Wednesday, 11 June 2025
World

ชีวิตจริงของผู้ออกข้อสอบ ‘เกาเข่าจีน’ ต้องตัดขาดจากโลก นาน 1 เดือนเต็ม

(10 มิ.ย. 68) ก่อนการสอบ “เกาเข่า” หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยของจีนจะเริ่มขึ้นในแต่ละปี ซึ่งมีกลุ่มคนสำคัญที่ต้อง “หายตัวไปจากโลก” นานถึงหนึ่งเดือนเต็ม และไม่ใช่อาชญากร แต่คือ “ผู้ออกข้อสอบ” ซึ่งต้องรับหน้าที่สำคัญในการออกข้อสอบให้เป็นธรรม ปลอดการรั่วไหล ยุติธรรมที่สุดสำหรับนักเรียนหลายสิบล้านคนทั่วประเทศ พวกเขาเหล่านี้ต้องเซ็นสัญญารักษาความลับ และถูกนำตัวไปกักบริเวณทันทีแบบลับๆ

ในช่วงกักตัว ผู้ออกข้อสอบจะถูกยึดโทรศัพท์ ห้ามใช้คอมพิวเตอร์ และตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตโดยสิ้นเชิง แม้แต่ครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อได้ พวกเขาอาจบอกได้เพียงว่า “ไปทำงานนอกสถานที่” เพื่อปิดบังจุดประสงค์ที่แท้จริง ความเงียบงันและการตัดขาดนี้เป็นมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อสอบ ซึ่งถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ของจีน โดยที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยเกิดข้อสอบรั่วแม้แต่ครั้งเดียว

ผู้ออกข้อสอบต้องทำงานภายใต้การจับตาของกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ร่างข้อสอบผิดพลาดเล็กน้อยก็ต้องเผาทิ้งทันที พวกเขายังต้องเตรียมข้อสอบ 2 ชุด ทั้งชุดจริงและชุดสำรอง โดยแม้แต่ตัวผู้ออกข้อสอบเองก็ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ชุดไหน การมีระบบสำรองเช่นนี้ทำให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น โรคระบาด หรือเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที

เพื่อหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน มีข้อห้ามชัดเจนว่า ผู้ออกข้อสอบจะต้องไม่มีญาติหรือบุตรหลานที่สอบเกาเข่าในปีเดียวกัน และห้ามสอนนักเรียนระดับ ม.6 โดยเด็ดขาด บางคนถึงขั้นถอนตัวจากหน้าที่ออกข้อสอบด้วยตนเอง เช่น ศาสตราจารย์รายหนึ่งที่ขอยกเลิกการเป็นผู้ออกข้อสอบ เนื่องจากบุตรชายจะเข้าร่วมสอบในปีนั้น ข้อมูลยังเผยว่า กว่า 90% ของผู้ออกข้อสอบต้องยอมถูกโยกย้ายตำแหน่งชั่วคราว เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ

แม้ผู้ออกข้อสอบจะดูเหมือนมีอำนาจในการกำหนดอนาคตของนักเรียน แต่พวกเขาเองก็ต้องรับผิดชอบต่อคุณภาพของข้อสอบ หากข้อสอบยากเกินไปจนคะแนนเฉลี่ยต่ำลง กระทรวงศึกษาธิการจะเรียกทีมออกข้อสอบมาหารือทันที เช่นในปี 2021 ที่ข้อสอบคณิตศาสตร์บางมณฑลยากเกินไป ทีมออกข้อสอบต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณชน และแนวข้อสอบก็ถูกปรับในปีถัดมา เพื่อความสมดุล

เบื้องหลังข้อสอบที่ยุติธรรม คือการเสียสละเสรีภาพ ความสะดวกสบาย และแม้แต่โอกาสในหน้าที่การงานของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ยอม “หายตัวไป” เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นอย่างเท่าเทียม ผู้ออกข้อสอบไม่ได้แข่งขันเพื่อชื่อเสียงหรือผลตอบแทน แต่คือผู้พิทักษ์ “ความฝัน” ที่ซ่อนอยู่ในกระดาษคำตอบของนักเรียนจีนทุกคน

