Monday, 21 April 2025
ราชวงศ์วินเซอร์

ส่อง 8 รัชทายาท ผู้สืบทอดบัลลังก์ราชวงศ์วินด์เซอร์ หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต

หลังจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษเสด็จสวรรคตแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 (ตามเวลาในประเทศไทย) รัชทายาทที่จะขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ในทันทีคือ เจ้าชายแห่งเวลส์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าชายและเจ้าหญิงพระองค์อื่นๆ อีก แต่จะมีพระองค์ไหนบ้าง มาดูกัน

>> เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร
ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ปี พระราชสมภพเมื่อปี 1948

ทรงอภิเษกสมรสเมื่อปี 1981 กับเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ ซึ่งต่อมาดำรงพระยศเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทั้งสองมีพระโอรสคือ เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ก่อนจะทรงหย่ากันในปี 1996

หลังเจ้าหญิงแห่งเวลส์สิ้นพระชนม์ ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส เมื่อปี 1997 เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงอภิเษกสมรสอีกครั้ง กับนางคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ในปี 2005

ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวัง เคยเผยแพร่แถลงการณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี เนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุว่า

“พระองค์มีพระราชปรารถนาให้ "คามิลลา" ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาในเจ้าฟ้าชายชาลส์ มกุฎราชกุมาร ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี เมื่อเจ้าฟ้าชายชาลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ในอนาคต”

เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์จะได้รับการสถาปนาเป็นเพียงเจ้าหญิงพระราชชายาเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีลำดับการสืบสันตติวงศ์ของราชวงศ์วินด์เซอร์อีกดังนี้

>> เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์
ทรงเป็นพระโอรสพระองค์โตในเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ทำให้ได้พบกับเคต มิดเดิลตัน พระชายาในเวลาต่อมา โดยเข้าพิธีเสกสมรสในปี 2011

ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นมนตรีแห่งรัฐ ทรงเข้ารับการฝึกวิชาทหาร ก่อนจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศของสหราชอาณาจักร โดยทรงเป็นนักบินของหน่วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในทางตอนเหนือของแคว้นเวลส์

>> เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์

ประสูติเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2013 ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีในกรุงลอนดอน เป็นพระโอรสพระองค์โตของเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์

God Save the King รู้จัก ‘พระเจ้าชาร์ลสที่ 3’ กษัตริย์องค์ใหม่แห่งราชวงศ์อังกฤษ

วันที่ 8 กันยายน 2565 บีบีซี รายงานว่า สหราชอาณาจักรเข้าสู่รัชสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต และมีผลให้คำถวายพระพรและเพลงชาติของอังกฤษ เปลี่ยนจาก God Save the Queen เป็น God Save the King

สำหรับพระราชประวัติ พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 พระชนมพรรษา 73 พรรษา พระราชสมภพ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1948 (พ.ศ. 2491) เป็นพระราชโอรสองค์โตของควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป มีพระขนิษฐา 1 พระองค์คือ เจ้าหญิงแอนน์ และพระอนุชา 2 พระองค์ คือเจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด 

ทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ เมื่อพระชันษา 10 ปี และขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร รัชทายาทลำดับที่ 1 เมื่อเจริญพระชันษา 21 ปี

ทรงเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่เข้าศึกษาที่โรงเรียน ณ โรงเรียนฮิลล์ เฮ้าส์ กรุงลอนดอน จากนั้นศึกษาต่อโรงเรียนเตรียมความพร้อมด้านวิชาเคมีในเมืองเบิร์กเชอร์ และทรงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

เมื่อครั้งวัยหนุ่ม ทรงถูกจับตาเรื่องการเลือกคู่ครองและเป็นข่าวหลายครั้ง รวมถึงกับคามิลลา ปาร์กเกอร์ โบวลส์ ที่มีข่าวว่าสนิทสนมเป็นพิเศษ แต่ไม่อาจลงเอยได้ เพราะติดขัดที่กฎระเบียบราชสำนัก

ต่อมาทรงหมั้นกับ เลดี้ ไดอานา แห่งตระกูลสเปนเซอร์ วัย 19 ปี หญิงที่เจ้าชายฟิลิป พระบิดาสนับสนุน ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มีพระชนมพรรษา 30 พรรษา โดยมีพระราชพิธีอภิเษกสมรสวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

