Wednesday, 23 April 2025
คนเกาหลี

รักไทยขึ้นมาทันที ‘สาวเกาหลี’ ไม่ปลื้ม!! ถูกคุกคาม-โกงราคา ขณะเที่ยวอินเดีย ลั่น!! “อยากกลับประเทศไทย เชียงใหม่คือสวรรค์”

ไม่นานมานี้ คุณโจ-มณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรการเงิน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ‘Jo Montanee’ เกี่ยวกับช่องยูทูบเบอร์เกาหลีที่ชื่นชอบ โดยระบุว่า…

เพราะเจอความกดดันที่อินเดีย Renee ยูทูเบอร์สาวเกาหลีผู้ทั้งน่ารักและตลก ถึงกับบอกว่า “อยากกลับเมืองไทยจริงๆ เลย!”

แถมพอมีคนเข้าไปถามเรเน่ว่าเชียงใหม่เป็นยังไงบ้างในความคิดเธอ เรเน่ตอบว่า 

“เชียงใหม่คือสวรรค์เลยจ้า!”

ต้องเล่าก่อนว่าพี่โจติดตามช่องน้องเรเน่ตอนที่น้องท่องเมืองไทยเพราะแฟนเพจแนะนำค่ะ พอเข้าไปดูแล้วชอบมากเพราะน้องตลกและใจสู้จริงๆ ค่ะ น้องลุยภูทับเบิกแบบไม่กลัวลำบากแต่ดันกลัวลม จนต้องระเห็จมาอยู่เพิงเก็บของของเจ้าของแคมป์แทน แต่ทั้ง ๆ ที่ดูน่าจะลำบากกลับดั๊นนนนเป็นตอนที่ฮาซะงั้น 😂😂 

ยิ่งย้อนตามไปดูตอนแรก ๆ ที่น้องเล่าว่าออกจากออสเตรเลียที่น้องทำงานอยู่เพื่อกลับบ้านที่เกาหลีช่วงโควิด น้องต้องสู้กับภาวะซึมเศร้าอย่างหนักจนทำงานไม่ได้ แต่น้องไม่อยากใช้ชีวิตไปวัน ๆ จึงตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะออกเดินทางท่องโลก และบันทึกชีวิตตัวเองไปด้วย

ประเทศแรกที่น้องมาคือประเทศไทยค่ะ โดยน้องคิดว่าจะอยู่แค่เดือนเดียว แต่กลับอยู่นานมากถึงครึ่งปี โดยที่น้องเดินทางไปเที่ยวหลายจังหวัดทั่วไทย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ภาคเหนือ น้องยังหัดเรียนภาษาไทยและเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปไหนต่อไหนคนเดียวได้อย่างสบายใจ และยังมีคนไทยคอยช่วยเหลือไปตลอดทางทุกตอน เช่น น้องไม่มีเศษเงินพอซื้อแตงโมแม่ค้าก็ให้ฟรี น้องเดินงงกลางถนนก็มีคนขับรถแวะถามแล้วไปส่งน้องฟรี ฯลฯ

แต่เพื่อให้ช่องเติบโตเรเน่ก็ต้องออกจากเมืองไทยไปประเทศอื่นด้วย เช่น เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินเดีย และตอนนี้น้องเพิ่งถึงเนปาล

คลิปที่พี่โจเอามาลงนี้คือตอนที่น้องไปชัยปุระ อินเดีย และพาดหัวคลิปตรงมากว่า “เมืองที่ฉันจะไม่ไปอีก” 

แถมยังเขียนคอมเมนต์ปักหมุดไว้ว่า “ฉันอยากกลับเมืองไทยจริงๆ”

พี่โจไม่ได้ลงโพสต์นี้เพื่อจะเหยียดอินเดียแล้วยกเมืองไทยนะคะ แต่เพื่อจะให้เราเข้าใจหัวอกของนักท่องเที่ยวว่าเวลาเขามาเยือนแผ่นดินเรา มีอะไรบ้างที่ทำให้พวกเขาอยากกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอะไรที่ทำให้พวกเขาเอือมสุด ๆ จนไม่อยากกลับมาอีก

