Tuesday, 1 July 2025
NEWSFEED

ถกสนั่นโซเชียล!! เปิดรับพนักงาน ‘คาเฟ่หมา’ ต้องจบป.ตรี พูดได้ 2 ภาษา รายได้ 12,000

เป็นอีกประเด็นให้ถกเถียงในโลกออนไลน์ หลังจากที่ เฟซบุ๊ก ‘หางาน Part Time งานพิเศษ งานประจำ ปี 2565’ ได้โพสต์ภาพและข้อความของ ‘คาเฟ่หมา’ แห่งหนึ่งที่ประกาศรับสมัครตำแหน่งพนักงานดูแลน้องหมา โดยระบุว่า ต้องผ่านทดลองงานก่อน จึงจะรับเข้าทำงาน ซึ่งวันทดลองงานไม่มีค่าแรง แต่มีบริการอาหารเครื่องดื่มให้

อีกทั้งประกาศรับสมัครงานของ ‘คาเฟ่หมา’ ยังระบุรายได้โดยได้เงินเดือน 12,000 บาท และประกันสังคม สวัสดิการฟรีอาหาร เครื่องดื่ม 3 มื้อ มีการปรับเงินเดือนพร้อมเข้าประกันสังคมเมื่อผ่านโปร 3 เดือน

โดยผู้ที่จะสมัครจะต้องมีงานที่ ‘คาเฟ่หมา’ ต้องคุณสมบัติมีดังนี้...
- อายุ 20-35 ปี
- รักสุนัขและสามารถดูแลสุนัขได้
- จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
- สื่อสารภาษาอังกฤษหรือจีนได้ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
- ทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ (full time)

เรื่องเล่าจากกรุงลอนดอน ณ วัดพุทธปทีป (2527) ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ 'เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์'

"ผมพร้อมที่จะตายแล้วครับ" ใจความที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจาก 'เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์' ในวันที่ได้ลุล่วงภารกิจงานวาดรูปที่วัดพุทธปทีป ณ กรุงลอนดอน

สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์แรงบันดาลใจดีๆ ในการใช้ชีวิตผ่านเรื่องราวของ 'อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์' ซึ่งปรากฏอยู่ในบทความจากหนังสือ : 'ผมวาดชีวิตผม เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์' ผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ เรื่องเล่าจากกรุงลอนดอน ณ วัดพุทธปทีป (พ.ศ.2527) ว่า...

"บางช่วงท้อแท้ที่สุด รู้สึกว่า กูไม่เอาแล้ว จะเอาสีไปราดรูปแล้วก็เลิกไปเลย แต่ปัญญาและสุวรรณมันมาห้ามเอาไว้ 2 ครั้ง แต่เชื่อมั้ยตอนหลังพี่ก็พลัดไปห้ามปัญญาบ้าง คิดดูขนาดคนอย่างปัญญายังจะเอาเลย มันแย่ถึงขนาดนั้น"

แต่ความที่เป็นคนยอมแพ้ไม่ได้ ดูจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่รั้งเขาอยู่ วันที่ความรู้สึกตกต่ำที่สุด เฉลิมชัยนั่งอยู่หน้าโบสถ์เขาจ้องหน้าหลวงพ่อดำในจิต กล่าวอธิษฐานในใจว่า...

"หลวงพ่อครับ ปัญหามันเยอะเหลือเกิน ผมเหนื่อยเหลือเกินแล้ว ผมขอให้หลวงพ่อช่วยให้เขียนรูปเสร็จเสียที แล้วหลวงพ่อก็มาเอาชีวิตผมไปเลย..ผมยอมตาย"

นั้นคือการเดิมพันชีวิต ด้วยชีวิตของคนที่รักที่จะใช้ชีวิตอย่างที่สุด!!

เขาเล่าว่าราวกับปาฏิหาริย์เกิด เพราะหลังจากนั้นก็มีข่าวว่าพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นจะเดินทางมาพบกับคนไทยในกรุงลอนดอน เฉลิมชัยไม่รอช้า เขาเห็นโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือจากท่านนายกฯ เพื่อทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จ

ในวันที่มีงานเลี้ยงในสถานทูตไทย เฉลิมชัยซึ่งแต่งตัวง่ายๆ มาตลอด ก็ทำเอาพวกตาค้าง เพราะชุดแปลกออกทาง เวอร์สุดติสท์ของเขาเล่นเอาคนในงานมองด้วยความงุงงงว่ามันเป็นใครกัน แถมยังไปยืนอยู่ในแถวเดียวกับบรรดาเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ที่ยืนรอรับป๋าเปรม...ในสายตาของทุกคนจึงมองไอ้หนุ่มคนนี้ว่าเป็นบุคคลที่ไร้กาละเทศะอย่างที่สุด
 

