Wednesday, 23 April 2025
โรงงานพลุระเบิด

'รองฯต่าย' เผยล่าสุดคดีโรงงานพลุระเบิดคืบหน้าไปมาก กำชับเร่งตรวจอัตลักษณ์ศพเสร็จภายใน 2 วัน ตรวจเสร็จแล้ว 5 ราย อนุญาตให้ญาติรับร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาได้วันนี้

วันที่ 18 ม.ค.2567 (13.00 น.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป.)ได้เดินทางมาที่ ศปก.สน. (วัดโรงช้าง สุพรรณบุรี) พร้อมได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยมารายงานให้ข้อมูลถึงความคืบหน้าการดำเนินการต่างๆ จากกรณีเกิดเหตุระเบิดโรงงานผลิตพลุไฟ ตามที่ได้สั่งการไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีผลความคืบหน้าในการดำเนินการดังนี้  การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตสามารถค้นหาได้ครบ 23 ร่าง ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตมาที่วัดโรงช้างเพื่อเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์

ในที่เกิดเหตุชุดปฏิบัติ EOD และพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่าง การปฎิบัติงานภาคสนามในที่เกิดเหตุ เพื่อให้การเคลียร์พื้นที่เกิดความปลอดภัยสูงสุดและเก็บพยานหลักฐานต่างๆประกอบการสอบสวน ส่วนการร่วมพิสูจน์อัตลักษณ์ศพผู้เสียชีวิตมีทีมแพทย์จากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจและแพทย์จากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี ร่วมปฎิบัติ ซึ่งขณะนี้ตรวจเสร็จสิ้นแล้ว 10 ร่าง(ศพ) ในประเด็นนี้ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจให้เสร็จสิ้นภายในคืนนี้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับในกระบวนการขั้นตอนตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันว่า ร่างผู้เสียชีวิตเป็นใครและเป็นญาติของใคร ได้มีการแบ่งหน้าที่กันระหว่างนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจและสำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยนิติเวชจะตรวจดีเอ็นเอจากร่างศพผู้เสียชีวิตและสำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานจะตรวจดีเอ็นเอของญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย และจะนำมาตรวจพิสูจน์ว่าร่างผู้เสียชีวิตรายใด เป็นของญาติของใคร ในประเด็นนี้ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 2 วัน เพื่อให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ซึ่งในการตรวจพิสูจน์ว่าศพเป็นใครสามารถตรวจได้โดย 4 วิธีคือ(1. )ญาติยืนยันจากสภาพทางกายภาพศพ ที่สามารถจำได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน (2.)การตรวจพิสูจน์จากลายพิมพ์นิ้วมือ (3.)การตรวจฟันและ (4) การตรวจ DNA  ซึ่งในขณะนี้ สามารถตรวจพิสูจน์จากลายพิมพ์นิ้วมือได้อย่างชัดเจนแล้วจำนวน 5 ราย โดยการคืนศพให้ญาติรับไป ซึ่งในการส่งมอบคืนศพ ผู้เสียชีวิตให้กับญาติรับไป จะดำเนินการโดยคณะกรรมการคืนศพ ที่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7ได้แต่งตั้ง ขึ้นมา และทั้ง 5 ราย จะคืนให้ญาติรับศพไปดำเนินการทางพิธีศาสนาในวันนี้ 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ยังได้กล่าวอีกว่า “เรื่องการพิสูจน์หาสาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้ หรือ การดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามกระบวนการสืบสวนสอบสวน แต่การดำเนินการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง คือ การตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์จากร่างผู้เสียชีวิตว่า เป็นใครและเป็นญาติของครอบครัวใด เพื่อมอบศพให้ญาติได้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีและตำรวจควรจะต้องช่วยเหลือ ดูแล เยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้กับญาติของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อเป็นการบรรเทาความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำอย่างยิ่ง มากกว่า ”
  
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ ผบช.สพฐ.ตร. และ ผบก.นต. รพ.ตร. เร่งรัดตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ศพให้เสร็จสิ้นภายใน 2 วัน เพื่อคืนศพให้ญาติรับไป และ ได้เสนอแนวคิดให้ ผบก.ภ.จว. สุพรรณบุรี เปิดบัญชี เชิญชวนข้าราชการตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือตามความสมัครใจและความเหมาะสม เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้ที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักไปในเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ต่อไป ”รอง ผบ.ตร.กล่าว“

‘วราวุธ’ เดินหน้าช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต เหตุ ‘โรงงานพลุระเบิด’ ห่วงสุดเด็ก 8 ขวบ สูญเสียทั้งพ่อแม่ กำชับ!! จนท.ประกบ 24 ชม.

