ว่าทางการเมืองจะทราบแล้วว่า กกต.ได้มีการประกาศจำนวนผู้เดินทางมาใช้สิทธิ์แล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้ประกาศลงในเว็บไซต์ และยังตรวจพบว่า การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในบางจังหวัด ซึ่งไม่ทั่วถึง ซึ่งจะทำให้ทั้งตัวแทนพรรคการเมือง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ภาคประชาชน และผู้สังเกตการณ์จะไม่ทราบเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องของการนับบัตรทั้งในและนอกเขต รวมถึงนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะทำให้ผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถรู้ถึงสถานที่นับคะแนน

ประเด็นที่ 3 ทราบว่าทั้งประเทศมีหน่วยเลือกตั้งเกือบแสนหน่วยตามที่ กกต.ได้ประกาศ แต่ไม่มีรายละเอียดที่ลงไว้ในเว็บไซต์ทั้งในส่วนกลาง และต่างจังหวัดที่ไม่ได้ลงข้อมูลดังกล่าว ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่าหน่วยเลือกตั้งของตนเองอยู่ที่ไหน

โดยทั้ง 3 ประเด็นตนขอให้สำนักงาน กกต.ได้จัดทำข้อมูลดังกล่าวเป็นรูปแบบของไมโครซอฟต์ เอกซ์เซล เพื่อชี้จุดว่า เลือกตั้งอยู่ที่ไหน รวมถึงหน่วยเลือกตั้งกว่าแสนหน่วยนั้นอยู่ที่ใดบ้าง โดยขอให้ กกต.ส่วนกลางได้แจ้งพื้นที่ เพื่อประกาศข้อมูลลงไปในเว็บไซต์ทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนทราบต่อไป

เมื่อถามว่า กรณีความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่เกิดขึ้น มีทั้งภาคประชาชนและการเมืองบางส่วน ออกมาเรียกร้องว่าให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะเพื่อความโปร่งใส นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าจะเป็นโมฆะหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงในหลายปัจจัย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาเกี่ยวกับการร้องเรียนในขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดที่พบ เป็นเพียงความผิดพลาดส่วนบุคคล ส่วนตัวมองว่ากรรมการประจำหน่วยอาจจะเกิดความไม่เข้าใจแม้จะมีการอบรม เมื่อ กกต.ทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว ก็จะควรเร่งทำความเข้าใจ โดยส่วนตัวมาว่าเร็วไปถ้าทำให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ ซึ่ง กกต.มีเวลาแก้ไขก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 2566 ให้การเลือกตั้งครั้งนี้เดินหน้าไปดีกว่า

ส่วนรายละเอียดเรื่องที่จะฟ้องร้อง กกต.หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเบื้องต้นพบเพียงว่าเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ ใช่ปัญหาความตั้งใจของ กกต.หรือระเบียบข้อกฎหมายที่จะส่อไปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีใครที่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเป็นไปหรือไม่ ยอมรับว่า พรรคก้าวไกลเป็นผู้ที่เสียหาย และเสียผลประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้องรวบรวมข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้น ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หากมีข้อมูลหรือมีหลักฐานที่ส่อว่าเป็นไปตามนั้นก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ แต่ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับนโยบาย คือ กกต. ส่วนตัวย้ำว่า กกต.ชุดนี้มีประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แล้ว ซึ่งผ่านมาแล้ว 4 ปี ถ้าหากทำให้เกิดผลกระทบต่อการเลือกตั้ง กกต.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

‘มาร์ค-ตั๊น’ อ้อนคนพังงา หนุน ‘ปชป.’ สานงานพัฒนาใต้ต่อเนื่อง ชี้ โค้งสุดท้ายซื้อเสียงดุ จี้!! กกต.ทำงานเชิงรุก เรียกความเชื่อมั่น ปชช.