พระเอกผู้มากับความเรียบง่าย และข่าวอันน่าใจหายต่อการจากไป

เมื่อ 6 ปีก่อน เกิดข่าวร้ายเกิดขึ้นกับวงการบันเทิงไทย เมื่อพระเอกคนดังอย่าง ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ได้เสียชีวิตลง ถือเป็นข่าวความสูญเสียที่พาให้ผู้คนใจหายไปตามๆ กัน

ปอ-ทฤษฎี เป็นพระเอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขามีบุคลิกท่าทางอันเรียบง่าย โดยมีผลงานการแสดงครั้งแรกในปี 2548 เรื่องลิขสิทธิ์หัวใจ ทางช่อง 3 หลังจากนั้นปอก็ก้าวขึ้นมาเป็น ‘พระเอกหน้าใหม่’ ที่น่าจับตา ปอไม่ใช่พระเอกรูปหล่อ หน้าเป๊ะ ทุกอย่างเพอร์เฟคท์ แต่กลับกัน เขามีความเป็นธรรมชาติ การแสดงของเขามีความลื่นไหล ดูแล้วเพลินตา และละครหลายๆ เรื่องที่ได้รับบทบาท ก็มักจะได้รับบทตัวละครที่เราสามารถเห็นได้ในชีวิตจริง 

ส่วนในชีวิตจริงของปอ เขาก็เป็นคนสบายๆ เรียบง่าย แถมเจ้าตัวยังสนใจในวิถีการเกษตร จนซุ่มไปปลูกไร่ ทำสวน กลายเป็นอีกเส้นทางชีวิตหนึ่งในชีวิตของเขานอกจากงานในวงการบันเทิง แต่แม้ชีวิตจะดูเรียบง่าย ไม่ค่อยเป็นช่าวคราว แต่ปอก็มีข่าวใหญ่ นั่นคือ เขาซุ่มคบหากับ โบว์-แวนด้า แถมยังลูกน้อยแล้วด้วยกันแล้วหนึ่งคน  

ปรากฏการณ์รวมตัว 5 พระเอกตัวเทพแห่งยุค 80

‘ปกนิตยสาร’ ที่เคยสร้างกระแสฮอตๆ เมื่อครั้งที่ออกวางแผง นิตยสารฉบับนั้นก็คือ นิตยสารแพรว และเมื่อสำรวจดูกันที่ภาพปก หื๋มม! จะไม่ให้ฮอตอย่างไรไหวจ้ะแม่ ลำพังแค่เห็นหน้าเหล่าบรรดานายแบบที่มาขึ้นปก อาจต้องเผลออุทาน ว้าว ว้าว ว้าว เป็นรายการชิงร้อยชิงล้านกันไปเลย 

นี่เป็นนิตยสารแพรว ออกวางแผงเมื่อปี 2533 เรียกว่าสร้างความฮือฮา เพราะจับเอา 5 พระเอกชื่อดังแห่งยุค หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นตัวเทพของวงการบันเทิงในเวลานั้น อันได้แก่ วิลลิ่ แมคอินทอช วรุฒ วรธรรม ฉัตรชัย เปล่งพานิช ลิขิต เอกมงคล และจอนนี่ แอนโฟเน่

ในเวลานั้นแต่ละคนฮอตจริงอะไรจริง ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของวงการ แยกกระจายกันไปตามค่าย ตามช่องต่างๆ และมีผลงานละครออกมาแข่งกันเป็นว่าเล่น ซึ่งแน่นอนว่า คิวของพวกเขาเหล่านี้ แน่นเอี๊ยดจนนึกไม่ออกว่าจะหาจังหวะเวลาไหนมาเจอกันบนปกแบบนี้ได้

เอ่อม แต่นิตยสารแพรว ทำได้! ชนะเลิศ! ลองคิดดูว่าถ้าเป็นยุคนี้ พระเอกคนไหนเกิดมาไม่ทันเพื่อน ทีมงานคงอาจใช้วิธีรีทัชภาพไปใส่รวมกับคนอื่นๆ แต่สำหรับยุคก่อน ทุกอย่างต้องสมจริง ถ้ามี 5 คนในเฟรมภาพ ก็ต้อง 5 คนจริงๆ จึงต้องปรบมือในความพยายามของทีมงานแพรว เพราะต้องใช้วิทยายุทธกันสุดเหวี่ยง กว่าจะได้เหล่าพระเอกคิวทองเหล่านี้มาได้

รู้จัก มูลนิธิพลเอก เปรม ฯ กรมดุริยางค์ทหารบก แหล่งปั้น ‘นักดนตรีทหาร’ มรดกจาก ‘รัฐบุรุษศิลปิน’

จะเป็นการดีแค่ไหน? หากได้เรียนดนตรี แล้วยังมีโอกาสได้ประดับยศบนบ่า!! 