เมื่อวานนี้ (18 ม.ค. 67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า จากรายงานล่าสุดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยันผู้เสียชีวิต 23 ราย และครอบครัวที่เสียชีวิตทั้งบิดามารดา จำนวน 3 ครอบครัว ซึ่งทางกระทรวง พม. ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนลำดับต้น เด็กเล็กสุดที่เสียทั้งคุณพ่อคุณแม่อายุเพียง 8 ขวบ เรียนป.2 และยังมีเยาวชนอายุ 16 ปี-ม.4 และ อายุ 18 ปี-ม.6 ซึ่งตนได้คุยกับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา แล้วว่าทางมูลนิธิ จะดูแลเรื่องการศึกษาของน้อง 3 ครอบครัวที่ที่อยู่ในวัยเรียนให้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วง และที่สำคัญตน ขอขอบพระคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ที่ได้ให้เกียรติลงพื้นที่ช่วยเป็นกำลังใจและดูแลพี่น้องประชาชนที่สุพรรณบุรี รวมไปถึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานราชการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ที่ได้ระดมสรรพช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

นายวราวุธ กล่าวว่า ยืนยันว่าทางกระทรวง พม. จะมีการทำบุญครบ 7 วันให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ และระดมให้ความช่วยเหลือในส่วนของการซ่อมแซมบ้าน ซึ่งทางกระทรวง พม. กำลังเร่งสำรวจ และเร่งดำเนินการให้ นอกจากนี้ได้จัดให้มีนักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา ประกบญาติทั้ง 23 ราย ซึ่งตัวเลขคือ 17 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยให้มีเจ้าหน้าที่ประกบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 10 วันแรก และเจ้าหน้าที่พม.ระดม กำลังจากทุกจังหวัด ภายใต้โครงการ พม.หนึ่งเดียว อาทิ กาญจนบุรี นครปฐม ชัยนาท อยุธยา ระดมสรรพกำลังทั้งหมดเข้ามาช่วยดูแลพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เพราะความสำคัญนอกจากเรื่องเงินชดเชยแล้วคือเรื่องการเยียวยาจิตใจ ฃ

“นักสหวิชาชีพและนักจิตวิทยารายงานเคสที่หนักหน่อยคือกรณีน้องเด็กเล็ก 8 ขวบ ที่ยังสั่นอยู่ ซึ่งขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เห็นใจอย่างยิ่ง เพราะจู่ ๆ ก็ต้องสูญเสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ดังนั้นจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ประกบตลอด 24 ชั่วโมง” นายวราวุธ กล่าว

‘มูลนิธิบรรหาร-แจ่มใสฯ’ เตรียมมอบเงินเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด พร้อมเกื้อหนุนค่าเล่าเรียนเด็กที่สูญเสียพ่อแม่ จนจบปริญญาตรี

(19 ม.ค.67) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ในวันที่ 23 ม.ค.67 ซึ่งจะครบ 7 วันของเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิดที่ ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย ทางกระทรวงพม.จึงจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวของผู้สูญเสีย และพี่น้องประชาชนในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงประชาชนทั่วไป เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่กระทบกระเทือนจิตใจของทุกๆ คนเป็นอย่างมาก และเมื่อเสร็จจากทำบุญแล้วจะเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อให้กำลังใจ โดยเฉพาะ 3 ครอบครัวที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่ซึ่งเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว 

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ในนามตัวแทนของมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา จะได้มอบเงินให้กับ 17 ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย เพราะบางครัวเรือนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งราย โดยจะมอบให้ครัวเรือนละ 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้น มีเด็กเยาวชนที่อยู่ในวัยศึกษาซึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่อยู่ประมาณ 4 ราย ดังนั้นมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา จะช่วยสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างน้อยถึงระดับปริญญาตรี

‘วราวุธ’ ย้ำ!! เร่งช่วยเหลือครอบครัว 23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด พร้อมดูแลด้าน ‘กาย-จิตใจ-การศึกษา-รายได้และความเป็นอยู่’