ชัชชัย เช หรือ 'โค้ชเช' หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

ชัชชัย เช หรือ 'โค้ชเช' หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ได้เผยความรู้สึกถึงคนไทยและประเทศไทยผ่านรายการ TruePlookpanya Channel ว่าคนไทยนั้นโชคดีมาก ไม่เหมือนประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดของตน โดยระบุว่า…

“ที่เกาหลีช่วงฤดูหนาว ถ้าไม่มีบ้าน ไม่มีเสื้อกันหนาว ไม่มีของกินร้อนๆ ก็ตายแน่ครับ แต่ที่ไทยใส่รองเท้าเตะ กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ต แค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว เวลาไปเจอแม่น้ำก็สามารถจับปลาได้ มีป่า มีผลไม้เยอะแยะ ส่วนใหญ่คนเกาหลีต้องสู้ชีวิต ต้องอดทน ทำอะไรก็ต้องเอาจริงเอาจัง ผมคิดว่าคนไทยโชคดีมากครับ”

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://vt.tiktok.com/ZSL44Uc7T/ 

‘สเตฟาน’ แชร์ประสบการณ์ถูกคนเกาหลี ‘ถุยน้ำลาย’ ใส่ ยอมรับ!! โมโหมาก โบกสวนหัวทิ่มไปหนึ่งดอก

(5 พ.ย.66) ‘สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์’ อดีตพระเอกละครชื่อดัง แชร์ประสบการณ์ หลังไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก แล้วเจอแจ็กพ็อตถูกคนเกาหลีทำกิริยาไม่ดี โดยการถุยน้ำลายใส่ตน ในจังหวะที่กำลังข้ามถนน ว่า…

“ครั้งแรกที่ผมไปเกาหลี ผมก็ลงจากรถทัวร์ที่เป็นของกรุ๊ปเราเท่านั้น จากนั้นผมก็เอากระเป๋าเข้าไปเช็กอิน แต่ทางโรมแรมบอกว่าไม่ได้ต้องรอเช็กอิน 2 โมง แล้วตอนนั้นผมมาถึงเที่ยง มันก็ทำให้ต้องออกไปหาอะไรทำ ส่วนกระเป๋าก็ฝากไว้ที่โรงแรม พอฝากกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะออกไปหาอะไรกินข้างทาง แต่พอจังหวะที่ออกมาข้างถนนเพื่อข้ามไปอีกฝั่งนั้น ก็มีคนเกาหลีสองคนเดินผ่าน พร้อมกับทำกิริยาไม่ดีใส่ ก็คือการ ‘ถุยน้ำลาย’ ใส่กลางอกเต็ม ๆ

ซึ่งตอนนั้นผมคิดอะไรไม่แล้ว และยอมรับว่าหัวร้อนมาก หลังจากที่โดนกระทำแบบนี้ ถ้าคนที่รู้จักผมดี จะรู้ว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันอี๋ง่าย…และถึงจะไม่ได้เป็นคนที่อี๋ง่าย ก็รู้สึกว่าไม่ควรจะโดนกระทำใส่แบบนี้ ดังนั้นผมจึงหันกลับไปตบกระบาลอย่างแรงจนหัวทิ่ม แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตะโกนใส่ผมเป็นภาษาเกาหลี และทำท่าเหมือนจะเตะ จากนั้นผมก็หนี สุดท้ายเขาก็เรียกเจ้าหน้าที่มาที่โรงแรม และโรงแรมก็พยายามบอกให้ว่ามันไม่ใช่นะ…คนเกาหลีสองคนนั้นเริ่มก่อน จนสุดท้ายก็เลยเคลียร์กัน…”

