Tuesday, 22 April 2025
มหาวิทยาลัยจีน

'จีน' ผงาด!! มหาวิทยาลัยจีนอันดับที่ดีที่สุดโลก แซงหน้า 'มหาวิทยาลัยสหรัฐฯ' เป็นครั้งแรก

เว็บไซต์ข่าวมาร์เก็ตวอทช์รายงานว่า รายงานการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 2,000 แห่งจากมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกโดยนิตยสารยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต (U.S. News & World Report) พบว่า มีมหาวิทยาลัยของจีนถึง 338 แห่งติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยของสหรัฐจำนวน 280 แห่ง โดยนับเป็นครั้งแรกที่จำนวนมหาวิทยาลัยของจีนติดอันดับดังกล่าวแซงหน้ามหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2565-2566 (The 2022-2023 Best Global Universities rankings) ที่เปิดเผยในวันอังคาร (25 ต.ค.) แสดงให้เห็นว่า จีนมีจำนวนมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกมากกว่าสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยมหาวิทยาลัยของจีนและสหรัฐติดอันดับจำนวนมากที่สุด ตามด้วยญี่ปุ่น (105 แห่ง), สหราชอาณาจักร (92 แห่ง) และอินเดีย (81 แห่ง)

การจัดอันดับดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นในปี 2557 เนื่องจากมหาวิทยาลัยจำนวนมากขึ้นเริ่มแข่งขันกันในการแย่งชิงนักศึกษา ตลอดจนการลงทุนด้านคณาจารย์และการวิจัยด้วย โดยการจัดอันดับจะวัดจากปัจจัยจำนวนมาก รวมถึงชื่อเสียงด้านงานวิจัย การตีพิมพ์งานวิจัย การจัดประชุม และการถูกนำไปอ้างถึง แต่จะไม่รวมผลการเรียนของนักศึกษาและโปรแกรมการเรียนรายบุคคล

แม้จีนจะมีมหาวิทยาลัยติดอันดับมากกว่าสหรัฐฯ 58 แห่ง แต่มหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังคงติดอันดับบน รวมถึงติด 10 อันดับแรกได้ถึง 8 แห่งได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (อันดับ 1), สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (อันดับ 2), มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (อันดับ 3), มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-เบิร์กลีย์ (อันดับ 4), มหาวิทยาลัยวอชิงตัน-ซีแอตเทิล(อันดับ 6), มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (อันดับ 7), สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (อันดับ 9) และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ (อันดับ 10) โดยใน 10 อันดับแรกมีมหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรติดอันดับ 2 แห่งได้แก่ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (อันดับ 5) และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (อันดับ 8)

อย่างไรก็ตาม ในการจัดอันดับดังกล่าวนั้นได้เพิ่ม 4 สาขาวิชาใหม่ในการพิจารณาได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การศึกษาและการวิจัยทางการศึกษา, อุตุนิยมวิทยาและบรรยากาศศาสตร์ และทรัพยากรน้ำ โดยนายโรเบิร์ต มอร์ส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ข้อมูลของยูเอส นิวส์ เปิดเผยกับมาร์เก็ตวอทช์ว่า “สาขาวิชาดังกล่าวกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในหลายระดับ”

ทั้งนี้ AI เป็นหนึ่งในไม่กี่สาขาที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนถือว่ามีความสำคัญทางด้านกลยุทธ์ระดับประเทศ โดยคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายการริเริ่ม AI แห่งชาติ (National AI Initiative Act) ให้เป็นกฎหมายในปี 2564 โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้สหรัฐฯ ขึ้นเป็นผู้นำในด้านดังกล่าว

สำรวจรายชื่อมหาวิทยาลัยจีน ที่ถูกมะกันหมายหัว เพราะกลัวกระทบต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ

ไม่นานมานี้ เพจ 'สะใภ้จีนbyฮูหยินปักกิ่ง' ได้แจ้งข่าวกรณีที่หลายสถาบันการศึกษาในจีนถูกหมายหัวจากสหรัฐฯ และทำให้นักเรียนสัญชาติจีนจะถูกกีดกันในการเข้าเรียนที่สหรัฐฯ โดยระบุว่า...

นักเรียนสัญชาติจีนถูกกีดกันด้านการศึกษาในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะการเรียนต่อทางด้าน 'ป.โท-ป.เอก' หลังจากจบการศึกษา ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยเหล่านี้ในจีน 

โดยสหรัฐฯ จะไม่ออกวีซ่าให้ หรือไม่ก็ถ้ามีวีซ่า แต่อาจโดนเพ่งเล็งตอนเข้า ตม.ที่ USA

ลูกใครเด็กจีน ก็คิดดี ๆ ว่าอยากให้ลูกมีสัญชาติอะไร เพราะสัญชาติมีผลต่อการเรียนต่อของลูกในอนาคต

สำหรับรายชื่อสถาบันการศึกษาจากจีนที่ถูกกีดกันจากสหรัฐฯ ประกอบไปด้วย....

1. สถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง
2. มหาวิทยาลัยการบินและอวกาศปักกิ่ง
3. มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหนานจิง
4. มหาวิทยาลัยการบินและอวกาศนานกิง
5. สถาบันเทคโนโลยีฮาร์บิน
6. มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ฮาร์บิน
7. มหาวิทยาลัยสารพัดช่างนอร์ธเวสเทิร์น

ส่อง 20 อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีน

จีน กำลังก้าวขึ้นไปเป็นมหาอำนาจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร ด้านเศรษฐกิจ หรือ แม้กระทั่งการศึกษา เพราะต้องยอมรับว่า การศึกษา คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้จีน พัฒนาประเทศได้อย่างก้าวกระโดด กระทั่งสามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของชาติมหาอำนาจตะวันตกในปัจจุบัน

สำหรับมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีน มีที่ใดบ้าง และ Liang Wenfeng ผู้คิดค้น DeepSeek เอไอตัวใหม่ที่กำลังเขย่าโลกอยู่ในขณะนี้ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยไหน ไปส่องกันเลย

รายชื่อมหาวิทยาลัยที่ตีพิมพ์งานวิจัยวิทยาศาสตร์

(4 ก.พ. 68) ส่องศักยภาพ มหาวิทยาลัยจีน ที่กำลังมาแรงอย่างมาก หลังพบติดอยู่ใน 10 อันดับแรก ถึง 8 แห่ง ที่มีการมีการตีพิมพ์งานวิจัยวิทยาศาสตร์มากที่สุดในโลก ในกลุ่มสาขา Physical Sciences and Engineering ซึ่งเผยแพร่ในวารสารวิจัยช่วงปี 2019-2022 จากการจัดอันดับของ CWTS Leiden Ranking 2024 

สำหรับ 10 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยใดบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

จีน เร่งพัฒนาหลักสูตร AI ด้วยเทคโนโลยี DeepSeek ขณะที่มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งทยอยเปิดสอนเต็มรูปแบบ

ฮ่องกง, 22 กุมภาพันธ์ 2025 – มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศจีนเริ่มเปิดสอนหลักสูตรปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้เทคโนโลยีของ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากหางโจวที่กำลังเป็นที่จับตามองในระดับโลก หลายฝ่ายเปรียบเทียบความก้าวหน้านี้เป็น 'ช่วงเวลาสปุตนิก' ของจีนในอุตสาหกรรม AI

รัฐบาลจีนเดินหน้ายกระดับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเป้าหมายสร้างรากฐานทางปัญญาให้เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ขณะที่ DeepSeek ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญในซิลิคอนวัลเลย์และวิศวกรจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ โดยระบุว่าโมเดล DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1 สามารถแข่งขันกับ AI ขั้นสูงของ OpenAI และ Meta ได้อย่างสูสี

มหาวิทยาลัยเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้งตอนใต้ เปิดเผยว่าหลักสูตร AI ที่ใช้เทคโนโลยี DeepSeek จะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจเทคโนโลยีสำคัญ รวมถึงประเด็นด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และจริยธรรม ขณะที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เริ่มเปิดหลักสูตรพิเศษเกี่ยวกับ DeepSeek ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เจียทง เปิดเผยผ่านช่องทาง WeChat อย่างเป็นทางการว่าได้นำ DeepSeek มาใช้พัฒนาเครื่องมือการเรียนรู้ AI ขณะที่มหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน ก็เริ่มประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ในหลายด้าน ตั้งแต่การเรียนการสอน การวิจัย ไปจนถึงการบริหารภายในมหาวิทยาลัย

นโยบายเร่งด่วนด้านการศึกษาของจีนยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนา AI เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จีนได้ประกาศแผนปฏิบัติการแห่งชาติฉบับแรกเพื่อสร้าง “ประเทศที่มีการศึกษาที่แข็งแกร่ง” ภายในปี 2035 โดยตั้งเป้าพัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพระดับโลก

นอกจากนี้ หลี่อัง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ยังได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมสำคัญเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งมี ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เช่น อาลีบาบา เข้าร่วม ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับ AI เป็นอย่างมาก

ขณะที่จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อแข่งขันกับโลกตะวันตก คำถามสำคัญที่ตามมาคือ DeepSeek จะสามารถรักษาความก้าวหน้าของตนได้หรือไม่? และ อุตสาหกรรม AI ของจีนจะสามารถขยายตัวจนเป็นผู้นำระดับโลกได้หรือเปล่า?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top