เจ้าหญิงไดอานาทรงมีพระโอรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ 2 พระองค์ คือเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี ท่ามกลางชีวิตสมรสที่มีปัญหาและเป็นข่าวอื้อฉาวอย่างต่อเนื่อง โดยมี คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบวลส์ เข้ามาพัวพันด้วย

ปี 1996 (พ.ศ. 2539) ทั้งสองพระองค์หย่าร้างกัน และหนึ่งปีต่อมา เจ้าหญิงไดอานาก็สิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 31 ส.ค. กลายเป็นเหตุการณ์ช็อกไปทั่วโลก และราชวงศ์อังกฤษต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อขานรับความโศกเศร้าของประชาชนต่อการจากไปของเจ้าหญิงไดอานา

แปดปีจากนั้น หลังจากสังคมเปลี่ยนไปและมีกระแสต้านลดลง เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงอภิเษกอีกครั้งกับ คามิลลา วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2005 (พ.ศ. 2548) โดยคามิลลาทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ 

ในพระราชพิธีฉลองควีนครองราชย์ครบ 70 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ควีนทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง หวังให้คามิลลาขึ้นเป็นราชินี เคียงข้างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เมื่อขึ้นครองราชย์

อย่างไรก็ตาม หลังควีนเสด็จสวรรคตวันที่ 8 กันยายน คำที่ใช้เรียก คามิลลา ในนาทีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงขึ้นเป็นกษัตริย์ พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 ยังคงเป็นคำว่า queen consort ซึ่งหมายถึงราชินีคู่สมรส

สำหรับการตัดสินพระทัยแรกของพระองค์ คือการเลือกพระนามที่จะทรงใช้ในฐานะกษัตริย์ 4 ชื่อ จากพระนามเต็ม ชาร์ลส์ ฟิลิป อาเธอร์ จอร์จ และพระองค์ทรงเลือกใช้พระนาม 'ชาร์ลส์' 

ทั้งนี้ ทรงเป็นกษัติร์ย์แห่งสหราชอาณาจักรพระองค์ที่ 3 ที่เลือกใช้พระนาม ชาร์ลส์ จึงมีพระนามในฐานะกษัตริย์ว่า “สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3” หรือ “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3”

คาดว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์อย่างเป็นทางการในวันเสาร์นี้ (10 ก.ย.) โดยสภาภาคยานุวัติหรือสภาการสืบราชบัลลังก์ ประกอบด้วยคณะองคมนตรี คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาวุโสทั้งในอดีตและปัจจุบัน ข้าราชการระดับ ข้าหลวงใหญ่เครือจักรภพ และนายกเทศมนตรีลอนดอน

ในพิธีการ ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในลอนดอน ประธานองคมนตรีแห่งสภาองคมนตรีจะประกาศการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และประกาศการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

จากนั้น พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จร่วมพิธีการกับสภาภาคยานุวัติ เพื่อทรงประกาศพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งมักมีข้อความตามธรรมเนียมโบราณปะปนอยู่ด้วย เช่น จะทรงปฏิญาณว่า จะอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนจักรแห่งสกอตแลนด์ ตามธรรมเนียมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18

ต่อจากนั้น จะมีการอ่านประกาศต่อสาธารณชนจากระเบียงเหนือลาน Friary Court ในพระราชวังเซนต์เจมส์ ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นประมุขแห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพพระองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ โดยจะมีเสียงสรรเสริญขึ้นว่า “ขอพระเจ้าคุ้มครองพระราชา (God save the King)” และจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1952 ที่เพลงชาติของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีชื่อเดียวกับข้อความสรรเสริญดังกล่าว จะเปลี่ยนเนื้อที่ร้องว่า “God save the Queen” เป็น “God Save the King”

นอกจากนี้ จะมีการยิงสลุตในไฮด์พาร์ก หอคอยแห่งลอนดอน และขบวนเรือหลวง และคำประกาศที่ว่าพระเจ้าชาร์ลส์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่จะถูกอ่านในเอดินบะระ คาร์ดิฟฟ์ และเบลฟาสต์ ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top