(9 พ.ค. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคฯ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงให้ นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พังงา เบอร์ 1 ที่เทศบาลเมืองพังงา โรงเรียนบ้านกระโสม โรงเรียนบ้านบางจัน และตลาดโคกกลอย จังหวัดพังงา

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยเฉพาะนางกันตวรรณ ที่ทำงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน และดีใจที่พี่น้องประชาชนยังเข้ามาทักทายแสดงความผูกพันกับพรรค เชื่อว่าประชาชนเห็นการทำงานมาตลอด และพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ขอเน้นย้ำให้เลือกพรรคการเมือง เลือกนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดถืออุดมการณ์นี้มาโดยตลอด

ด้าน น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานของนางกันตวรรณ กว่า 22 ปี เป็น ส.ส. 5 สมัยที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงที่สุดในประเทศ เมื่อปี 54 ล่าสุดยังได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) เกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ที่พูดจริงทำจริง ร่วมคิดร่วมทำ มีผลงานทำงานเพื่อชาวพังงา ทั้งหมดนี้การันตีในตัวเองแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวพังงาจะให้โอกาสเลือกนางกันตวรรณอีกครั้ง เพราะเรามีความผูกพันกันอย่างยาวนาน เพื่อพัฒนาจังหวัดพังงาสู่ความยั่งยืน

“ขณะนี้ทราบว่าบางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงรุนแรงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จึงขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าไปดูแลตรวจสอบในเชิงรุก สร้างความเชื่อมั่น และขอให้ประชาชนช่วยกันรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ไม่ขายสิทธิ์ ไม่ซื้อเสียง ไม่โกง หากอยากได้รัฐบาลดีต้องได้ผู้แทนฯ ที่ดี อยากได้รัฐบาลซื่อสัตย์ ก็ต้องได้ผู้แทนฯ ที่ซื่อสัตย์ ตั๊นจึงมั่นใจว่าพี่น้องชาวพังงาที่มีศักดิ์ศรี จะเข้าคูหากาพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ใบ” น.ส.จิตภัสร์ กล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น!! เลือกเพื่อไทยไม่ต้องลุ้น ประเทศไทยเปลี่ยนทันที

‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น!! เลือกเพื่อไทยไม่ต้องลุ้น ประเทศไทยเปลี่ยนทันที

“เลือกเพื่อไทยไม่ต้องลุ้น ประเทศไทยเปลี่ยนทันที”

แพทองธาร ชินวัตร ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าว

‘รวมไทยสร้างชาติ’ หาเงินได้ - ใช้เงินเป็น

หารายได้เข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท ใน 2 ปีที่ผ่านมา
>> ทุนต่างชาติ ลงทุนผลิตรถยนต์ ไฟฟ้าในไทยกว่า 360,000 ล้านบาท
>> ส่งเสริมสมาร์ท อิเล็กทรอนิกส์กว่า 700,000 ล้ำนบาท
>> อุตสาหกรรมดิจิทัล 300,000 ล้านบาท
>> ชาวต่างชาติพำนักระยะยาวราว 5 แสนคน เกิดการใช้จ่าย 600,000 ล้านบาท
>> ซาอุดีอาระเบีย ลงทุนผลิตพลังงานไฮโดรเจนในไกย 600,000 ล้านบาท

ใช้เงินเป็น
>> ช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบาง บัตรสวัสดิการ พลัส จะเพิ่มเงินให้เดือนละ 1,000 บาท รวม 12,000 บาท/ปี
>> ให้กู้เงินฉุกเฉินจากธนาคารของรัฐได้ 10,000 บาท/คน
>> ทำโครงการคนละครึ่ง ใช้งบประมาณ 60,000 ล้านบาท
>> ทำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฉพาะเมืองรอง 18,000 ล้านบาท

‘กรณ์’ ขึ้นรถแห่รอบเมืองหาดใหญ่ ชวนชาวสงขลาฟังปราศรัย ด้าน ‘จูรี’ ทำคลิปติ๊กต็อกเชิญชวน ยอดพุ่งทะลุ 1.5 ล้านวิว

(9 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกขวัญใจคนใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดสงขลา ขึ้นแห่รอบตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อเชิญชวนพี่น้องประชาชนฟังร่วมฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคชาติพัฒนากล้า ในช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ค. เวลา 17.00-19.00 น. ณ บริเวณสี่แยกสะพานดำ หาดใหญ่ โดยเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ครั้งแรกของจูรี ซึ่งประชาชนให้การต้อนรับกันอย่างคึกคัก และรับปากว่าจะไปร่วมอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ นายจูรี ได้ทำคลิปติ๊กต็อกเชิญชวนประชาชน ให้ไปร่วมฟังปราศรัย โดยบอกว่าเป็นการเชิญชวนด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่มีการเกณฑ์คน เน้นความถูกต้องเป็นหลัก ไม่ได้เน้นปริมาณ ปรากฏว่ามีคนเข้าไปดูถึง 1.5 ล้านวิว ซึ่งหลายคนบอกว่า จะมาร่วม และบางคนบอกส่งแรงใจเพราะอยู่ต่างพื้นที่ รอชมไลฟ์ และเหมารถมาจากอำเภอใกล้เคียงอีกด้วย