จีนส่งออกไปสหรัฐฯ ดิ่งหนักสุดรอบ 5 ปี ค้ากับยุโรป-อาเซียนพุ่งแทนที่ โตแตะแสนล้านดอลล์

(10 มิ.ย. 68) การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤษภาคม 2025 ลดลงถึง 34.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐฯ ก็ลดลงกว่า 18% ส่งผลให้ดุลการค้าของจีนกับสหรัฐฯ หดตัวลง 41.55% เหลือ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แม้การค้ากับสหรัฐฯ จะลดลง แต่จีนยังคงรักษาการเติบโตของการส่งออกโดยรวมได้ที่ 4.8% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ขณะที่การนำเข้าลดลง 3.4% จากภาวะอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแอ

การค้ากับสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว ทำให้จีนเร่งปรับทิศทางการส่งออกไปยังตลาดอื่น โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 15% สหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 12% และแอฟริกาเพิ่มขึ้นกว่า 33% ส่งผลให้ดุลการค้ารวมของจีนในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า แตะ 103,200 ล้านดอลลาร์

ภายใต้แรงตึงเครียดทางการค้า จีนและสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการภาษีตอบโต้ แม้สหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 51.1% แต่จีนยังเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ อยู่ที่ 32.6% การปรับเปลี่ยนทิศทางการค้าครั้งนี้สะท้อนยุทธศาสตร์ของจีนที่พึ่งพาตลาดทางเลือกในช่วงวิกฤต

ขณะที่สหรัฐฯ ถอยห่างจากจีน แต่ยุโรปกลับเดินเกมตรงข้าม โดยเพิ่มการค้ากับจีนอย่างต่อเนื่อง บริษัทในยุโรปไม่ได้ถูกกดดันให้กระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีนเท่ากับฝั่งสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับยุโรปยังแน่นแฟ้น ส่งผลให้จีนสามารถชดเชยการส่งออกที่หายไปจากตลาดสหรัฐฯ ได้บางส่วน

เครื่องบินรบจีน J-36 เผยโฉมดุจหนังไซไฟ ผู้เชี่ยวชาญยกให้ น่าสนใจสุดในรอบหลายสิบปี

(10 มิ.ย. 68) ภาพล่าสุดของเครื่องบินรบล้ำยุค J-36 และ J-50 ของจีน จุดกระแสถกเถียงอีกครั้งถึงความก้าวหน้าทางอากาศของปักกิ่งในเวทีโลก โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า จีนกำลังเข้าใกล้การครองความเป็นใหญ่ด้านอำนาจทางอากาศในยุคถัดไป

บิล สวีทแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post ว่า “ดีไซน์ของ J-36 และ J-50 นั้นน่าทึ่งยิ่งกว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูด” พร้อมยกย่องว่าเป็น “หนึ่งในเครื่องบินรบที่น่าสนใจที่สุดในรอบหลายทศวรรษ”

ปีเตอร์ เลย์ตัน อดีตนายทหารอากาศของออสเตรเลีย ระบุว่า J-36 มีความสามารถด้านล่องหน ระยะปฏิบัติการไกล และเร่งความเร็วเหนือเสียงได้โดยไม่ต้องเปิดใช้งานระบบเผาไหม้หลัง ซึ่งทำให้มัน “ยากต่อการสกัดก่อนปล่อยอาวุธ” และถือเป็น “ข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์อย่างมีคุณภาพ”

สำหรับเครื่องบิน J-36 และ J-50 ถูกมองว่าเป็นหมากตัวใหม่ในเกมอำนาจทางทหารของจีน ท่ามกลางการแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานขั้นสูงกับสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

กัมพูชาโกยรายได้จาก ‘คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์’ พุ่งแตะ 6.2 แสนล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้น 85% จากปี 67

(11 มิ.ย. 68) กรมสรรพากรของกัมพูชาเปิดเผยว่า รายได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ในประเทศสูงถึง 60% ของ GDP หรือประมาณ 620,000 ล้านบาทต่อปี กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาล แซงหน้าอุตสาหกรรมสิ่งทอซึ่งเคยเป็นรายได้หลักดั้งเดิมของประเทศ