'นักวิชาการ’ ชี้!! ‘คนเกาหลี’ ที่เหยียด ‘ลิซ่า’ คือกลุ่มเล็กๆ มีไม่ถึง 10% แถมคนส่วนใหญ่มัก ‘ชื่นชม-ยกย่อง’ ให้เป็นตัวอย่างของความสำเร็จ

'นักวิชาการด้านเกาหลี’ เผย เกาหลีที่เหยียดลิซ่าเป็นแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ มีไม่ถึง 10% ขณะที่ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ชื่นชมลิซ่า โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นถึงขั้นยกให้เป็นไอดอล ชี้!! 'สำนักข่าว OSEN' ที่แซะลิซ่า เป็นแค่สื่อโนเนม พบ!! ปรากฏการณ์ 'ร็อคสตาร์' ทำเกาหลีตีกันเอง

(5 ก.ค.67) ทันทีที่ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ ศิลปินสาวชาวไทย ออก MV เพลงร็อคสตาร์ เพลงแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวจากค่าย LLound ที่เธอเป็นเจ้าของ ก็เกิดปรากฏการณ์ ‘ลิซ่าฟีเวอร์’ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับลิซ่า และ MV ร็อคสตาร์ ล้วนถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเพลงของเธอขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งและอันดับต้น ๆ ในหลายประเทศ ลิซ่ากลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยอย่างเต็มตัว แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับมีกระแสเหยียดลิซ่าจากคนเกาหลีบางส่วน และสื่อเกาหลีบางสำนักที่แซะในทำนองว่าลิซ่าออกจากวงการเคป็อบเพื่อมาดังแค่ในประเทศไทย ส่งผลให้แฟนคลับชาวไทยไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสแบนเกาหลีลุกลามไปทั่ว จนหลายฝ่ายมองว่านี่อาจเป็น ‘จุดจบ’ ของความนิยมเคป็อบในไทย

ส่วนว่าข้อเท็จของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบอะไรต่อเกาหลีบ้างนั้น คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้

นายเสกสรร อานันศิริเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมไทยคดีศึกษาแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (Korean Association of Thai Studies : KATS) ชี้ว่า จริง ๆ แล้วคนเกาหลีที่เหยียดลิซ่านั้นมีแค่บางกลุ่ม ซึ่งเป็นคนกลุ่มเล็ก ๆ แต่คนเหล่านี้มักมาโพสต์ในโซเชียลทำให้กลายเป็นกระแสที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เท่าที่ได้สัมผัสคนเกาหลีส่วนใหญ่ชอบและชื่นชมลิซ่า ลิซ่าเป็นไอดอลของเขา โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่ผ่านมาลิซ่าได้รับการยกย่องจากเกาหลีอย่างมาก เวลาข้าราชการเกาหลีพูดถึงความสัมพันธ์กับไทยก็จะพูดถึงลิซ่าว่าเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ ที่สำคัญเขาพูดถึงลิซ่าในฐานะที่เป็นคนไทย ไม่ใช่ในฐานะเคป็อป

การที่ลิซ่าไม่ต่อสัญญาศิลปินเดี่ยวกับวายจีก็เป็นสิ่งที่คนเกาหลีเข้าใจและยอมรับได้ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าต้นสังกัดเดิมไม่ค่อยเป็นธรรมกับลิซ่านัก เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัด ส่วนลิซ่าเมื่อออกไปสร้างผลงานระดับสากลก็สามารถนำเอาเคป็อปไปต่อยอดโดยใส่ความเป็นไทยเข้าไป เพราะนี่คือความเป็นลิซ่าที่สามารถหลอมรวมวัฒนธรรมและสร้างแบบฉบับการเต้นและดนตรีของตัวเองขึ้นมาทำให้คนทั่วโลกชื่นชอบ