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีได้รับรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย องคมนตรีได้เยี่ยมเยียน สอบถามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย เราได้รายละเอียดครบทุกคนแล้ว โดยทราบว่ามีใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะบางคนผู้ได้รับผลกระทบที่สุดคือหลาน โดยมีลูกมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน ฉะนั้น คนที่เสียชีวิตจะเป็นเสาหลัก แต่บางบ้านผู้เสียชีวิตไม่ใช่เสาหลัก ดังนั้นจึงจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า รายละเอียดทั้งหมด แบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่ สุขภาพกาย, สุขภาพจิต, เรื่องการศึกษา, รายได้และความเป็นอยู่ โดยในแต่ละมิติจะมีหลายหน่วยงานเข้ามา อาทิ เรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะเป็นเรื่องของกระทรวงพม. กับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการศึกษาก็จะมีทั้งเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามา ด้านรายได้ก็จะมีเงินประกันสังคม จากกระทรวงแรงงาน ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ก็จะมีกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชนเข้ามาช่วย

อย่างไรก็ตาม ตนย้ำกับทีม พม.หนึ่งเดียวแล้วว่า ขณะที่ พม.มีวอร์รูมแล้ว ขอให้มีการประสานงานที่ดีกับหน่วยงานอื่น เพราะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สับสน

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เคสที่หนัก คือ 3 ครอบครัว เด็กเยาวชนที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก ยังเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้มีหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ทุกคนจะต้องได้เรียนต่ออย่างแน่นอน และต้องขอขอบคุณ ทุกหน่วยงาน ภาคเอกชนทุกราย และอีกหลายฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุน

“นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา รายงานกรณีเข้าประกบดูแลเคส ระบุว่า ตอนนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเครียด เศร้าและซึม จิตใจย่ำแย่ ซึ่งในช่วง 7-10 วันแรกนี้ นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยาจะประกบอยู่ทุกวันตลอดเวลา มีการประเมินสภาพจิตใจกันทุกวัน สถานการณ์หลังพูดคุยแล้วจิตใจเป็นอย่างไร และมีทีมแพทย์ ทีมนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาร่วมงานกันด้วย เราต้องตามติดกันทุกวัน เพราะในเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสภาพจิตใจกันก่อน” นายวราวุธ กล่าว

‘กัญจนา’ ทำบุญครบ 7 วัน ผู้เสียชีวิตจากโรงงานพลุระเบิด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิต รายละ 2 หมื่น

(23 ม.ค. 67) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา เป็นประธานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล ครบรอบ 7 วัน ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พลุระเบิดที่โรงงานผลิตพลุ ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ทั้งนี้ ได้ถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์ 10 รูป โดยมีญาติผู้เสียชีวิตมาร่วมพิธีจำนวนมาก พร้อมนำอาหารคาวหวาน จุดธูป ทำพิธีถวายแก่ดวงวิญญาณ บริเวณจุดเกิดเหตุท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ 

จากนั้น น.ส.กัญจนา ได้พูดคุยให้กำลังใจกับญาติ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา ให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 17 ราย รายละ 20,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งตรวจสอบโรงงานพลุในพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

‘วราวุธ’ เผย ได้มอบเงินเยียวยาเหตุ รง.พลุระเบิดแล้ว 7 ลบ. พร้อมส่งจิตวิทยาตามประกบครอบครัวเหยื่อตลอด 24 ชั่วโมง

(30 ม.ค. 67) ที่ทําเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีโรงงานพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.การเยียวยาด้านปัจจัย ซึ่งในเรื่องงบประมาณนั้น ทาง พม.ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มอบเงินไปทั้งสิ้นเกือบ 7 ล้านบาท ให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยในส่วนของ พม.นั้นได้มอบเงินเกือบ 6 แสนบาทสำหรับการเยียวยาให้ผู้สูญเสียและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการฌาปนกิจชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิต และมอบเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย

2.การเยียวยาด้านจิตใจ ซึ่งทาง พม.ได้ส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ไปพูดคุยกับทุกครอบครัวอยู่ตลอด โดยตอนนี้มี 3 ครอบครัวที่ยังน่าเป็นห่วง เช่นครอบครัวของลูกชายเจ้าของโรงงาน ซึ่งประสบเหตุการณ์มาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และมีความคิดต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยาต้องประกบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่อีกครอบครัวหนึ่ง ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย นักจิตวิทยาก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าสภาพจิตใจจะดีขึ้นตามลำดับ โดยจะดูแลไปอีกพักใหญ่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top