สำหรับการปราศรัยใหญ่เย็นนี้จะมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคชาติพัฒนากล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 คนครบทีม ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 3 ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 3 และทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ผู้สมัครเขต 9 เบอร์ 8 ร่วมปราศรัยในครั้งนี้ด้วย

‘กกต.’ จัด Big Day ชวนคนไทยใช้สิทธิเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ย้ำ!! พบปัญหาเร่งแก้ทันที ไม่ให้ซ้ำรอยอีก กำชับจนท.เรียบร้อย

(9 พ.ค. 66) ที่ลานคนเมือง ศาลาว่ากรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดกิจกรรม Big Day รณรงค์เชิญชวนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ภายใต้แคมเปญ “ไทยโหวต คนไทยพร้อมใช้สิทธิ” ซึ่งจัดให้มีกิจกรรมรณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมดังกล่าว พร้อมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และ กกต.เป็นตัวแทนรณรงค์เชิญชวนคนไทยออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ณ สนามกีฬาจังหวัด จันทบุรี ภาคเหนือที่ห้าแยกหอนาฬิกา จ.ลำปาง ภาคใต้ ที่ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี และภาคอีสาน ที่ศาลาว่าการหลังเก่า จ.กาฬสินธุ์ พร้อมมีการปล่อยขบวนรถรณรงค์ชวนคนไทยไปใช้สิทธิ และขบวนรถของสำนักงานเขตกรุงเทพฯ จำนวน 50 คัน

โดยนายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยตั้งเป้าไว้ที่ 80% ขึ้นไป ว่าเป็นตัวเลขที่เราตั้งใจและจะประชาสัมพันธ์ให้มากที่สุดในทุกระดับ วันนี้เป็นการเปิดตัวอย่างจริงจังอีกครั้ง หวังว่าประชาชนจะพร้อมใจกันออกมาใช้สิทธิ ขอให้ดูกฎกติกา ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้บัตรเสีย โดยตั้งเป้าว่าไม่อยากให้บัตรเสียเกิน 2% ซึ่งจะพยายามทำทุกวิถีทาง สร้างความมั่นใจ สร้างความเข้าใจให้ทุกคนได้ทราบก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา เกิดปัญหาหลายเรื่องจะทำอย่างไรไม่ให้วันที่ 14 พ.ค.เกิดเหตุอีกนั้น ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งแล้วเกิดปัญหาจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุและหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิของผู้ที่ใช้สิทธิไปแล้ว นั่นคือเป้าหมายหลักของเรา ไม่อยากให้ทำงานผิดพลาด แต่หากพบข้อผิดพลาดประเด็นใดจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และต้องแก้ไขโดยทันที ซึ่งข้อผิดพลาดที่ได้รับรายงานมาจะกำชับสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน ว่าจุดไหนที่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีก

เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งล่วงหน้า ทำให้ กกต. ตกเป็นเป้าและถูกโจมตีนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกว่าตกเป็นเป้าและถูกถล่ม แต่อีกทางรู้สึกดีใจว่าการทำงานของเรามีคนช่วยตรวจสอบ ทั้งการทำงานของ กกต. และการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีถ้าไม่มีการตรวจสอบจากภาคประชาชนโดยสื่อมวลชน การทำงานของ กกต. อาจไม่ 100%

เมื่อถามถึงปัญหาการใส่รหัสหน้าซองผิด และการที่ไม่ได้จ่าหน้าซองเลย จะทำอย่างไร ประธาน กกต. กล่าวว่า มีน้อยมาก เพราะคนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ 2.2 ล้านคน มีข้อผิดพลาดแต่ไม่เยอะ โดยพบว่ามีการกรอกเขตเลือกตั้งผิด ไม่ใช่กรอกรหัสไปรษณีย์ แต่เมื่อมีการหย่อนบัตรลงไปในหีบเลือกตั้งแล้ว หลัง 17.00 น. ก็จะมีการตรวจสอบแต่ละหน้าซองว่าถูกต้องหรือไม่ และจะแก้ไขแล้วส่งไปในจุดหมายที่ควรจะเป็น