แน่นอนว่า เรื่องเหล่านี้จะมิมีวันเป็นไปได้ หากปราศจากการสนับสนุนของ ‘มูลนิธิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ กรมดุริยางค์ทหารบก เพื่อพัฒนาการดนตรี’ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่คู่กรมดุริยางค์มายาวนาน และคอยสรรสร้างนักเรียน รวมถึงนักดนตรีทหาร มานับไม่ถ้วน 

มูลนิธิแห่งนี้เกิดขึ้นภายใต้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ หรือ ‘ป๋าเปรม’ ที่คนไทยเรียกกันติดปาก ซึ่งเดิมท่านถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ให้ความรักต่อเสียงดนตรีมาอย่างยาวนาน และนั่นก็เป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เกิดการก่อตั้ง ‘มูลนิธิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ กรมดุริยางค์ทหารบก เพื่อพัฒนาการดนตรี’ ขึ้นมา

สำหรับมูลนิธิฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงกิจการดนตรีของกองทัพบก ให้มีความทันสมัย ทั้งทางด้านบุคลากรนักดนตรี และอุปกรณ์เครื่องดนตรี รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆ ด้านเสียงเพลง อีกทั้งยังมีการผลักดันให้เกิดมาตรฐานของห้องแสดงดนตรีที่มีระบบเสียงสมบูรณ์แบบ เพื่อใช้ในการแสดงดนตรี หรือฝึกซ้อมการแสดงต่างๆ ตลอดจนห้องบันทึกเสียงที่มีคุณภาพระดับสากล สามารถผลิตผลงานทางดนตรีที่มีคุณภาพได้ 

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความรักในเสียงดนตรีของ ‘ป่าเปรม’ ทำให้ท่านมีส่วนในการประพันธ์บทเพลงไว้มากถึง 200 บทเพลง ซึ่งทางมูลนิธิก็เปิดกว้างสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บทเพลง สามารถทำหนังสือขออนุญาตได้อีกด้วย

นอกจากบทบาทของการผลักดันโลกแห่งดนตรีผ่านกองทัพแล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังมีความประสงค์เป็นตัวแทนภาคสังคมในการสนับสนุนเพื่อให้ทุนการศึกษากับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ จนถึงการจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อยอดให้เยาวชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง

‘เชอรี่ เข็มอัปสร’ กับบทบาทอาจารย์พิเศษ ถ่ายทอด “วิถีธรรม วิถียั่งยืน” ให้นร.ปรับใช้ในชีวิต

‘เชอรี่ เข็มอัปสร’ กับบาทบาทอาจารย์พิเศษ บรรยายหัวข้อ "วิถีธรรม วิถียั่งยืน" ให้นักเรียนกว่า 500 คนฟัง เผยมีความสุขที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การปฏิบัติธรรม การนำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งเก่ง สำหรับนางเอกสาว ‘เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ  นักแสดงมากความสามารถ ซึ่งได้พักงานในวงการบันเทิงมาเเล้วพักใหญ่ เพื่อให้เวลากับการศึกษาเล่าเรียนจนประสบความสำเร็จในระดับสูง ล่าสุดได้มีอีกหนึ่งบทบาท ด้วยการผันตัวมาเป็นอาจารย์พิเศษรับบรรยายตามมหาวิทยาลัยเเละโรงเรียน

ทวดเวเนฯ ครองแชมป์ ‘ชายอายุยืนที่สุดในโลก’ เตรียมฉลองวันเกิดครบ 113 ปี ศุกร์นี้

ฮวน วิเซนเต เปเรซ โมรา (Juan Vicente Perez Mora) คุณทวดชาวเวเนซุเอลา ได้รับการประกาศยืนยันโดย “กินเนสส์ เวิลด์ เรกคอร์ด” ให้เป็นชายที่อายุยืนที่สุดในโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเขาจะมีอายุครบ 113 ปีในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (27 พ.ค.)

เปเรซ โมรา มีหลานแล้วทั้งหมด 41 คน, เหลน 18 คน และลื่ออีก 12 คน แต่ทุกวันนี้ยังคงแข็งแรงดี และดื่มเหล้า ‘aguardiente’ วันละถ้วยเป็นประจำ

เอนริเก กุซมัน แพทย์จากคลินิกในเมืองซานโฮเซเดอโบลิวาร์ รัฐตาชิรา (Tachira) ให้ข้อมูลว่า นอกจากความดันโลหิตที่สูงเล็กน้อยและหูที่เริ่มตึงไปตามวัย คุณทวดต้องถือว่าเป็นผู้สูงวัยที่มีสุขภาพดีมากๆ และไม่ต้องรับประทานยาเลย

