Friday, 5 July 2024
พงศ์พล_ยอดเมืองเจริญ

พงศ์พล’ แนะทิศทาง 'กัญชา(ไม่)เสรี' ลดมอมเมา ขวางมาเฟีย เคลียร์ทางศก.ให้ถูกทิศ

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พร้อมเสนอกรอบทิศทาง 'กัญชา(ไม่)เสรี' ควรมีทิศทางเป็นอย่างไร? ระบุว่า...

วันที่ (14 ก.ย.) เมื่อพรบ. กัญชา ถูกถอนจากสภา...เกิดปัญหาสุญญากาศ "กัญชาเสรี 100%" กัดกร่อนบ้านเมือง...เยาวชนยังซื้อ-เสพได้ไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อจุดมุ่งหมายคือ กัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ มิใช่เพื่อการสันทนาการ...แต่ร่างกฎหมายล่าสุด ที่พิจารณาในสภา ดันอนุญาติให้ปลูกในครัวเรือนได้ถึง 15 ต้น

เยอะขนาดที่ พี้กันเองในครอบครัวได้เป็นปีๆ...จึงไม่น่าเป็นสิ่งที่ดีกับสังคม และไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ท่าน ส.ส. ผู้ทรงเกียรติตั้งใจรึปล่าว?

นี่คือกรอบทิศทาง 'กัญชา(ไม่)เสรี' คร่าว ๆ ที่เราน้อมนำเสนอ...

◼️ กัญชาเป็นพืชควบคุม ห้ามปลูกในครัวเรือน ต้องมีใบอนุญาติ สำหรับผู้ประกอบการ (จัดเก็บภาษีสรรพสามิตร เข้ารัฐ)

◼️ ขายเฉพาะในร้านขายยา หรือร้านที่ได้รับอนุญาต ต้องแสดงบัตรประชาชน, เยาวชนต่ำกว่า 20ปี ห้ามซื้อ/ห้ามเสพ

◼️ เมากัญชา แล้วขับขี่พาหนะเป็นความผิด เจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินคดีเสมือนเมาแล้วขับ

◼️ ห้ามเสพที่สาธารณะ สถานศึกษา-สถานที่ทางศาสนา-สำนักงาน-สถานที่ราชการ-สวนสาธารณะ

‘ลอรี่’ วอน!! ฝ่ายค้านมองก.พลังงานแก้ ‘ค่าไฟแพง’ แบบใจเป็นธรรม แนะ!! หยุดเอาแต่ค้านเชิงทฤษฎีกลวงๆ ช่วยเห็นทุกข์ร้อนของปชช.บ้าง

(2 ธ.ค.66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับนโยบายการปรับลดค่าไฟ โดยมีเนื้อหาว่า

[ลดค่าไฟระยะสั้น เห็นโจมตีจัง...]

ถามก้าวไกล ค่าไฟ 4.68 .- พอใจให้ปชช.ใช้ราคานี้อีกหลายปี เพื่อรอแก้ระยะยาวอย่างเดียว...จะเอางั้นเหรอ?

ตามที่มีตัวแทนฝ่ายค้าน ออกมาค้านรายวัน เรื่องการปรับลดค่าไฟให้พี่น้องปชช. จาก 4.68  บาท/หน่วย ที่กระทรวงพลังงานพยายามปรับลดลงให้เหลือ 4.20บาท/หน่วยนั้น ทั้งที่เป็นเรื่องดีที่ช่วยลดภาระปชช. สมควรจัดการก่อน

"คนลำบากเพราะ 'ค่าไฟแพง' เทียบเหมือน เห็น 'คนกำลังจมน้ำ' ตรงหน้า ยังไงก็ต้องช่วยจะไปอ้างต้องแก้ที่ต้นเหตุ 'สอนให้เค้ารู้จักว่ายน้ำ' ก่อน.. คงไม่มีใครรอดหรอกนะครับ"