ด้านนายแสวง กล่าวเพิ่มว่า เมื่อเกิดปัญหาการจ่าหน้าซองผิด สำนักงาน กกต. ได้แจ้งไปยัง ผอ.เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ว่าก่อนมอบบัตรให้กับไปรษณีย์ให้ตรวจหน้าซองก่อน เพราะพบข้อผิดพลาด และเมื่อประสานไปทางไปรษณีย์ ก่อนรับให้ตรวจนับว่าหน้าซองมีการกรอกตัวเลขหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วจนถึงวันนี้ ไม่พบว่าไม่มีการจ่าหน้าซอง มีแต่การกรอกเกรดผิดก็ต้องมีกรรมการวินิจฉัย

เมื่อถามว่าที่มีคนจะไปฟ้องร้องเอาผิด กกต. ตามมาตรา 157 หรือการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะ หรือล้างไพ่ใหม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นแค่กระแสและความคิดของคนที่เห็นว่าการทำงานของ กกต. เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้ กกต. ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะเราเป็นเจ้าหน้าที่เป็นพนักงาน ถ้าเห็นว่าการทำงานของ กกต. บกพร่องและต้องได้รับการพิจารณา ก็เป็นสิทธิ์ที่จะฟ้องได้กับผู้ที่มีอำนาจตัดสินการทำหน้าที่ของ กกต. ไม่มีปัญหา ซึ่งทุกครั้งที่มีการฟ้องร้องก็ต้องพร้อมสู้คดี ที่สู้เพราะเราปฏิบัติงานโดยสุจริต ปฏิบัติตามกฎหมาย อีกทั้งตอนนี้ไม่มีปัจจัยที่ต้องเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ และการเลือกตั้ง 14 พ.ค. เสียงลงคะแนนเป็นอย่างไรก็เป็นเช่นนั้น

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด รทสช. ทำการเมืองตามอุดมการณ์  ใช้งบตามกรอบกม. ไร้งบหนุนผู้สมัครฯ ที่จะมาขอเพิ่ม 

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ทำการเมืองตามอุดมการณ์ พร้อมยึดมั่นในหลักการ “ปกป้องสถาบัน รับใช้ชาติและประชาชน” ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และใช้งบประมาณตามกรอบกฎหมาย หลังมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ออกมาเรียกร้องให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย

(9 พ.ค. 66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ภาคอีสาน ออกมาเรียกร้องให้พรรคดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ว่า วันนี้ตนในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับมอบหมายให้มารับฟังข้อเรียกร้องของพวกท่าน เพื่อนำไปเรียนผู้ใหญ่ของพรรค ว่าพรรคมีข้อผิดพลาดอย่างไรในการดำเนินงาน ตามอุดมการณ์ของพรรค และมีนโยบายเรื่องใดที่จะต้องนำไปแก้ไข

แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่ได้มีทุนทรัพย์มาก เงินบริจาคที่ได้รับมา จึงต้องใช้ในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างประหยัดและระมัดระวัง อีกทั้ง พรรคไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง ด้วยเป้าหมายต้องการทำการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม กระทำการหาเสียงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามกติกาของ กกต. และรัฐธรรมนูญ ซึ่งการดำเนินงานตามนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแต่อย่างใด

อีกทั้ง พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช้สถาบันทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้อง จึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด ส่วนเรื่องงบประมาณ ท่านก็ควรจะทราบว่าท่านมีงบประมาณอยู่เท่าไร ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎกติกาของ กกต. ก็ควรจะบริหารให้อยู่ในกรอบที่ตัวเองรับได้ และไม่เดือดร้อน

ชาวสงขลากว่า 6 หมื่น แห่ฟังปราศรัยใหญ่ ปชป. ด้าน 'นิพนธ์' ลั่น!! ประชาธิปัตย์ ไม่มีวันตาย