“ถ้าลองเสิร์ชคำว่า How You think about Lisa ในยูทูบ จะพบว่าคนเกาหลีส่วนใหญ่ตอบว่าเขาชอบลิซ่า เขามองว่ารูปร่างและสีผิวของลิซ่าเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีอยากเป็น ส่วนคนที่ไม่ชอบลิซ่านั้นมีน้อยมาก ไม่ถึง 10% แต่คนพวกนี้ปากแจ๋ว ชอบแสดงความเห็นตามสื่อโซเชียล และสำนักข่าว OSEN ที่เป็นต้นเหตุดรามาก็เป็นสำนักข่าวโนเนม ไม่ใช่สำนักข่าวที่น่าเชื่อถือหรือได้รับความนิยมแม้แต่ในกลุ่มแฟนคลับเคป็อป ต่างจาก Dispatch ซึ่งเป็นสื่อที่คนใช้อ้างอิงเวลามีข่าวสำคัญ ดังนั้นเราไม่ควรนำความเห็นของคอลัมนิสต์หนึ่งคนจากสำนักข่าวบันเทิงเล็ก ๆ ที่มุ่งแสวงหากำไรมาทำลายบรรยากาศของความสัมพันธ์และความรู้สึกดีต่อกันที่มีมานาน บางที 'ชาวเน็ต' ที่พูด ๆ กันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สำนักข่าวนี่ล่ะครับตัวดี อยากได้ยอด Engagement” นายเสกสรร กล่าว

อย่างไรก็ดี นายเสกสรร ชี้ว่า กระแสเหยียดลิซ่าของเกาหลีแม้จะเป็นแค่กลุ่มคนเกาหลีเล็ก ๆ แต่มันไปกระทบความรู้สึกของบรรดาแฟนคลับลิซ่าที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนคลับคนไทย ประกอบกับก่อนหน้านี้ไทยเกิดกระแสแบนเกาหลีจากความไม่พอใจกรณี ตม.เกาหลีที่เลือกปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวเกาหลี ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาของทางเกาหลีซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในการคัดกรองคนเข้าประเทศ ทำให้คนที่ตั้งใจเข้าไปเที่ยวแต่ถูก ตม.ส่งกลับได้รับความเสียหาย ขณะที่แรงงานไทยก็อาจจะเข้าไปสร้างปัญหาให้เขาเหมือนกัน เมื่อเกิดความไม่เข้าใจกันในกรณีของลิซ่าก็เลยลุกลามกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวซึ่งขยายผลไปใหญ่โต

“มีคนเกาหลีที่พูดภาษาไทยได้ เขาบอกว่าเขาเสียใจนะที่มีคนเกาหลีบางคนมาโพสต์เหยียดลิซ่า เขาก็อยากอธิบายว่าคนเกาหลีเสียใจและอยากให้คนไทยกับเกาหลีเข้าใจกัน แล้วก็มีคนเกาหลีบางส่วนโพสต์ต่อว่าคนเกาหลีที่โพสต์เหยียดลิซ่าด้วย ซึ่งวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของเกาหลีคือ ถ้าเขาเห็นไม่ตรงกัน เขาจะโต้เถียงจัดการกันเอง เราไม่ต้องทำอะไรเลยให้เขาจัดการกันเอง ไม่ต้องไปตีกับเขา เราไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า ผมคิดว่าสิ่งที่สร้างลิซ่าขึ้นมาก็คือตัวของลิซ่าเองนี่ล่ะครับ สิ่งที่พวกเราชาวไทยทำได้ก็คงเป็นการแสดงความยินดีในฐานะเพื่อนร่วมชาติและช่วยสนับสนุนน้องในทุกผลงานต่อจากนี้ ส่วนมิวสิกวิดีโอล่าสุดที่น้องออกมาก็อาจเป็นไปได้ที่คนจะมองว่าแซะเกาหลี แต่ผมเชื่อว่าเกาหลีคงไม่มีโกรธเคือง เพราะหนึ่งในความเป็นเกาหลีก็คือความกล้าพอที่จะเปิดให้คนข้างนอกมาวิพากษ์มาท้าทาย” นายเสกสรร ระบุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top