ในฐานะกระทรวงที่เป็นฝ่ายบริหาร การแก้ค่าไฟแพง ต้องทำทั้ง ‘ลดระยะสั้น’ และ ‘หั่นโครงสร้างระยะยาว’ ซึ่งกระทรวงพลังงาน ภายใต้ รมว.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เราทำอยู่ทั้งคู่ ..หยุดเอาแต่ค้านเชิงทฤษฎีกลวงๆ แต่ขาดความเข้าใจในการทำงานจริงได้แล้ว

ทางที่ดีต้องทำคู่ขนาน เฉพาะหน้าต้องเยียวยาปชช.ต่อลมหายใจไม่ให้รับภาระเกินไป ภายใต้โครงสร้างเดิมที่มี และขณะเดียวกัน 'รื้อ' ปรับโครงสร้างไฟฟ้า โดยเฉพาะแก้ไขรายละเอียดผลิตก๊าซธรรมชาติ - แก้กฎหมายควบคุมหลายฉบับ - รวมถึงเพิ่มพลังงานไฟฟ้าสะอาดในประเทศ ซึ่งใช้เวลาเป็นปี ซึ่งเราก็เน้นทั้งคู่ ให้ราคาไฟฟ้าต่อหน่วย ถูกลงในระยะยาว 3 บาทกว่า โดยรัฐไม่ต้องใส่เงินอุดหนุน

กระทรวงพลังงานเดินหน้าทำอยู่ ด้วยคณะกรรมการทรงคุณวุฒิเป็น 10 ชุด ขอให้ท่านเชื่อมือการบริหาร อย่าพาลใช้ข้อมูลชุดเก่าๆ ที่เราก็มี มาโจมตีรัฐบาลเลย

หวังว่าวันนึงท่านจะมองภาพให้กว้าง เปิดใจให้คนทำงานขึ้น มองเห็นทุกข์ร้อนประชาชนผู้ใช้ไฟระยะสั้นบ้าง และวันนั้นท่านจะไม่ออกมาพูด เอาดีเข้าตัวแบบนี้ครับ

‘ลอรี่ พงศ์พล’ ใจหาย!! ได้ออกรายการ ‘คุยถึงแก่น’ เทปสุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงาน เชื่อ!! แฟนข่าวรอดูผลงานดีๆ อีกเพียบ

จากกรณี นายปรเมษฐ์ ภู่โต สื่อมวลชนอาวุโส พิธีกร ผู้ประกาศข่าว รายการคุยถึงแก่น ได้ออกมาแจ้งข่าวว่า ‘รายการคุยถึงแก่น’ ได้ถูกปลดออกจากผังของ NBT ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไปนั้น

ล่าสุด (29 ธ.ค. 66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ ลอรี่ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…

“พึ่งออกรายการ ‘คุยถึงแก่น’ เมื่อเช้านี้…ไม่น่าเชื่อจะเป็นเทปสุดท้ายที่ได้ออกอากาศ (อีกเทปถูกออนแอร์พรุ่งนี้ นอกผังตอนช่วงบ่าย)

จะสืบเนื่องจากเหตุอะไรก็ตามแต่ ที่ทำให้รายการที่เรตติ้งดีที่สุดของช่อง หลุดผัง NBT แบบสายฟ้าแล่บ ...ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ก๊อง, คุณหนิง และทีมงาน ทุกท่านผลิตผลงานดี ๆ ต่อไป ยังเชื่อมีคนดูที่รอติดตามงานคุณภาพอีกเพียบ”

'ลอรี่' ซัด!! 'สส.ก้าวไกล' ตีฟูข้อมูลเท็จปมตัวเลขการเงิน กฟผ. จ้อ!! เวทีอภิปราย สนแค่ 'ดิสเครดิต-ทำปชช.คล้อยตามผิดๆ'

(5 ม.ค. 67) ตามที่มีประเด็น ท้าพิสูจน์ข้อมูลอภิปรายในสภาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ระหว่าง สส.พรรคก้าวไกล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการอภิปรายงบประมาณประจำปี 67 นั้น

