‘วราวุธ’ ย้ำ!! เร่งช่วยเหลือครอบครัว 23 เหยื่อโรงงานพลุระเบิด พร้อมดูแลด้าน ‘กาย-จิตใจ-การศึกษา-รายได้และความเป็นอยู่’
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีได้รับรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย องคมนตรีได้เยี่ยมเยียน สอบถามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้สำหรับผู้เสียชีวิต 23 ราย เราได้รายละเอียดครบทุกคนแล้ว โดยทราบว่ามีใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง เกี่ยวข้องอย่างไร เพราะบางคนผู้ได้รับผลกระทบที่สุดคือหลาน โดยมีลูกมีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน ฉะนั้น คนที่เสียชีวิตจะเป็นเสาหลัก แต่บางบ้านผู้เสียชีวิตไม่ใช่เสาหลัก ดังนั้นจึงจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า รายละเอียดทั้งหมด แบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่ สุขภาพกาย, สุขภาพจิต, เรื่องการศึกษา, รายได้และความเป็นอยู่ โดยในแต่ละมิติจะมีหลายหน่วยงานเข้ามา อาทิ เรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะเป็นเรื่องของกระทรวงพม. กับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการศึกษาก็จะมีทั้งเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามา ด้านรายได้ก็จะมีเงินประกันสังคม จากกระทรวงแรงงาน ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ก็จะมีกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชนเข้ามาช่วย
อย่างไรก็ตาม ตนย้ำกับทีม พม.หนึ่งเดียวแล้วว่า ขณะที่ พม.มีวอร์รูมแล้ว ขอให้มีการประสานงานที่ดีกับหน่วยงานอื่น เพราะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สับสน
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เคสที่หนัก คือ 3 ครอบครัว เด็กเยาวชนที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก ยังเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้มีหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ทุกคนจะต้องได้เรียนต่ออย่างแน่นอน และต้องขอขอบคุณ ทุกหน่วยงาน ภาคเอกชนทุกราย และอีกหลายฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุน
“นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยา รายงานกรณีเข้าประกบดูแลเคส ระบุว่า ตอนนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเครียด เศร้าและซึม จิตใจย่ำแย่ ซึ่งในช่วง 7-10 วันแรกนี้ นักสหวิชาชีพ และนักจิตวิทยาจะประกบอยู่ทุกวันตลอดเวลา มีการประเมินสภาพจิตใจกันทุกวัน สถานการณ์หลังพูดคุยแล้วจิตใจเป็นอย่างไร และมีทีมแพทย์ ทีมนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาร่วมงานกันด้วย เราต้องตามติดกันทุกวัน เพราะในเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสภาพจิตใจกันก่อน” นายวราวุธ กล่าว