“ผมว่าท่านยังแข็งแรงดีมากเลยล่ะ” นพ.กุซมัน กล่าว

เปเรซ โมรา กลายเป็นเจ้าของสถิติโลกคนใหม่ หลังจากที่ ซาตูร์นิโญ เด ลา ฟูเอนเต การ์เซีย (Saturnino de la Fuenta Garcia) คุณทวดชาวสเปนซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ปี 1909 ได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 112 ปี กับอีก 341 วัน


ที่มา: รอยเตอร์  https://mgronline.com/around/detail/9650000049912
https://kitnew.co/thebosstimes

พระพรหมบัณฑิต ยกคติธรรมจาก ‘คนขับแท็กซี่’ ‘รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักปล่อยวาง’ นำพาชีวิตเป็นสุขได้

พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร โพสต์เฟซบุ๊ก ‘คติธรรม วาทะธรรม พระพรหมบัณฑิต’ ข้อความว่า

อาตมาเรียกแท็กซี่คันหนึ่งเพื่อให้ไปส่งที่วัดมหาธาตุ ตกลงจะจ่ายค่าโดยสาร ๕๐ บาท

อาตมานั่งข้างหน้าคู่กับคนขับเมื่อรถแล่นไปพักหนึ่ง คนขับแท็กซี่ถามว่า ท่านบวชพระมานานแล้วหรือ

อาตมาตอบว่าบวชมานานแล้ว

เขาถามต่อ “ท่านบวชแล้วมีความสุขดีหรือ”

“ก็เรื่อย ๆ นะ” อาตมาตอบแล้วถามกลับไปบ้างว่า

“คุณขับแท็กซี่มานานแล้วหรือ” 

“นานแล้วครับ ผมขับแท็กซี่มา ๒๗ ปีแล้วครับ”

“ขับแท๊กซี่แล้วมีความสุขดีหรือ”

“มีความสุขมากครับ ผบขับแท็กซี่แล้วผมดับทุกข์ได้”

เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ทำให้อาตมานึกถึง เรื่องสิทธาถะที่พายเรือข้ามฟากขึ้นมาทันที

“คุณขับแท็กซี่ตลอดเวลาไม่เคยประกอบอาชีพอื่น เลยหรือ” อาตมาถามต่อ

เขาตอบว่า “ผมเคยขับรถที่กระทรวงแห่งหนึ่ง แต่ผมอยู่ไม่ได้ ผมไม่ชอบระบบราชการที่เล่นพรรคเล่นพวกกันเหลือเกิน ทำราชการต้องมีเส้นสายครับ ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงาน ค่าของคนอยู่ที่ว่าเป็นคนของใคร ผมเบื่อหน่ายจึงลาออกไปเป็นพนักงานขับรถที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ผมก็อยู่ไม่ได้”

“ทำไม ที่มหาวิทยาลัยนั้นก็มีการเล่นพรรคเล่นพวกกันหรือ”
.
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมขอถามหน่อย คนเราเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร คนเรียนมากเป็นคนฉลาดมากขึ้นใช่ไหม”

“ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น”

‘ลูกหนัง ศีตลา’ ถอนตัวจากวง H1-KEY แล้ว หลังเดบิวต์ผ่านมาเพียง 5 เดือนเท่านั้น

วันนี้ (25 พ.ค.2565) สำนักข่าวเกาหลีใต้ รายงานว่า บริษัท GLG ต้นสังกัดของวง H1-KEY ออกแถลงการณ์ประกาศว่าเมมเบอร์ชาวไทย ‘ลูกหนัง’ ศีตลา วงษ์กระจ่าง ถอนตัวออกจากวงเกิร์ลกรุ๊ป H1-KEY เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว 

ทั้งนี้ ต้นสังกัด ยังระบุว่า บริษัทได้หารืออย่างจริงจังกับศีตลาและสมาชิกมาเป็นเวลานาน ก่อนจะได้ข้อสรุปหลังตัดสินใจจากภาพรวมสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมขออภัยกับการแจ้งข่าวอย่างกะทันหันในครั้งนี้ และจะพยายามเต็มที่เพื่อให้วง H1-KEY คัมแบ็กพร้อมอัลบั้มใหม่โดยเร็วที่สุด

วงเกิร์ลกรุ๊ป H1-KEY ประกอบด้วย 4 เมมเบอร์ Soei Riina Yel และ Sitala (ศีตลา) เปิดตัวมิวสิกวิดีโอซิงเกิ้ลแรกด้วยเพลง ‘Athletic Girl’ เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2565 

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปิดตัวเมมเบอร์ในวง ก็เกิดกระแสในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับมุมมองทางการเมืองในประเทศไทยของครอบครัวและตัวลูกหนังจนเกิดแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์หลายวัน และสำนักข่าวเกาหลีใต้ก็ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับปฏิกิริยาของชาวโซเชียลในครั้งนี้ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top