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊ก "ลอรี่ - พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ" ระบุว่า ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เปิดเผยแล้ว ข้อมูลของ กฟผ. ของ สส. พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เพื่อมาโจมตีนั้น เป็นเพียงการคาดการณ์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 แบบ worst case scenario ที่วิเคราะห์ความเสี่ยง ซึ่งตัวเลขไม่ตรงกับความจริง 

เช่น สิ้นเดือนธ.ค. 2566 มีเงินเหลือจริง 9.1 หมื่นล้าน แต่ข้อมูลเท็จนี้ แสดงเพียง 6 หมื่นล้านบาท แถมยังลากลงไปถึงติดลบเป็นหมื่นล้าน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ กฟผ.ต้องรักษาระดับ cashflow ไว้ที่ 6 หมื่นล้าน ตามวินัยการเงิน

”การเอาข้อมูลมโนเก่าๆ ตั้งแต่ตุลาคม 2566 ปีที่แล้ว มาพูดเป็นข้อเท็จจริง เทียบกันเหมือนกับ เก็งบอลเมื่อคืน ลิเวอร์พูล 2-1 แมนยู แต่ผลเตะเสร็จ ปรากฎแมนยูถล่ม 3-0 ..ดันมารายงานสุดท้ายว่า ลิเวอร์พูลชนะ 2-1 ตามโพยเก่า“

ก้าวไกลเอาเลขคาดเดา 3 เดือนก่อนผิดๆ มามโนว่าเป็นเรื่องจริงวันนี้ ด่าใครไปทั่ว ถือเป็นความตั้งใจแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่? และทำมากี่ครั้งแล้ว?

การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่จริง เพียงเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง นอกจากไม่สร้างสรรค์ ยังพาลทำให้ประชาชนทางบ้าน และสื่อที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็จะตื่นกลัว

จึงนำเรียนให้ผู้อภิปราย และพรรคก้าวไกล ให้ได้รับทราบ โปรดระวังในการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในอนาคต ก่อนจะส่งผลเสียกับภาพรวมประเทศไปกว่านี้

‘ลอรี่ รทสช.’ ไล่ ‘สส.ก้าวไกล’ กลับไปทำการบ้านให้ดีกว่านี้ หลังอธิบายเรื่องผังเมือง แต่กลับพาดพิง ‘สำนักทรัพย์สินฯ’

(11 ม.ค. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจาก สส.ก้าวไกล ได้อภิปรายในสภาฯ ในวันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เกี่ยวกับเรื่องผังเมือง โดย นายพงศ์พล ระบุว่า “ผังเมือง...อย่าโหนเรื่องเจ้า

ถกเรื่องผังเมืองกรุงเทพฯ อยู่ ๆ ตัวแทนก้าวไกล โพร่งออกมาพาดพิงสำนักทรัพย์สินฯ

ฟังนะครับ…ที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 41,000 ไร่ ส่วนใหญ่จัดสรรให้ราชการเช่าใน ‘ราคาต่ำ’ เพื่อประโยชน์ของปชช. ถึง 93% มีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพียง 7% เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านี้ สถาบันกษัตริย์ยังมีการพระราชทานโฉนดที่ดิน เพื่องานราชการ และสร้างโรงเรียนเนือง ๆ อยู่ตลอด

มิใช่ตามที่ต้นทางโจมตีผิด ๆ ว่าเอาที่ดินมาหากินแต่อย่างใด...โปรดจำไว้ใส่กระหม่อม

หากต้องการ ถกเรื่องการพัฒนาผังเมืองกรุงเทพ ฉบับใหม่แบบจริง ๆ จัง ช่วยทำการบ้านมากกว่านี้ เพราะผังเมืองปฏิเสธไม่ได้หรอกมันคือ การถ่วงดุลย์ระหว่าง คุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย-สิ่งแวดล้อม ให้บาล๊านซ์กับ ความเจริญ (เติบโตจากภาคเอกชน)