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และขุนพลฝีปากกล้าพรรคประชาธิปัตย์, นางวทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ประธานคณะกรรมการการเมืองพรรคปชป. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) ประธานการศึกษาทันสมัยพรรคปชป. ร่วมด้วยผู้นำท้องที่ โดยนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบ จ.สงขลา และสมาชิกสภา อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ขอคะแนนเสียงช่วย 3 ผู้สมัคร 3 เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 และเขต 3 นายสมยศ พลายด้วง ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 และขอเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 26 ณ สนามสอนขับรถยนต์ คลอง ร.5 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องว่าทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์ เพราะหลายคนมองว่าประชาธิปัตย์ไม่ทำอะไรเลย จึงขอเรียนว่าสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำ อยากให้ทุกคนลองไปทบทวน อย่างน้อยบางสิ่งที่บอกได้คือ เรื่องของนมโรงเรียน ประชาธิปัตย์คิดสมัยท่านชวนเป็นนายก ตั้งแต่ปี 2536 มาถึงวันนี้ ปี 2566 ลูกหลานทุกคนยังได้ดื่มนมโรงเรียน นี่คือนโยบายประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่ท่านชวนคิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วยังไม่มีใครกล้ายกเลิก ให้ดื่ม 5 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ ปีหนึ่งดื่ม 250 วัน รอบนี้ประชาธิปัตย์มาประกาศถ้าได้เป็นแกนนำร่วมรัฐบาลจะให้ลูกหลานพี่น้องดื่มนมตลอดทั้งปีคือ 365 วัน นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำในเรื่องสร้างคน และด้วยนโยบายของพรรค ทำให้ลูกหลานได้กินอาหารกลางวันอีก และลูกหลานพี่น้องถ้าจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็ต้องขายนาขายสวน ส่งให้ลูกเรียน มาวันนี้พี่น้องสามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาไม่ต้องขายนาขายสวน ซึ่งท่านชวนได้ตั้งกองทุน กยศ.ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานได้ เรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กที่จบด้วยทุน กยศ.มีเป็นหกล้านคน นี่คือสิ่งที่พรรคทำ ยังไม่พอสมัยที่ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายก นายจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษามีฟรี 5 อย่างคือชุดนักเรียนฟรี กระเป๋าหนังสือฟรี รองเท้าฟรี ทัศนศึกษาฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี ประชาธิปัตย์คิดเพิ่อลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องมาถึงวันนี้ก็ยังใช้ฟรี แต่ถ้าไม่มีนโยบายนี้ทุกคนต้องจ่ายเงินเอง 

วันนี้ประชาธิปัตย์คิดต่อ และรอบนี้ถ้าพรรคไปเป็นแกนนำรัฐบาล จะให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน นี่คือความหมายสร้างคนของประชาธิปัตย์ คิดเรื่องสร้างคน เมื่อเทียบนโยบายต่อนโยบายว่าพรรคการเมืองเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์เวลาบอกกับพี่น้อง พูดอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้จะไม่พูด นี่คือประชาธิปัตย์ 

พี่น้อง อสม. ก็เช่นกัน ได้ค่าตอบแทนในสมัยที่ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายก และเป็นคนแรกที่ให้ค่าตอบแทนแก่ อสม.เพราะนี่เป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ มาถึงวันนี้ยังไม่มีใครกล้ายกเลิกเบี้ยผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่ท่านชวนให้คนละ 200 บาท ไว้ซื้อหมากซื้อพลู ไข่เป็ด ไข่ไก่แต่ให้เฉพาะคนจน ต่อมาเพิ่มเป็น 300 บาท จนถึงพลเอกสุรยุทธ ให้ 500 แต่ยังให้กับคนจน จึงเป็นที่มาที่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนคัดเลือกคนจนเอง จนมีข้อครหานินทาเกิดขึ้น นี่คือความไม่เท่าเทียมจนถึงสมัยท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราคงบอกว่าใครอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ทุกคน นี่ก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 ประชาธิปัตย์ไม่ตายแล้ว เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมา 8 คน ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์, หม่อมเสนีย์ พ.อ.ถนัด คอมันต์, นายพิชัย รัตกุล, นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ,  นายอภิสิทธิ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีวันตาย ขอให้เชื่อได้ พรรคบางพรรคขอมาเป็นนายกปีกว่าๆ เท่านั้น แต่ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง จึงไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่เลือกนายชวน เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไม่เลือกนายชวน

นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว ซึ่งถ้าวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถ้าพี่น้องเลือกประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล ประชาธิปัตย์มีนโยบายอีกหลายเรื่อง 