ในปี 2024 กัมพูชาเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนและการพนันรวม 63.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,061 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 85% จากปีก่อนหน้า โดยมีกาสิโนที่ได้รับใบอนุญาต 195 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่บริเวณชายแดน เช่น บาเวตและปอยเปต เพื่อรองรับนักพนันต่างชาติ โดยเฉพาะชาวไทย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากองค์กรต่างประเทศชี้ว่า อุตสาหกรรมอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชามีผู้เกี่ยวข้องกว่า 150,000 คน และเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ข้ามชาติจากกว่า 70 ประเทศ โดยมีการฟอกเงินผ่านธุรกิจพนัน ส่งผลให้รัฐบาลฮุน เซน ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม

ทั้งนี้ ภายใต้แรงกดดันจากข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพไทยได้ใช้มาตรการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และจำกัดการข้ามแดน เพื่อกดดันอุตสาหกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของกัมพูชา แม้รัฐบาลจะปฏิเสธความเกี่ยวข้อง แต่รายงานระบุว่ารายได้จากกิจกรรมเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในโครงการของรัฐและการควบคุมทางการเมืองภายในประเทศ

รัสเซีย-เกาหลีเหนือ กลับมาเดินรถไฟระยะไกลสุดในโลกอีกครั้งในรอบ 4 ปี ระหว่างกรุงเปียงยาง-มอสโก เริ่ม 17 มิ.ย.นี้

(11 มิ.ย. 68) รัสเซียและเกาหลีเหนือเตรียมกลับมาให้บริการ เดินทางด้วยรถไฟโดยสารที่ระยะไกลสุดในโลกระหว่างกรุงเปียงยาง-มอสโก เริ่ม 17 มิถุนายนนี้ หลังระงับไปกว่า 4 ปี จากมาตรการปิดพรมแดนช่วงโควิด-19

รถไฟสายตรงดังกล่าวใช้เวลาเดินทาง 8 วัน โดยขาไปจะออกจากกรุงเปียงยาง วันที่ 17 มิถุนายน ถึงมอสโก วันที่ 25 มิถุนายน ส่วนขากลับจะออกจากกรุงมอสโก วันที่ 26 มิถุนายน ถึงเปียงยางวันที่ 4 กรกฎาคม ให้บริการเดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 3 และ 17 ของทุกเดือน

สำหรับรถไฟจะให้บริการแบบไม่แวะจอดนอกกำหนด โดยจะมีจุดจอดตามเมืองใหญ่ในรัสเซียประมาณ 12 เมือง เช่น อีร์คุตสค์ ครัสโนยาสค์ โนโวซีบีสค์และเยคาเตรินบุร์ก โดยทางการรถไฟเกาหลีเหนือจะเป็นผู้ดำเนินการตู้โดยสารของตนเอง

ขณะที่ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ จะมีการกลับมาเปิดเดินรถไฟระหว่างเปียงยาง-ฮาบารอฟสค์ แบบรายเดือนเพิ่มเติมด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ

ทั้งนี้ ความร่วมมือรัสเซีย-เกาหลีเหนือแน่นแฟ้นขึ้นหลังสงครามยูเครน โดยมีรายงานว่า เกาหลีเหนือส่งกำลังสนับสนุนรัสเซียในแนวรบเมืองคูร์สก์ และได้ลงนามข้อตกลงความมั่นคงร่วมกันเมื่อปลายปี 2024

‘รัสเซีย’ โจมตี ‘ยูเครน’ ครั้งใหญ่สุดในรอบ 3 ปี โรงงานผลิตอาวุธ-คลังน้ำมัน-โครงสร้างพื้นฐานพังยับ

(11 มิ.ย. 68) กรุงเคียฟเผชิญการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในปี 2565 โดยมีการโจมตีเป้าหมายสำคัญทางทหารและอุตสาหกรรมทั่วเมือง รวมถึงโรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองโอเดสซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่า การโจมตีแบบผสมผสานด้วยขีปนาวุธและโดรนครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการบิน ขีปนาวุธ ยานเกราะ และโรงงานต่อเรือในเคียฟ โดยเฉพาะโรงงาน Artem, โรงงานหุ้มเกราะเคียฟ และคลังเชื้อเพลิงจรวดซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไฟยังคงลุกไหม้หลายชั่วโมงหลังถูกถล่ม