ปราศจากทุนเมืองก็ไม่โตครับ เอกชนสร้างตึกทุกที่ไม่มีข้อจำกัด สภาพคนกรุงก็ร่อแร่ครับ...นี่คือความเป็นจริง ถ้าเรายังยืนอยู่บนโลกใบเดียวกัน ไม่มีตรรกะอุดมคติเพ้อฝันนัก

ฉะนั้นต้องเจาะดูเป็นโซนครับ ตรงไหนไม่ยอมให้เอกชนขยายแล้วอย่าง สุขุมวิท-พร้อมพงษ์ ขีดปากกาล้อมไว้ ลงรายละเอียดลึก

เพราะโหนด่าแต่กลุ่มทุน ด่าแต่สำนักทรัพย์สินฯ ให้คนเย้ว ๆ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เป็นแค่การหาเรื่อง ของพวกไม่ทำการบ้านเท่านั้น

‘ลอรี่’ ชี้!! ‘สส.อัครเดช’ อภิปรายตามกฎ-กรอบเวลา ซัด!! ‘รองอ๋อง’ เจตนาตัดบท-ขัดขวาง-ละเมิดสิทธิ์ชัดเจน

(23 ก.พ. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ ลอรี่ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ กรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ใช้อำนาจแทรกตัดบทไม่ให้นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติอภิปรายลงรายละเอียด ระหว่างตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดระเบียบสายไฟฟ้า และสายสื่อสาร และการบริหาร การจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึง ทั้งที่กำลังอภิปรายตามกรอบเวลา ถูกต้องตามข้อบังคับ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ถูกต้องและไม่เคยมีประธานในที่ประชุมคนใดเคยทำมาก่อนในประวัติศาสตร์

นายพงศ์พล กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่อเข้าข่ายผิดข้อบังคับการประชุมข้อ 9 วรรค 1 ที่ระบุไว้ชัดว่าประธานฯ ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ แต่นายปดิพัทธ์กลับใช้อำนาจกลั่นแกล้งปิดปาก อ้างผู้อภิปรายพูดร่ายยาวซ้ำซาก

“เท่าที่ผมเปิดเทปฟังการอภิปรายย้อนหลัง นายอัครเดชอภิปรายย้ำถึงการนำสายไฟสื่อสารลงใต้ดินประหยัดงบประมาณได้หลายสิบล้านพูดตัวเลข 70-80 ล้านบาทไม่กี่ครั้ง เพราะเป็นตัวเลขสำคัญชี้ให้ประชาชนเห็นถึงการประหยัดงบประมาณของรัฐได้จำนวนมาก ขณะนั้นผู้อภิปรายใช้เวลาไปยังไม่ถึง 10 นาที จากสิทธิอภิปรายเต็ม 15 นาที ถูกหลักเกณฑ์ทุกอย่าง แต่ไม่เข้าใจเหตุใดประธานที่ประชุมจึงใช้อำนาจตัดบทเช่นนี้” นายพงศ์พล กล่าว

รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานที่ประชุม คือ ผู้อำนวยการเอื้อการประชุมให้ราบรื่น (moderater) ไม่มีอำนาจมาออกความเห็นแทรกแซงเนื้อหาของผู้อภิปราย หรือเซนเซอร์นู่นนี่ หรือคิดแทนแต่อย่างใด ส่วนตัวแนะนำว่า ถึงจะมีเรื่องติดใจส่วนตัวกับนายอัครเดชมาก่อนจากการอภิปรายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ควรนำอารมณ์ส่วนตัวมาลงตรงนี้ เพราะทำให้สภาฯ สูญเสียความน่าเชื่อถือ และประชาชนถูกปิดกั้นจากการได้รับข้อมูลรอบด้านทั้ง 2 ฝ่าย

“เมื่อมานั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ แล้ว จงวางหมวกนักการเมืองทิ้งไว้นอกห้องประชุม แล้วจงวางตัวทำหน้าที่ให้เป็นกลาง ถ้าทำไม่ได้ลงไปนั่งข้างล่าง แล้วให้คนมีวุฒิภาวะดีกว่าขึ้นมาทำแทนดีกว่า” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top