พี่น้องข้าราชการ เราจะเอาเงินที่เป็นสมาชิก กบข. ที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือของกระทรวงแรงงาน เราจะเอาเงินจากกองทุนสมทบที่มีอยู่ในสองกองทุนนี้ประมาณเกือบสามล้านล้านบาท เราจะเอาออกมาเพียง 10% หรือ สามแสนล้านมาให้พี่น้องไปซื้อบ้านได้ หรือนำไปชำระหนี้ค่าผ่อนบ้านได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน นี่คือทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์ พี่น้องไม่ต้องเป็นหนี้ไม่ต้องรับภาระเรื่องดอกเบี้ย เงินของพี่น้องที่ฝากอยู่ในกองทุนทุกๆ เดือน เอาเงินนี้มาให้ข้าราชการมาชำระหนี้ได้เลย นี่ประชาธิปัตย์คิดเรื่องแบบนี้ นี่คือสิ่งบอกว่าทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์

'ชัช เตาปูน' ชวนคนไทยปกป้อง ‘ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’ 14 พ.ค. เลือก รทสช. ทั้ง 2 ใบ ดัน ‘ลุงตู่’ เป็นนายกฯ

(9 พ.ค. 66) จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการที่ล้วงลึกทุกฉากการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ได้เชิญ ‘นายชัชวาลล์  คงอุดม’ หรือที่รู้จักกันในนาม 'ชัช เตาปูน' ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมถกประเด็นก่อนการเลือกตั้ง โดยช่วงหนึ่งนายชัชวาลล์ได้พูดถึงการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พ.ค. 66 พร้อมชักชวนให้คนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะ ๆ และลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อดัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย 

นายชัชวาลล์กล่าวถึงเหตุผลที่เข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เพราะเชื่อมั่นในตัว ‘บิ๊กตู่’ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา โดยระบุว่า…ลุงตู่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และถือว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังซื่อสัตย์ ไม่มีการโกงกินบ้านเมือง 

เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคที่ครองใจมหาชนทั่วประเทศที่รับรู้ได้จากการเดินสายหาเสียงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายชัชวาลล์ระบุว่า ก็เป็นคนละครึ่งนะ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชาวบ้านชอบนะ แล้วนโยบายเรามี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส เพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท และสามารถเอาไปกู้เงินมาใช้จ่ายได้อีกนะ ดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบ เสียดอกเบี้ยแพง ๆ

เมื่อถามถึงเสียงตอบรับในภาคอีสานมีมากน้อยแค่ไหน นายชัชวาลล์ ระบุว่า ต้องบอกแบบนี้ เวลาเขาสำรวจโพลกัน ก็จะสำรวจในโลกโซเชียล ทำให้คนที่เขาไม่ได้เล่นโซเชียลไม่ได้ตอบ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ จึงไม่มั่นใจว่าในภาคอีสานเราจะชนะขาดหรือไม่ อีกทั้งการสำรวจโพลก็สอบถามเฉพาะกลุ่มที่นิยมชมชอบฝั่งนั้นอย่างเดียว ทำให้ผลโพลที่ออกมาเอนเอียงไป แต่ส่วนมากคนสูงอายุจะคิดถึงเรื่องความเป็นอยู่ เขาก็คิดว่ามีกะปิ พริก น้ำปลาติดตู่กับข้าวได้ก็เพราะลุงตู่ แต่สำหรับเด็ก ๆ ก็จะมองต่างออกไป 

เมื่อถามการที่มาช่วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะพบเจอกับความผิดหวังเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่? นายชัชวาลล์ระบุว่า เชื่อว่าไม่ผิดหวังนะ เพราะพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแค่ 2 ปี โดยมีการพิสูจน์มาแล้วตั้ง 8 ปี ทุกอย่างโอเคหมด ผมฟังท่านพูด ผมคิดว่าท่านรู้ทุกอย่างนะ ท่านเข้าใจปัญหาดี ท่านเก่ง แต่เวลาสัมภาษณ์ถูกนักข่าวจี้จุด ก็เลยมีหงุดหงิดไปบ้าง แต่เวลาเราคุยกันท่านก็เฮฮา มีอารมณ์ขัน ไม่เป็นอย่างที่เห็นตามหน้าสื่อเลย

เมื่อถามว่า เชื่อหรือว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแต่ 2 ปี นายชัชวาลล์ ระบุว่า ผมเชื่อแบบนั้น ในความรู้สึกผม ถ้าท่านไปได้ก็คงไปแล้ว ที่ผ่านมาโดยสารพัด เพราะคนไม่เข้าใจ แต่พูดตรง ๆ เลยนะ ฝ่ายนั้นกำลังมา ตอนนี้มีคนจ้องจะแก้ม.112 หากแก้ไปแล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไร คนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์คงยอมไม่ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top