นอกจากนี้ โดรนและขีปนาวุธรัสเซียมากกว่า 200 ลำพุ่งเป้าโจมตีจุดยุทธศาสตร์ในเขต Vyshgorod, Boryspil, Bila Tserkva รวมถึงสนามบินทหารและคลังน้ำมันหลักของเคียฟ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมได้รับความเสียหาย ถนน เส้นทางรถไฟ และคลังสินค้าหลายแห่งถูกทำลาย

หนึ่งในจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือคลังเก็บหัวรถจักร Darnitsa ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทหารทางราง และฐานซ่อมบำรุงของยานเกราะที่เก็บรถถังและอาวุธหนัก ขณะที่วิดีโอจากภาคสนามเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เฮลิคอปเตอร์ Ka-32 พยายามควบคุมเพลิงในคลังเชื้อเพลิงกลางเมือง

ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี ประณามรัสเซียว่า “จงใจโจมตีหัวใจของชาติ” พร้อมเรียกร้องพันธมิตรเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรและสนับสนุนระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม แม้จะมีความพยายามเจรจาสันติภาพเมื่อไม่นานนี้ แต่การโจมตีล่าสุดยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดของสงครามที่ยังไม่มีจุดสิ้นสุด

สหรัฐฯ เลิกทุ่มงบช่วยยูเครน ในปี 2026 ชูแนวทางเจรจากับรัสเซีย แทนการส่งอาวุธ

(11 มิ.ย. 68) พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงต่อสภาคองเกรสว่า รัฐบาลทรัมป์เตรียมลดงบประมาณช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนในร่างงบประมาณกลาโหมปี 2026 โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ ต้องให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตนเองท่ามกลางปัญหาทั่วโลกที่แข่งขันกัน

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุอีกว่า รัฐบาลชุดนี้มีมุมมองต่อความขัดแย้งในยูเครนต่างจากอดีต โดยมองว่า “การเจรจาเพื่อยุติสงครามอย่างสันติ” คือแนวทางที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย และกับสหรัฐฯ เอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าการปรับลดจะมีขนาดมากน้อยเพียงใด

ท่าทีล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่ยูเครน โดยเฉพาะในกรุงเคียฟ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ได้ร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศจากสหรัฐฯ โดยเสนอซื้อด้วยเงินของยูเครนแทนการรับความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ ตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนมากกว่า 66,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,376 ล้านบาท) แต่รัฐบาลทรัมป์ได้ระงับแพ็กเกจช่วยเหลือใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มวาระสองในเดือนมกราคม และมีท่าทีแข็งกร้าวต่อยูเครนมากขึ้น ทั้งยังถอนตัวจากเวทีหารือด้านความมั่นคงร่วมกับพันธมิตรหลายครั้งในระยะหลัง

เอกสารลับรัสเซียเผย FSB กลัวจีนแทรกซึมล้วงข้อมูล อ้างปักกิ่งวางแผนผนวกดินแดน ‘วลาดิวอสต็อก’

(11 มิ.ย. 68) เอกสารลับของหน่วยข่าวกรองภายในรัสเซีย (F.S.B.) ที่เพิ่งถูกเปิดเผย ระบุว่าจีนเป็น 'ศัตรู' และกำลังแทรกซึมเพื่อขโมยเทคโนโลยีทางทหารของรัสเซีย รวมถึงพยายามชักชวนผู้เชี่ยวชาญรัสเซียให้ทำงานเป็นสายลับ

แม้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะประกาศมิตรภาพแน่นแฟ้นกับจีนอย่างเป็นทางการ แต่ภายใน F.S.B. ได้ดำเนินแผนต้านการจารกรรมจากจีนตั้งแต่ต้นปี 2022 ภายใต้ชื่อ 'Entente-4' พร้อมจับตานักวิชาการ นักข่าว และเจ้าหน้าที่ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน

รายงานระบุว่าจีนพยายามล้วงข้อมูลการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยมุ่งเรียนรู้เทคโนโลยีโดรน การรับมืออาวุธตะวันตก และกำลังจับตานักวิทยาศาสตร์การบินและอดีตวิศวกรโครงการยุทธศาสตร์โซเวียตที่ถูกยุบ

จีนยังถูกกล่าวหาว่าใช้มหาวิทยาลัยและบริษัทเหมืองแร่เป็นฉากหน้าในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาภูมิภาคอาร์กติกของรัสเซีย พร้อมทั้งขยายอิทธิพลในเอเชียกลางผ่านยุทธศาสตร์แลกเปลี่ยนเชิงมนุษยธรรม โดยเริ่มที่อุซเบกิสถาน

F.S.B. แสดงความกังวลว่าจีนกำลังพยายามสร้างข้ออ้างทางประวัติศาสตร์เพื่อเรียกร้องดินแดนในภาคตะวันออกไกลของรัสเซียอย่าง 'วลาดิวอสต็อก' และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการวิจัยที่อาจเชื่อมโยงถึงแนวคิด 'ทวงคืนดินแดน' 

สำหรับ วลาดิวอสต็อก (Vladivostok) เป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกไกลของรัสเซียในปัจจุบัน เคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจักรวรรดิจีนในสมัยราชวงศ์ชิง ก่อนที่จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ผ่านสนธิสัญญาที่ฝ่ายจีนมองว่าเป็น 'สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม'

นอกจากในรายงานยังอ้างถึงเจ้าหน้าที่รัสเซียได้รับคำสั่งให้สอดแนมผู้ใช้งานแอป WeChat รวมถึงตรวจสอบนักศึกษารัสเซียกว่า 20,000 คนในจีน โดยจีนยังพยายามสรรหาชาวรัสเซียที่แต่งงานกับชาวจีนเป็นสายลับ

แม้เอกสารจะแสดงความกังวลอย่างชัดเจน แต่ก็ระบุว่าการรักษาความสัมพันธ์กับจีนยังสำคัญยิ่ง เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องได้รับอนุมัติจากระดับสูงสุดก่อนจะดำเนินการใด ๆ ที่อาจกระทบสัมพันธ์ทวิภาคี

ซีอีโอของหัวเว่ย ยอมรับชิปจีนล้าหลังสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมแพ้!!...มั่นใจใช้เทคนิคพิเศษทดแทนได้

(11 มิ.ย. 68) เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของหัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei) เปิดเผยว่า ชิป Ascend ของบริษัทยังล้าหลังกว่าของสหรัฐฯ ราวหนึ่งเจเนอเรชัน แต่สามารถบรรลุประสิทธิภาพระดับสูงสุดได้ด้วยเทคนิคการจัดเรียงและการประมวลผลแบบกลุ่ม โดยหัวเว่ยได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีในการวางชิปซ้อนกันเพื่อลดขนาดโปรเซสเซอร์

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ People's Daily ซีอีโอของหัวเว่ยระบุว่า การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ไม่สามารถหยุดยั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมชี้ว่าจีนมีข้อได้เปรียบหลายด้าน เช่น พลังงานไฟฟ้า เครือข่ายสื่อสาร และเยาวชนที่เก่งจำนวนมาก

เหริน เจิ้งเฟย กล่าวอีกว่า AI คือ “การปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ” ควบคู่กับพลังงานสะอาดจากนิวเคลียร์ฟิวชัน และระบุว่าอัลกอริธึม AI จะถูกใช้งานจริงในภาคพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ถ่านหิน และยา ไม่ใช่แค่ในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น

บทสัมภาษณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่ว่า การใช้ชิป Ascend ของหัวเว่ยในที่ใดก็ตามทั่วโลก อาจละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

ซีอีโอวัย 80 ปี เน้นย้ำว่าหัวเว่ยเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทชิปของจีนอีกจำนวนมาก พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ “พูดเกินจริง” ถึงความสำเร็จของหัวเว่ย และย้ำว่าจีนควรลงทุนในงานวิจัยพื้นฐานเพื่อพึ่งพาตนเองในระยะยาว แทนที่จะนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top